เยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ พาสือจวินกับเฉินอิ๋งเหาะออกจากน่านน้ำของทะเลตาข่ายดาว
ในตอนที่เหาะอยู่นั้น ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปพลาง แบ่งสมาธิส่วนหนึ่งมาอยู่ที่คานวังเทพที่เพิ่งได้มาไปพลาง
เมื่อมีร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่แข็งแกร่ง และเสาระเบียงวังเทพคอยช่วยเหลือ การหลอมคานวังเทพของเขาจึงง่ายขึ้นมาก
ขณะทำความเข้าใจกับลวดลายอาคมอันลี้ลับมากมายบนคาน เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้ประโยชน์ไม่น้อย ทั้งยังทำให้นึกถึงความทรงจำที่ซ่อนไว้ในส่วนลึกที่สุด
เป็นควาทรงจำที่เกี่ยวข้องกับก่อนมหาภัยพิบัติ
หลังจากออกจากทะเลตาข่ายดาวแล้ว จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้สติ ขณะเดียวกันร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ใช้ความสามารถในการรับรู้ทั้งหมดของตนถึงขีดสุด เริ่มต้นเสาะหาบริเวณรอบๆ
ไม่ทันไร กลิ่นอายอันแข็งแกร่งหลายสายก็ปรากฏขึ้นห่างออกไป ดูโดดเด่นเช่นประภาคารที่กำลังส่งสัญญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอปรับทิศทาง เคลื่อนไหวไปทางนั้นทันที
ไกลออกไป เกาะน้อยแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนที่ที่ฟ้าดินเชื่อมติดกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไปถึงบนเกาะในชั่วพริบตา เห็นบนเกาะแบ่งเป็นค่ายที่แตกต่างกัน ยังมีคนจำนวนมากรออยู่ที่นั่น
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้รู้จักคนบนโลกผืนสมุทรทุกคน แต่ยังดีที่รู้จักสัญลักษณ์บนเสื้อผ้าของแต่ละสำนัก
นอกจากคนของเขาหงส์วิเศษและสำนักมังกรโลหิตแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกวาดตามองไป เห็นว่าคนของวังผลึกวารี บึงหมื่นกระบี่ เกาะจิตประสาน สำนักคืนวิญญาณ และสำนักพายุโหมล้วนอยู่ที่นี่
เจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมมะต่างมากันครบครัน
ลูกศิษย์ที่เป็นแขกของเขาหงส์วิเศษลักพาตัวลูกศิษย์หญิงทั่วไปของสำนักมังกรโลหิต ยังมิอาจก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้
แต่ถ้าหากสตรีที่ถูกลักพาตัวไปเป็นธิดาของเจ้าสำนักมังกรโลหิต ขณะเดียวกันยังได้สังหารหลานของเหนียนเชิน ซึ่งถูกจัดเป็นอันดับสามในยอดฝีมือระดับบรรลุธรรมสิบอันดับแรก นี่ก็มิใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว
ดูว่าเขาหงส์วิเศษจะยังช่วยสือจวินหรือไม่ ถ้าหากยังเข้าข้าง เช่นนั้นการต่อสู้ระหว่างสองสำนักระดับสูงของฝ่ายธรรมมะก็จะเกิดขึ้น
ครั้นคนบนเกาะเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างสมุทรสุดขอบโลก ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกงงงัน
คนจากสำนักมังกรโลหิตต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่ง
พวกเขาทราบข่าวการต่อสู้ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับเหนียนเชินแล้ว แต่กลับยังไม่รู้ว่าชายหนุ่มเจอสือจวินกับเฉินอิ๋งก่อน
สวีเฟยบอกว่าได้ที่อยู่ของสือวินมาแล้ว จึงเรียกรวมทุกคนมารออยู่ที่นี่ กล่าวว่าอีกเดี๋ยวสือจวินจะปรากฏตัว
เมื่อห็นสวีเฟยมีความมั่นใจเช่นนี้ จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตก็คิดในใจว่า หากเยี่ยนจ้าวเกออยู่ใกล้ๆ ผลลัพธ์สมควรเป็นผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ถึงขีดสุด
การติดต่อสื่อสารในทะเลตาข่ายดาวไม่สะดวกมากนัก เหนียนเชินกับเฉินซื่อเฉิงเมื่อได้รับข่าว ก็กำลังรีบมายังที่นี่ในทันที
ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างสมุทรสุดขอบโลกที่ลงมาจากฟากฟ้า คนของสำนักมังกรโลหิตก็รู้สึกกดดันเล็กน้อย
คนจากสำนักอื่นเห็นเยี่ยนจ้าวเกออยู่กับสือจวินด้วยกัน ในใจถึงได้เข้าใจ เกิดความคิดเหมือนกับเหนียนเชินและเฉินซื่อเฉิง ‘คนผู้นี้ถึงกับออกหน้าเพื่อสือจวินด้วยตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องไม่ธรรมดาแน่!’
‘เรื่องนี้เกรงว่ายากจะเลิกราแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้ถ้าหากตั้งใจปกป้องสือจวินโดยไม่แยกแยะเขียวแดงดำขาว[1] ต่อให้เขาหงส์วิเศษกับวังผลึกวารีไม่ออกหน้า เหนียนเชินคิดแก้แค้นก็ไม่ง่ายนัก’
เยี่ยนจ้าวเกอเหาะลงถึงพื้น กวาดตามองรอบๆ ไม่ได้กล่าวอะไร ทุกคนล้วนจิตใจสั่นสะท้าน
สวีเฟยเห็นเยี่ยนจ้าวเกอพาสือจวินกับเฉินอิ๋งมาด้วย เขาพลันระบายลมหายใจโล่งอก
ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่สวี ดีที่ไม่ทำท่านผิดหวัง ในที่สุดก็พาจวินเอ๋อร์กลับมาโดยสวัสดิภาพ”
สือจวินคำนับสวีเฟยก่อน “ท่านอาจารย์ ข้าทำให้ท่านเป็นห่วงแล้ว”
ฝ่ายสวีเฟยส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร แต่เป็นผู้อาวุโสทุกท่านที่อยู่ที่นี่วิ่งวุ่นช่วยเจ้า สร้างความลำบากให้ทุกคนแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี