ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 549

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอกางแขน ท่าหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกยืดยาวไปสุดขอบฟ้า แทงใส่ลิ่นเชียนเฉิง

ถึงอย่างไรหอกที่ถูกสร้างด้วยกระดูกสันหลังและปราณกระดูกของเจ้าสำนักตาข่ายปีศาจเฝิงจิ่งเซิงก็มิใช่อาวุธที่แท้จริง ได้แต่ใช้แก้ขัดไปก่อน

แต่ว่าในตอนนี้เมื่อใช้หมัดต่างหอก ใช้วิญญาณหอกเป็นวิชาหมัด ก็ยังมีอานุภาพสั่นสะท้านอยู่ดี

ลิ่นเชียนเฉิงฝึกปรือเคล็ดวิชามารเงาลวง ไม่ได้มีการเข้าปะทะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาอ่อนแอพอดี ยิ่งไม่อาจรับมือความรุนแรงของหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกได้

บริเวณที่คมหอกกระทบถูก ร่างกายที่เหมือนกับเงาดำของลิ่นเชียนเฉิงพลันสั่นไหวราวกับคลื่นน้ำ คล้ายกับถูกฉีกกระชาก

เขาไม่กล้ารั้งอยู่ต่อ จึงกลายร่างเป็นเงาดำหลายกลุ่ม บินหนีไกลออกไปด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของทะรางเลือน

เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตาเล็กน้อย ไม่ได้หยุดนิ่ง สั่งให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไล่ตาม

ต่อให้ลิ่นเชียนเฉิงอยู่ในช่วงเวลาที่พร้อมที่สุด แค่ความเร็วก็ยังสู้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้

ดังนั้นแม้เขาจะคิดหนี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจสลัดหลุดจากการไล่ตามของเยี่ยนจ้าวเกอได้

กระนั้นในมือของลิ่นเชียนเฉิงก็คล้ายกับมีของวิเศษบางอย่าง ทุกครั้งที่เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเกือบจะไล่ตามทัน มือของลิ่นเชียงเฉิงจะมีแสงสว่างวาบขึ้น

ชายหนุ่มมองดูแล้ว นั่นเหมือนกับเป็นไข่มุกเม็ดหนึ่ง

ไข่มุกเม็ดที่ว่าเหมือนกับดวงตาของมังกร ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหว เมฆที่อยู่รอบๆ จะจับตัวกัน กลายเป็นรูปลักษณ์ของมังกร ช่วยลิ่นเชียนเฉิงขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอ

เหมือนกับเติมดวงตาให้กับมังกร

ดวงตามังกรเคลื่อนไหว ลมปราณของมังกรที่อยู่รอบๆ หนาหนักหลายส่วน จับตัวกันหลายส่วน

หลังจากถูกร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกโจมตีกระจาย ก็รวมตัวกันกลายเป็นเมฆหมอกอีกครั้ง แต่หลังจากดวงตามังกรในมือของลิ่นเชียนเฉิงกะพริบอีกครั้ง เมฆหมอกรอบๆ ก็จับตัวกันใหม่

เขาอาศัยการช่วยเหลือจากของวิเศษ หนีเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของทะเลรางเลือนอย่างทุลักทุเลในลักษณะนี้

ตามความรู้ทั่วไปบนโลกผืนสมุทร เมื่อมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องระวังตัว น้อยครั้งจึงมีคนย่างกรายเข้ามา

เยี่ยนจ้าวเกอมิได้ลังเล หลังจากไล่ตามลิ่นเชียนเฉิงพร้อมกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก เขาก็เข้ามาในแดนอันตรายที่มีร่องรอยมนุษย์อยู่น้อยแห่งนี้

เมื่อมาถึงที่นี่เขาก็รู้สึกได้ว่า ปราณมังกรเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าเมฆหมอกที่อยู่รอบๆ คล้ายกับมีมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางซ่อนอยู่ด้านใน

ชายหนุ่มคล้ายนึกอะไรได้ จากนั้นก็เห็นเงามืดที่ครอบคลุมลิ่นเชียนเฉิงอยู่ด้านหน้าพุ่งลงด้านล่างมหาสมุทร มุดเข้าไปในน้ำทะเล

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกต่อยหมัดลง น้ำทะเลพลันแหวกออก ด้านล่างกลับเป็นร่องสมุทรไม่เห็นก้นแห่งหนึ่ง

ร่างของลิ่นเชียนเฉิงพุ่งเข้าไปด้านใน ก่อนจะค่อยๆ หายตัวไป

แต่ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพาเยี่ยนจ้าวเกอตามติดไปเบื้องล่าง จ้องมองลิ่นเชียนเฉิงไม่วางตา

ลิ่นเชียนเฉิงหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ แยกสองฝ่ามือโจมตีออกไป ไม่ได้โจมตีไปยังผู้ไล่ตาม แต่สั่นสะเทือนร่องสมุทรรอบๆ แทน

กลางร่องสมุทรพลันมีปราณสีดำจำนวนมากผุดออกมา พุ่งเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอและร่างสมุทรสุดขอบโลกเหมือนมังกรร้ายหลายตัว

เยี่ยนจ้าวเกอมองปราณสีดำเหล่านี้แวบหนึ่ง รู้ว่าเป็นลมปราณชีวิตที่โชติช่วงเปลี่ยนกลับกลายเป็นปราณความตาย พลังชีวิตก่อนหน้านี้เต็มเปี่ยมถึงเพียงใด บัดนี้กลิ่นอายความตายในก็ยิ่งหนาหนักขึ้นเท่านั้น ทำเอาเขาแทบจะต้องกลั้นหายใจ

ปราณความตายอันยิ่งใหญ่คล้ายกับคิดกลืนกินชีวิตที่เข้ามายังที่นี่ ทำให้พวกเขาหลุดเข้าไปในความตาย อยู่ที่นี่ตลอดกาล

‘มิน่าที่นี่ถึงได้เป็นแดนอันตราย มีคนไม่กี่คนย่างกรายเข้ามา’ เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจ

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครบอกถึงความเป็นมาของปราณความตายที่อยู่ที่นี่ได้ แต่ในตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมั่นใจแล้วว่า ปราณความตายที่โชติช่วงนี้มาจากแดนฝังกระดูกของฝูงมังกรนั่นเอง

มังกร ป็นสิ่งมีชีวิตที่ก่อเกิดโดยธรรมชาติ มีลมปราณแข็งแกร่งถึงขีดสุด แม้เป็นมังกรเด็กที่ยังไม่เติบโตก็มีวิญญาณและพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมากแล้ว

ความตายของมังกรตัวหนึ่งก่อให้เกิดปราณความตายยิ่งใหญ่ อย่าว่าแต่ฝูงมังกรเลย

ลิ่นเชียนเฉิงมาที่นี่กลับเหมือนปลาได้น้ำ เขาที่อยู่ในช่วงอ่อนแอ พลังของเขาจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้น

เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่านี่เป็นเพราะวิชาเคล็ดวิชามารเงาลวง วิชาที่ถนัดการช่วงชิงพลังของสิ่งมีชีวิต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี