ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 554

ณ โลกแปดพิภพ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์รวมตัวกันที่ทะเลตะวันออก ต่อสู้กับปีศาจอัคคี

การต่อสู้ในครั้งนี้ สุดท้ายเจ้าสำนักเขากว่างเฉิงเยี่ยนตี๋ ปราชญ์ภาพวาดผู้อาวุโสม่อ ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์หวงกวงเลี่ย และเจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงร่วมมือกัน ใช้ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายสะกดปีศาจอัคคีและประตูทางเชื่อมเขตแดนที่เชื่อมไปยังโลกปีศาจอัคคี

จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ยินดีและฮึกเหิม ในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สังหารยอดฝีมือเผ่าปีศาจอัคคีได้เป็นจำนวนมาก ยังสะกดทางเชื่อมเขตแดนได้อีกด้วย ปีศาจอัคคีไม่อาจส่งผลคุกคามโลกแปดพิภพได้อีกในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ภัยพิบัติจากปีศาจอัคคีที่เกิดขึ้นมาหลายปี ครั้งนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว

ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายที่สะกดปีศาจอัคคีมาจากเขากว่างเฉิง เขากว่างเฉิงเป็นผู้มอบให้ใต้หล้า

แต่ว่าในสงครามครั้งนี้ ราคาที่จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ต้องจ่ายก็มีไม่น้อย แต่ว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดก็คือ อัจฉริยะอันดับหนึ่งรุ่นเยาว์ในปัจจุบันของแปดพิภพ เยี่ยนจ้าวเกอผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า

ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายสะกดปีศาจอัคคีอย่างมั่นคง แต่ว่าในตอนที่ผนึกก่อตัวก็ทำให้เกิดแรงทำลายมหาศาลที่ด้านนอกและด้านในข่ายอาคม

คนที่มีระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ยากจะหนีพ้นภัยพิบัติ

เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนั้นก็อยู่ในค่ายกลเช่นกัน ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงออกมาไม่ทันเวลา หลังจากผนึกทะเลตะวันออกสร้างสำเร็จแล้ว เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีก

หลังจากทุกคนตามหาแล้วไม่พบร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอ จิตใจก็พลันรู้สึกหนักอึ้ง

หากพิจารณาตามปกติ เยี่ยนจ้าวเกอน่าจะประสบเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี เป็นไปได้ว่าจะโดนลูกหลงจากผนึก ตายในสงครามแห่งยุคครั้งนี้

หากเป็นเช่นนั้น ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงย่อมสูญเสียอย่างใหญ่หลวง คนในสำนักจึงไม่ละทิ้งความพยายามตามหาเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าหลังจากเวลาผ่านไปกลับยังคงไร้วี่แวว ความหวังในใจของผู้คนยิ่งมายิ่งน้อยลง

นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ยอดฝีมือระดับสูงของเขากว่างเฉิง ยังมีฟูเอินซูที่ถูกม้วนเข้าไปในอาณาเขตที่ผนึกไปถึงด้วย

นี่ทำให้เขากว่างเฉิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เกิดความขัดแย้งขึ้นทันทีที่สงครามจบ ทั้งสองฝ่ายเกือบจะสู้กันบนทะเลตะวันออก

ลูกศิษย์ของฟูเอินซู เฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัวรายงานสำนักว่า ในตอนที่ผนึกทะเลตะวันออกกำลังทำงาน อยู่ๆ ก็มียอดฝีมือระดับสูงจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ลอบโจมตีพวกนาง ทำให้ผู้เป็นอาจารย์ถูกม้วนเข้าไปในผนึก

ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันไม่ยอมลดราวาศอก และในช่วงเวลานี้เองก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

ในสงครามกับปีศาจอัคคีก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนฉู่เหยียนได้รับบาดเจ็บกลับไปพักฟื้นที่สำนัก ได้ฝากขวานจามสวรรค์ อันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของสำนักให้ผู้อาวุโสสูงสุดหลี่จิ่งถู

ถึงขวานจามสวรรค์จะได้รับความเสียหายหนัก แต่เพื่อรับมือกับการโจมตีของปีศาจอัคคี หลี่จิ่งถูกับขวานจามสวรรค์จึงยังอยู่ที่ทะเลตะวันออก

สุดท้ายผนึกก่อตัวขึ้น ทุกอย่างสับสน รอจนสถานการณ์ค่อยๆ สงบลง จอมยุทธ์เขาไร้พรมแดนคนอื่นๆ ถึงได้พบว่า ผู้อาวุโสหลี่ของตนประสบอันตราย

ส่วนขวานจามสวรรค์ได้ตกไปอยู่ในมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์แล้ว

โลกแปดพิภพต่างปั่นป่วนเพราะเหตุการณ์นี้อยู่ชั่วขณะ

ถึงขวานจามสวรรค์จะได้รับความเสียหาย แต่ว่าเมื่อสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีมงกุฎจันทราและขวานจามสวรรค์อยู่ในมือ จะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้น

เยี่ยนตี๋ ผู้อาวุโสม่อ และซ่งอู๋เลี่ยงต่างติดอยู่ในผนึกทะเลตะวันออกชั่วคราว ทว่าสิ่งที่ทำให้จิตใจของคนในเขากว่างเฉิง เมืองทะเลมรกต และเขาไร้พรมแดนหนักอึ้งยิ่งกว่าก็คือ เจ้าตำหนักอัสนีสวรรค์เฉินลี่ได้ปรากฏกาย ร่วมมือกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์

ทั้งสองฝ่ายจับมือกัน ทำเอาผู้คุมหอคลื่นโหมอันชิงหลินรู้สึกกริ่งเกรง

ส่วนเขากว่างเฉิงคับข้องใจเป็นพิเศษเพราะข่าวที่ส่งกลับมาจากปฐพีพิภพ ถึงแม้ว่าการคุกคามจากการบุกรุกของนพยมโลกได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของฝ่ายตน หยวนเจิ้งเฟิง ‘ปราชญ์เทียมฟ้า’ หายไปในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา

และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการหนีไปกลางคันของเจ้าตำหนักอัสนีสวรรค์เฉินลี่

ในขณะที่เขากว่างเฉิงประกาศว่าเฉินลี่หนีไปกลางคัน เฉินลี่กลับโต้ว่า ในตอนที่หยุดการมาของนพยมโลกนั้น เยี่ยนจ้าวเกอซึ่งเป็นคนในเขากว่างเฉินเกิดความละโมบ แตะต้องของวิเศษในปฐพีพิภพ ทำให้ผนึกพังทลาย มารร้ายเกือบจะออกมาได้สำเร็จ

เฟิงอวิ๋นเซิงเพียงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

เฟิงม่อหยางมองเฟิงอวิ๋นเซิง “ในการทดสอบแห่งจันทราครั้งที่เจ็ด ข้าขออวยพรให้ศิษย์น้องเฟิงเจ้าเอาชนะทุกคนได้ ชิงมงกุฎจันทรากลับมา”

เฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินแล้วก็ดวงตาเป็นประกาย ไม่ได้พูดว่าจะพยายามเต็มที่หรือจะทำให้ได้ แต่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ข้าจะชนะ”

นางไม่ได้อวดโอ่ทะนงตน ไม่ได้กล้าๆ กลัวๆ แต่สงบนิ่งเหมือนแผ่นดิน มั่นคงเหมือนขุนเขา

เฟิงฉือเอ่ยว่า “คนอย่างเจ้าไม่กลัวการแบกภาระ ข้าไม่กลัวว่าจะเพิ่มแรงกดดันให้เจ้า ครั้งนี้ข้าเอาใจช่วย”

“ขอบคุณอาจารย์ลุงที่อวยพร” เฟิงอวิ๋นเซิงบอกลาเฟิงฉือกับเฟิงม่อหยาง หลังจากเดินออกมาก็เห็นพวกซือคงจิงกับอิงหลงถูรออยู่ที่นั่น

เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าให้กับพวกเขา บอกว่าอาการบาดเจ็บของตนไม่เป็นไร

คนทั้งสองร่วมทางกัน ซือคงจิงเอ่ยขึ้นก่อน “สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะยึดมงกุฎจันทราไว้ ยกเลิกการทดสอบแห่งจันทราหรือไม่”

เฟิงอวิ๋นเซิงตอบ “น่าจะไม่ยกเลิก เช่นนั้นจะเป็นการผลักหอคลื่นโหมมายังฝั่งเรา ตำหนักอัสนีสวรรค์ใช่ว่าจะพอใจ ถึงสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะได้ขวานจามสวรรค์ไป แต่พวกเขายังทำตัวยิ่งใหญ่ไม่ได้”

ซือคงจิงพยักหน้า ในดวงตาที่กระจ่างใส่เปล่งประกายเย็นเยียบ “เช่นนั้นก็ประเสริฐ”

เฟิงอวิ๋นเซิงสูดหายใจลึก “ถูกแล้ว ประเสริฐยิ่ง”

ด้านหน้าของนางปรากฏใบหน้าแล้วใบหน้าเล่า มีใบหน้าของฟูเอินซูผู้เป็นอาจารย์ ใบหน้าของอาจารย์ปู่หยวนเจิ้งเฟิง…

สุดท้ายหยุดอยู่บนใบหน้ายิ้มที่ดูเรียบร้อย แต่ความจริงอวดโอ่ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี