ผู้อาวุโสฉินมองฉางเจิ้น อีกฝ่ายมีสีหน้าปกติ ในความเคร่งขรึมแทรกไว้ด้วยความกังวลอยู่หลายส่วน
ตอนนี้สำนักเจอความเปลี่ยนแปลงติดต่อกัน ยอดฝีมือระดับสูงเสียชีวิตมากเกินไป ทำให้ฉางเจิ้นมีแนวคิดไปทางอนุรักษ์นิยม ไม่นิยมความรุนแรงมากกว่า หรือว่าจะมีเหตุผลอะไรอยู่อีก
ผู้อาวุโสฉินมองไม่ออก หลังจากจางคุนครุ่นคิดครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เอ่ยขึ้น “ตอนนี้เจ้าเป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งวิหารอาญา ใช้อำนาจของเจ้าจัดการเรื่องนี้ได้เต็มที่”
ฉางเจิ้นตอบคำ “ข้าทราบดีท่านอาจารย์”
สำหรับเฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัว ยังไม่มีการคุมขัง แต่ว่าคนทั้งสองถูกจำกัดไม่ให้ไปไหน การเคลื่อนไหวได้รับการจับตาดู เหมือนถูกกักบริเวณ
สิ่งที่รอพวกนางกับหงเจียฉีอยู่คือการตรวจสอบมากมาย
เฟิงอวิ๋นเซิงบอกตัวเองว่าต้องใจเย็น เผชิญทุกสิ่งอย่างสงบนิ่ง อย่าให้กระทบถึงการฝึกฝนในยามปกติของตัวเอง
ยังห่างจากการทดสอบแห่งจันทราอีกราวๆ หนึ่งร้อยวัน ถ้าหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ นางยังสามารถเข้าร่วมได้
ถึงพวกจางคุนอยากจะละทิ้งการทดสอบแห่งจันทรา กระนั้นโอกาสในครั้งนี้ก็สูงยิ่ง ทำให้ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงลังเล
แม้ฉางเจิ้นจะจัดการเรื่องนี้ด้วยอำนาจทั้งหมด แต่เพราะความพยายามอย่างเต็มที่ของพวกผู้อาวุโสฉิน และการยอมรับเป็นนัยๆ ของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสอง จึงไม่ได้จับกุมเฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัว ปล่อยให้พวกนางฝึกฝนเหมือนปกติ
การตรวจสอบดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ฉางเจิ้นจัดการด้วยตัวเอง
“ของของเฟิงอวิ๋นเซิงอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ?” ฉางเจิ้นส่งเสียงเอ่ยถาม
ผู้อาวุโสหญิงแซ่หวังที่อยู่ด้านข้างเขาในตอนนี้ชี้แนะการฝึกฝนของเฟิงอวิ๋นเซิงกับอิ่นหลิวหัวชั่วคราว ตอบว่า “ทั้งหมดอยู่นี่หมดแล้ว รวมถึงถุงย่อส่วนของนาง แต่ว่าข้าไม่ได้ดูถุงย่อส่วนของนาง มอบให้ท่านในสภาพเดิม แต่ข้าแน่ใจว่านางมิได้ซ่อนสิ่งของไว้บนตัว”
ฉางเจิ้นพยักหน้าอย่างไร้เสียง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ‘ไม่มีแล้ว ไปอยู่ไหนกัน? หรือว่านางมิได้นำกลับมาสำนัก?’
สายตาของฉางเจิ้นปรากฏความครุมเครือ ‘หรือนางจะรู้แล้ว? ไม่ สมควรยังไม่รู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ผ่านมาตั้งนางยังไม่ได้เปิดมันขึ้น หมายความว่านางได้ของสิ่งนั้นมาโดยมิได้ตั้งใจ ยังใช้ไม่ไเป็น เช่นนี้ก็ประเสริฐ เรายังมีโอกาส’
‘แต่ของอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนได้แต่ต้องค่อยๆ เค้นถามนางแล้ว…’
ตอนที่อีกฝ่ายบอกว่าพบยันต์เงาวิญญาณแผ่นหนึ่งในถุงย่อส่วนของนาง เฟิงอวิ๋นเซิงพลันเลิกคิ้วขึ้น
ตอนนี้นางแน่ใจแล้วว่า มีคนคิดเล่นงานนาง
เพียงแต่เป็นใคร หรือว่าเป็น…พวกไหน?
เฟิงอวิ๋นเซิงมองฉางเจิ้นด้านหน้า อีกฝ่ายมีสีหน้านิ่งสงบ ไม่มีลับลมคมในใดๆ ทั้งสิ้น “ยันต์เงาวิญญาณยังไม่ได้ใช้ ไม่อาจยืนยันได้ว่าเอาไว้ติดต่อใคร กระนั้นได้พบยันต์วิญญาณใช้แล้วทิ้งที่สามารถใช้ติดต่อในระยะทางที่ค่อนข้างไกลได้ในถุงย่อส่วนของเจ้า ความน่าสงสัยของเจ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
“และหมายความว่าความน่าสงสัยของใครบางคนเพิ่มมากขึ้นด้วย” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวเรียบๆ
ฉางเจิ้นถามว่า “ศิษย์หลานอิ่นแตะต้องกับถุงย่อส่วนของเจ้าได้หรือไม่?”
“ได้” เฟิงอวิ๋นเซิงมองเขา กล่าวอย่างเชื่องช้า “ยันต์เงาวิญญาณแผ่นนี้มิใช่ของข้า”
ฉางเจิ้นเอ่ย “แต่ว่ามีกลิ่นอายปราณจิตราของเจ้าติดอยู่ด้วย”
“อาจรวบรวมมาจากสถานที่ที่ข้าเคยฝึกฝน” เฟิงอวิ๋นเซิงตอบ
“ถูกต้อง ข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ ทว่าถ้าหากเจ้ายังมีของอะไรที่ไม่ได้รายงาน ตอนนี้ทางที่ดีให้บอกมา ถ้าเจออีก จะมีแต่เพิ่มความสงสัยในตัวเจ้ามากขึ้น” ฉางเจิ้นพยักหน้า
เขามองเฟิงอวิ๋นเซิงแวบหนึ่ง “ในช่วงนี้ โดยเฉพาะสถานที่ที่เคยอยู่ตอนไปทะเลตะวันออก สรุปออกมาให้หมด วิหารอาญาจะตรวจสอบตามลำดับ จำไว้ให้ดีว่าอย่าให้ตกหล่น เพราะนั่นจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้า”
เฟิงอวิ๋นเซิงตอบ “ไม่มีตกหล่น สถานที่ที่ข้ามั่นใจล้วนบอกไปหมดแล้ว”
ฉางเจิ้นพยักหน้า ก่อนจะผละไปเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี