คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกิ่งฮุย คือผู้ปกครองเกาะของเกาะวิญญาณหลอนหลิวซั่ว หนึ่งในหกพรรคมาร
หลิวซั่วมองเกิ่งฮุย พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ท่านคิดจะพูดอะไรพูดได้เต็มที่ ถ้าหากคิดร่วมมือกันแย่งชิงของวิเศษในสุสานมังกร ใช่ว่าไม่อาจใคร่ครวญดู แต่ว่าต้องคุยกันก่อนว่าจะแบ่งของวิเศษที่ได้มาอย่างไร”
“ถ้าหากคิดร่วมมือรับมือกับคนอื่น เป้าหมายของท่านเป็นผู้ใด เยี่ยนอวิ๋นจงหรือ?”
เขามองเกิ่งฮุยแวบหนึ่ง “พวกท่าน แม้แต่เหนียนเชินที่มีนิ้วมังกรทั้งเก้าอยู่ในมือยังจัดการเขาไม่ได้ กลับถูกเขาสังหารทิ้ง พ่ายแพ้ยับเยิน”
“ข้าไม่ชอบยกย่องคนอื่น ทำลายบารมีของตัวเอง แต่ถ้ามีแค่ท่านกับข้าสองคน คิดฆ่าเยี่ยนอวิ๋นจงยังคงไม่อาจทำได้”
เกิ่งฮุยเอ่ยว่า “เหยียนกังแห่งบึงหมื่นกระบี่อ่อนแอที่สุด ถ้าหากเจอเหยียนกัง เช่นนั้นพวกเราร่วมมือกันกำจัดเขา ย่อมเป็นเรื่องดี”
“ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงแม้จะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ถ้าพวกเราร่วมมือกับจ้าวสังหารมังกร อาจจะมีโอกาส”
หลิวซั่วลูบหนวดของตัวเอง มองเกิ่งฮุยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เหอะ ท่านวางแผนตามใจเกินไป”
“เป็นไร ลิ่นเชียนเฉิงตายแล้ว ยังไม่อาจขจัดความแค้นที่สำนักท่านถูกทำลาย ยังแค้นเยี่ยนอวิ๋นจงไปด้วยหรือ?”
“เพียงแต่ท่านมีความแค้นกับเยี่ยนอวิ๋นจง กลับต้องการให้ข้ากับจ้าวสังหารมังกรลงมือ วางแผนดีเกินไปหน่อยกระมัง มีเรื่องกับคนโหดเหี้ยมเช่นนี้ พวกเราจะทำอย่างไร”
หลิวซั่วกวาดมองเกิ่งฮุย “หากท่านคิดจะเพิ่มความแค้นขึ้นอีก ก็จัดการเองเถอะ”
เกิ่งฮุยได้ยินดังนั้น ก็พลันจ้องมองหลิวซั่วด้วยความเดือดดาล
ในจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกของโลกลอยน้ำ เกิ่งฮุยจัดอยู่ในอันดับหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด
ส่วนหลิวซั่วอยู่อันดับสุดท้ายในบรรดาจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรก มีพลังอ่อนแอที่สุดในกลุ่มผู้นำของเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะและหกพรรคมาร ทำให้เกิ่งฮุยไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลิวซั่วเท่าใดนัก
หลิวซั่วไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเกิ่งฮุยโดยแม้แต่น้อย
ตลับวิญญาณหลอนซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์คือความมั่นใจของเขา เมื่อมีมันอยู่ในมือ เขากดดันเกิ่งฮุยได้ เกิ่งฮุยไม่พอใจอย่างไร ได้แต่อดกลั้นไว้
เกิ่งฮุยสงบสติอารมณ์ กล่าวเสียงขรึม “ตอนนี้ไม่กำจัดเขา จะรอจนเขากับหลินซื่อแห่งวังผลึกวารี รวมถึงเหยียนกังแห่งบึงหมื่นกระบี่ลงมือหรือ?”
“หากลอบสังหารคนแซ่เยี่ยน ข้ายินดีเป็นตัวล่อ จะรับความเสี่ยงมากที่สุดไว้เอง”
หลิวซั่วแค่นเสียง “ท่านคิดว่าเขาหงส์วิเศษ วังผลึกวารี บึงหมื่นกระบี่ออกคำสั่งคนผู้นี้ได้อย่างนั้นหรือ?”
เกิ่งฮุยขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ข้าพอจะเข้าใจแล้ว คนผู้นี้หากไม่ไปตอแย เขาก็จะไม่สอดมือ ความคิดของเขาไม่ได้อยู่ที่การช่วยเหลือเขาหงส์วิเศษขยายดินแดน เขาหงส์วิเศษไม่อาจสั่งเขาได้จริงๆ” หลิวซั่วเอ่ย
“แต่หากมีคนโจมตีเขาหงส์วิเศษ เขาอาจจะนึกถึงน้ำใจเก่าก่อน ลงมือช่วยเหลือเขาหงส์วิเศษ”
“เกาะวิญญาณหลอนของข้าไม่เคยหาเรื่องเขา และไม่ได้สร้างความแค้นกับเขาหงส์วิเศษเหมือนสำนักตาข่ายปีศาจและสำนักมังกรโลหิต ระหว่างเรากับเขาไม่มีความขัดแย้งที่ต้องสะสาง”
“คนผู้นี้สนใจการต่อสู้ระหว่างธรรมะและมารจริงๆ หรือ? ข้าว่าไม่แน่นัก อย่างน้อยต่อให้เขาต้องลงมือ ก็น่าจะลงมือกับสำนักตาข่ายปีศาจหรือไม่ก็สำนักอัสนีเรืองรองที่มีเรื่องกับเขามากกว่า จ้าวสังหารมังกรไม่ได้หาเรื่องเขา เกรงว่าเขาจะไม่ได้สนใจสำนักสังหารมังกร”
หลิวซั่วมองเกิ่งฮุย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดข้าต้องสร้างปัญหาให้เขาด้วย”
“แน่นอนว่าของวิเศษในสุสานมังกรอะไรสมควรแย่งชิงก็ต้องแย่งชิง ฟ้าสร้างโชค คนมีวาสนาจึงได้ไปครอง แต่หากต้องไปรุมสังหารเขากับท่าน ข้าว่าอย่าดีกว่า”
หลังจากเขาเว้นครู่หนึ่งก็พูดต่ออีก “ท่านลองติดต่อกับจ้าวสังหารมังกรดูก็ได้ บางทีอาจจะโน้มน้าวเขาได้ ไม่ใช่เพราะน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่เป็นเพราะตำแหน่งยอดฝีมืออันดับหนึ่งบนโลกผืนสมุทรของเขาสั่นคลอนเพราะเยี่ยนอวิ๋นจงแล้วต่างหาก”
“จ้าวสังหารมังกรเป็นคนทะนงตน คงจะไม่ยอมแน่”
เกิ่งฮุยส่ายหน้า “ท่านพูดเช่นนี้ พวกเราไม่อาจพูดกันต่อได้แล้ว ต่อจากนี้อย่าเสียใจแล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี