พูดกันอย่างยุติธรรม ในฐานะที่จางเชาเป็นยอดฝีมือในด้านวรยุทธ์ที่มีพลังฝึกปรือเหนือกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม และลอยไปยังโลกซ้อนโลกได้สำเร็จเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ คนธรรมดาย่อมไม่อาจเทียบได้
ไม่ว่าจะเป็นด้านพรสวรรค์ หรือด้านพลังส่วนตัว กวาดตามองประวัติศาสตร์โลกแปดพิภพ เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สุดยอดที่สุด
แต่ว่า คนที่เขาต้องเจอในตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะนำเหตุผลมาวัดได้
ในปัจจุบัน จางเชาลงมายังแปดพิภพ ถูกพลังแห่งเขตแดนกดให้อยู่ในระดับสูงสุดของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม
ทว่าคู่ต่อสู้ของเขากลับเป็นคนที่เขาไม่อาจเอาชนะได้ถ้าไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่โดยสมบูรณ์
เยี่ยนตี๋มีสีหน้าสงบนิ่ง สองมือว่างเปล่า
เขาในตอนนี้ไม่อาจใช้อาวุธวิญญาณชั้นสูงได้อีกแล้ว เนื่องจากอาวุธวิญญาณไม่อาจรอบรับเจตจำนงดาบที่แข็งกร้าวและดุดันของเขาได้
ประกายดาบฟันดวงอาทิตย์ที่ตกลงมาจากฟ้าให้ดับลง มีเสียงครางหนักๆ ดังมาจากในดวงอาทิตย์
เงาร่างสายหนึ่งไม่ได้พุ่งลงมาอีก กลับลอยขึ้นข้างบนใหม่
ร่างของเยี่ยนตี๋ลอยตามขึ้นไป
ในแสงสว่างไร้สิ้นสุดบนท้องฟ้า เงาคนที่เหลืออยู่พุ่งลงมาเช่นกัน
ในวินาทีนี้ ทุกแห่งในโลกแปดพิภพเหมือนกับกำลังสั่นไหวพร้อมกัน
ขณะเดียวกันก็มียอดฝีมือระดับสุดยอดลงมายังโลกใบนี้มากเกินไป พลังโจมตีที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาราวกับกำลังจะบดขยี้โลกแปดพิภพ
นอกจากจางเชาแล้ว ยังมีเงาร่างอีกห้าสาย
พลังอันยิ่งใหญ่นั้นสั่นสะเทือนฟ้าดิน ล้วนเป็นพลังระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามทั้งสิ้น
การเคลื่อนไหวของสองคนที่นำหน้าสามารถสั่นไหวฟ้าดินเหมือนกับจางเชา แต่ถูกพลังแห่งเขตแดนจำกัดพลังฝึกปรือไว้เช่นกัน
พลังอันน่ากลัวรวมตัวกัน แค่เพียงหายใจก็คล้ายกับว่าปั่นป่วนการเคลื่อนไหวปราณวิญญาณในสภาวะปกติบนโลกแปดพิภพได้ทั้งหมดแล้ว
สองคนนี้ยกมือขึ้น ใจกลางฝ่ามือของคนหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสลับกันระหว่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสงสว่างส่องฟ้าดิน
เป็นวิชาตะวันจันทราผสมผสานอันเป็นวิชาสายตรงของสำนักแสงสว่าง และฝ่ามือเทพสุริยันจันทราซึ่งเป็นกระบวนท่าวรยุทธ์ ถือดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไว้กลางฝ่ามือ หยินหยางผสมผสาน แสงสว่างไร้สิ้นสุด
ส่วนใจกลางฝ่ามือของอีกคนหนึ่งปรากฏปราณสีดำหนาหนัก ดูชั่วร้ายอย่างแปลกประหลาด อีกทั้งยังบิดเบี้ยวน่ากลัว
หมอกสีดำที่เหมือนกับหมึกเข้มปรากฏกลางแสงละลานตา แต่แสงไม่อาจส่องผ่านหมอกหนานี้ได้
ในหมอกสีดำเหมือนกับมีปีศาจนับไม่ถ้วนกระโดดโลดเต้นพร้อมกับร้องคำราม ทำให้จิตใจของผู้คนครั่นคร้ามจนไม่อาจต้านทาน
เยี่ยนตี๋เข้าปะทะกับทั้งหมดโดยไร้ความเกรงกลัว เหวี่ยงดาบหนึ่งออก เกิดปรากฏการณ์มากมาย ฟันฟ้าแยกแผ่นดิน
ไม่ว่าเจ้าจะเสกดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ หรือเสกมารร้าย ข้าก็จะทำลายในดาบเดียว!
ประกายดาบพุ่งผ่าน ดวงอาทิตย์สูญสลาย จันทราดับแสง กลิ่นอายมารถูกทลาย เหล่ามารถูกสังหาร
สองคนนั้นโซเซถอยหลัง จางเชากับคนอีกสองคนบุกเข้ามาใหม่ ถึงจางเชาจะไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่บนร่างของยอดฝีมือสำนักแสงสว่างระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามอีกสองคน ปรากฏแสงสว่างและพลังดับอันแข็งแกร่งของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ชั่วขณะนั้นปราณแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้า สั่นสะเทือนจักรวาล
เยี่ยนตี๋สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เสื้อคลุมนภาปรากฏขึ้นบนร่าง สภาวะพลังของเยี่ยนตี๋เพิ่มสูงขึ้นเพราะมีพลังขึ้นมา เล่นงานอีกฝ่ายถอยหลังติดต่อกัน
คนสุดท้ายในกลุ่มคู่ต่อสู้ทั้งหกไม่ได้ร่วมมือกับคนอื่นโจมตีเยี่ยนตี๋ กลับเปลี่ยนพุ่งเข้ามาหาเยี่ยนจ้าวเกอ
ตัวเขากลายเป็นลำแสงสายหนึ่ง ทะลุฟากฟ้า คล้ายกับไม่เห็นเวลาและระยะห่างทางมิติในสายตา
นี่กลับเป็นวิชาสายตราของสำนักแสงสว่าง ที่ได้รับการขนานนามเคียงคู่ท่าตะวันจันทราผสมผสานและวิชารัศมีสาดส่อง วิชาธารแสงพันมายา
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าสายตาของตัวเองไม่อาจตรวจสอบร่างกายของอีกฝ่ายได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี