‘หรือว่า? เขาจะออกจากน่านน้ำผืนนี้ไปก่อนหน้าแล้ว?’
ใบหน้าของคังฮูหยินปรากฏแววประหลาดใจ นางค้นหาน่านน้ำแห่งนี้อย่างละเอียดรอบหนึ่งแล้ว แต่กลับไม่พบร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในทะเลมีสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นมากมาย สิ่งที่แปลกพิสดารหรือธรรมดาสามัญมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่กลับหาเป้าหมายที่นางต้องการไม่พบ
คังฮูหยินสูดหายใจลึก ทางหนึ่งติดต่อจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคนอื่นๆ ให้มาช่วย ทางหนึ่งค้นหาน่านน้ำด้านหน้าอย่างละเอียดอีกรอบ
เสียเวลาอยู่ที่นี่มากเกินไป ถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอไม่อยู่ในน่านน้ำผืนนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ในตอนนี้สมควรไปไกลแล้ว
ทิศทางไม่แน่ชัด หากหน้ามืดตามัวไล่ตาม ยิ่งไม่มีความหมาย
ไม่สู้ยึดมั่นการตัดสินใจแรกสุดของตัวเอง เสาะหาอีกรอบหนึ่ง เพื่อป้องกันการมองข้ามก่อนหน้า
ปล่อยให้อีกฝ่ายหลบอยู่ใต้หนังตาตัวเอง จนตัวเองมองข้ามไป เช่นนั้นคงจะน่าคับข้องใจเกินไป
ทว่าน่าเสียดาย ขนาดหาอีกรอบแล้ว นางก็ยังไม่ได้อะไรเหมือนเดิม
แม้คังฮูหยินจะผ่านคลื่นลมมรสุมมามากมาย ในตอนนี้ยังรู้สึกสับสน อดสงสัยไม่ได้ว่าการตัดสินก่อนหน้านี้ของตนผิดพลาดตั้งแต่แรกเริ่มหรือไม่
‘แต่เขาหนีไปได้อย่างไร?’ คังฮูหยินเงยหน้า ขมวดคิ้วมองไปยังที่ไกลอกไป
ส่วนลึกของมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลด้านล่างที่อยู่เบื้องหน้านาง ที่ก้นทะเลเต็มไปด้วยหินโสโครกระเกะระกะ
ท่ามกองหินระเกะระกะ เตาเครื่องหอมสีดำขนาดเล็กที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ เหมือนกับคนที่โดยสารเรือผ่านมาเผลอทำหล่นลงไปในมหาสมุทร จนจมลงสู่ก้นทะเล ค่อยๆ ถูกโคลนกลบฝัง
เหมือนกับสิ่งของสับสนปนเปอื่นๆ ที่สั่งสมอยู่ในมหาสมุทรกว้างใหญ่นานปี
เยี่ยนจ้าวเกอยามนี้อยู่ในเตากลืนดิน ตรงหน้ากลับเป็นฟ้าดินใหม่เอี่ยมผืนหนึ่ง
ในสายตาก็คือท้องทะเล ท้องฟ้าไร้สิ้นสุด บนผิวทะเลไม่มีคลื่นลม แต่กลับมอบความรู้สึกเงียบเหงาที่เหมือนกับความตายให้แก่ผู้คน
นี่น่ากลัวยิ่งกว่าคลื่นกระหน่ำซัดโหม ก็คือบรรยากาศกดดัน ผืนฟ้าและผืนทะเลเหมือนกับรวมตัวกันกลายเป็นของแข็งก้อนหนึ่ง
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย ด้วยไม่แน่ใจว่าที่นี่คือที่ไหน
ทัศนียภาพตรงหน้าถึงแม้จะสมจริง แต่กลับปรากฏริ้วคลื่นสั่นไหวอยู่เบาบาง เหมือนกับภาพสะท้อนในน้ำ
ทันใดนั้น บนผิวทะเลที่นิ่งเงียบจนแทบจะเกาะตัวกัน ก็เกิดพายุคลั่งสายหนึ่งอย่างไร้สุ้มเสียง
พายุม้วนลมม้วนน้ำทะเลขึ้นสู่หมู่เมฆ เชื่อมต่อกับท้องฟ้าอันมืดครึ้มและมหาสมุทรอันแปลกประหลาดดุจดั่งเสาสวรรค์
ท่ามกลางพายุคลั่งมีประกายสายฟ้าที่ละลานตาเปล่งประกาย เหมือนกับมังกรสีเงินกำลังเคลื่อนไหว
เยี่ยนจ้าวเกอหยีตามองภาพเบื้องหน้า
บนผิวทะเลที่คลื่นลมเงียบสงบในตอนแรก มีพายุลูกแล้วลูกเล่าที่แทรกไว้ด้วยสายฟ้าและน้ำทะเลพุ่งขึ้นมาติดต่อกัน ฉีกกระชากมิติทั้งหมดจนแตกเป็นเศษๆ เปลี่ยนฟ้าดินแห่งนี้ให้กลายเป็นแดนชำระล้างในชั่วพริบตา
บนมหาสมุทรไร้สิ้นสุดกว้างใหญ่ไพศาล ต่างเต็มไปด้วยพายุและอัสนี สายฟ้ากับน้ำทะเลกำลังคลุ้มคลั่ง
เป็นภาพหายนะที่เหมือนกับค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติซึ่งธรรมชาติก่อให้เกิดขึ้น
ต่อหน้าอานุภาพของฟ้าดินเช่นนี้ ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเหมือนเช่นคังฮูหยิน ก็ยังดูเล็กกระจ้อยร่อย
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “เหมือนกับพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดในตำนาน”
แม้ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน แต่เยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นคำบรรยายและการเปรียบเทียบภาพในคัมภีร์ ดูเหมือนกันเหลือเกิน
ในตอนที่อยู่ที่หอสักการะย่อยสำนักความมืด เขาได้ทำความเข้าใจบางอย่างผ่านการสนทนากับจอมยุทธ์สำนักความมืด
ด้านในทะเลหวงเจียมีสถานที่เช่นนี้อยู่ด้วย มักจะเกิดพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด คล้ายกับเตาฟ้าดิน
ด้านในมีอันตรายนับไม่ถ้วน ต่อให้จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ก็ต้องเจอผลร้ายมากกว่าผลดี
สิ่งที่ทำให้สถานที่นี้น่าปวดหัวก็คือ มันจะเกิดขึ้นอย่างไร้เค้าลาง จะมาก็มาทันที
มันจะกลืนกินชีวิตคนจำนวนนับไม่ถ้วนในชั่วพริบตา ไม่อาจแข็งขืนและหลบหนี
ถึงแม้ว่าน่านน้ำแห่งนี้จะมีของล้ำค่าที่หาไม่ได้ในโลกภายนอกมากมาย แต่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไปหา เพราะแดนอันตรายแห่งนี้ฝังโครงกระดูกของยอดฝีมือจำนวนมาก
ครู่ต่อมา ดวงตาคู่นี้ก็หายไป
เขาคำนวณเวลาในใจเล็กน้อย
จากนั้นร่างของเขาก็ออกจากเตากลืนดิน โผล่ขึ้นที่ก้นทะเลอีกครั้ง
‘ไม่ใช่ว่าข้าเพิ่งออกมา แล้วสายตานางกวาดผ่านมาพอดีนะ’ เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งคิด ทางหนึ่งสำรวจบริเวณรอบๆ อย่างเงียบเชียบ
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีจอมยุทธ์เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ถึงขั้นรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมาก
แต่ว่าคังฮูหยินไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางอย่างนาง มีสถานที่ไม่น้อยต้องการตัวนาง ไม่มีเวลาว่างมาเสียกับแค่มหาปรมาจารย์คนหนึ่ง
ต่อให้จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ผู้นี้มีพลังน่ากลัวมาก แต่ถึงจะเสียเวลาก็ไม่รู้ว่าจะไปจบที่ตรงไหน
กอปรกับคังจิ่นหยวนไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ
คังฮูหยินแม้ไปแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะไม่สร้างความลำบากให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ
น่านน้ำที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ต่างมีจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเคลื่อนไหว จับตาดูร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอ
เกิดพบขึ้นมา คาดว่าจะมีจอมยุทธ์ระดับสูงมารับมือเยี่ยนจ้าวเกอทันที
‘แต่คนพวกนี้ใช้ไม่ได้หรอก’ เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ ขยับร่างกาย
เขาหลบหลีกจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมากมายอย่างแยบยล หลังจากเดินทางได้สักระยะหนึ่งแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เรียกวังฝูงมังกรออกมาใหม่ แล้วกระโดดเข้าไปด้านใน
แต่ว่าในวินาทีนั้นเอง กลับมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งสายหนึ่งเข้ามาใกล้จากสถานที่ที่อยู่ห่างออกไป
เจตจำนงกระบี่จากกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของคัมภีร์นภากาลเวลา
เยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้สัมผัสถึงวรยุทธ์ชนิดนี้ได้อย่างรวดเร็ว ‘เอ๋ ไม่น่าจะแม่นยำขนาดนี้กระมัง?’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี