ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 67

ขณะที่ทุกคนมองดูเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้อาวุโสฉิน และเหยียนซวี่ ภายในใจเกิดความคิดต่างๆ นานา

หอศิลาโอสถเป็นกิจการสำคัญที่คอยหนุนราชวงศ์ของอาณาจักรถังตะวันออก ทว่าความจริงแล้ว ในฐานะที่เขากว่างเฉิงเป็นผู้ควบคุมดูแลเกาะนภาตะวันออก ก็ย่อมมีส่วนแบ่งเป็นของตนเองเช่นกัน

ด้านหนึ่งก็เป็นเสมือนเครื่องยืนยัน รับประกันผลประโยชน์และตำแหน่งฐานะของเขากว่างเฉิงในอาณาจักรถังตะวันออก

อีกด้านหนึ่งการที่หอศิลาโอสถเป็นที่นิยม ดำเนินกิจการอยู่ในอาณาจักรถังตะวันออกได้ เขากว่างเฉิงเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญ

แม้จะไม่มีวิชาเข็มทองผ่านโอสถ ไม่มีโอสถหมอกควันสลายในช่วงนี้ ทว่าหอศิลาโอสถก็มีกำไรมหาศาลอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ อำนาจการจัดการเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องระหว่างเขากว่างเฉิงและหอศิลาโอสถนั้น อยู่ในมือของผู้อาวุโสคุมการณ์แห่งถังตะวันออก

จากขอบเขตของตำแหน่ง นี่ก็เป็นอำนาจที่ผู้อาวุโสคุมการณ์แห่งถังตะวันออกพึงมีด้วยเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอชนะและได้ส่วนแบ่งของหอศิลาโอสถจำนวนมาก จากมือของจ้าวซื่อเลี่ยมาเป็นการส่วนตัว ตามหลักเหตุผลทั่วไปแล้ว ส่วนแบ่งเหล่านี้ล้วนต้องมอบให้กับทางสำนักทั้งหมด ให้ทางสำนักรวบรวมจัดการ ส่วนทางสำนักก็ค่อยบำเหน็จรางวัลอื่นชดเชยให้กับเยี่ยนจ้าวเกอ

การมอบบำเหน็จรางวัลนี้ โดยปกติก็ต้องส่งมอบให้เหยียนซวี่ ผู้อาวุโสคุมการณ์แห่งถังตะวันออกเป็นคนจัดการ

แต่ตอนนี้ สถานการณ์กลับตรงข้ามอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแบ่งทั้งหมดกลับตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอแทน

มูลค่ามากเท่าใดไม่ต้องพูดถึง นี่เป็นการหยิบมีดกรีดเนื้อบนร่างกายของเหยียนซวี่อย่างไม่ต้องสงสัย

จอมยุทธ์คนอื่นๆ ต่างก็มองผู้อาวุโสฉินด้วยความสงสัย แม้แต่จ้าวซื่อเฉิง ราชาแห่งอาณาจักรถังตะวันออกก็ชำเลืองมองอย่างพินิจพิเคราะห์

น้ำเสียงของท่านผู้อาวุโสฉินเรียบเฉย สีหน้าของเหยียนซวี้ก็นิ่งสงบเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพนี้แล้ว เขายิ้มแต่ไม่พูดอะไร

ระหว่างบิดาของตน เยี่ยนตี๋และอาจารย์ลุงรอง ฟางจุ่น จุดยืนของผู้อาวุโสฉินก็ยังคงอยู่กึ่งกลางเช่นเคย

ถึงแม้ว่าความรู้สึกที่มีต่อเยี่ยนจ้าวเกอจะเปลี่ยนแปลงแล้ว บัดนี้เขาชื่นชมชายหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง ทว่าก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เขาเอนเอียงไปทางฝ่ายของเยี่ยนตี๋ด้วยเหตุผลเช่นนี้

การกระทำเช่นนี้ของผู้อาวุโสฉิน เป็นการให้รางวัลหนุนใจเยี่ยนจ้าวเกอ ในขณะเดียวกันก็เป็นการตักเตือนสั่งสองเหยียนซวี่

ก่อนหน้านี้ที่เหวินหนิงจือรายงานไม่สำเร็จ ทว่ากลับลากตนเองเข้าไปเอี่ยวด้วย เขาเป็นคนที่เหยียนซวี่เชื่อใจ ผู้อาวุโสฉินย่อมต้องจับตามองความสัมพันธ์ของทางฝั่งถังตะวันออกกับเยี่ยนจ้าวเกอเป็นธรรมดา

การสิ้นชีพของหลินอวี้เสา แม้จะยังไม่สามารถสรุปผลออกมาได้ ทว่าในขณะนี้ข้อสงสัยในตัวของเยี่ยนจ้าวเกอก็ถูกตัดออกไปแล้ว

เช่นนั้นแล้วความจริงนางถูกใครทำร้ายกันแน่ นี่เป็นสิ่งที่ควรแก่การสืบเสาะต่อไป

ศพถูกพบและคุ้มกันโดยคนของเหยียนซวี่ บาดแผลเกิดจากวิชาฝ่ามือดุสิต ซึ่งเหยียนซวี่เองก็รู้ซึ้งในวิชาฝ่ามือดุสิตเช่น ด้วยวรยุทธ์ของเขาแล้ว หากต้องการจะสร้างร่องรอยการลงมือของปรมาจารย์ขั้นจิตรานอกระยะต้นนั้น ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง…

ถึงอย่างไรผู้อาวุโสฉินก็ไม่ได้คิดว่าเหยียนซวี่เป็นผู้ลงมือสังหารหลินอวี้เสาเช่นกัน แต่เพื่อจะจัดการกับเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ไม่แน่ว่าเหยียนซวี่อาจจะลงไม้ลงมืออะไรบางอย่างไป

บัดนี้เขาตัดทอนอำนาจส่วนหนึ่งชองเหยียนซวี่ไป แล้วมอบให้กับเยี่ยนจ้าวเกอเป็นผู้รับผิดชอบ นั่นเท่ากับเป็นการตักเตือน

ส่วนเรื่องของการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนักของเยี่ยนตี๋และฟางจุ่น ผู้อาวุโสฉินไม่ได้สนใจจะร่วมด้วย ทว่าสำหรับชายชราผู้นี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายสู้ก็อยู่ส่วนสู้ ขอบเขตบางอย่างก็ยังจำเป็นต้องรักษาไว้

‘กำไรจะมากหรือน้อยก็เป็นเพียงแค่ด้านหนึ่ง’ เยี่ยนจ้าวเกอคิดอย่างสบายอกสบายใจว่า ‘นี่นับได้หรือไม่ว่า จากที่ข้าเป็นเพียงคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กลายเป็นผู้ที่สามารถหาเงินได้ด้วยตนเองแล้ว?

ผู้อาวุโสฉินกล่าวต่อว่า “เจ้าหาสตรีจันทราพบ แล้วนำนางมาเข้าสำนักก็เป็นผลงานชิ้นใหญ่เช่นกัน”

“ยิ่งใหญ่เสียกว่าความดีความชอบจากวิชาเข็มทองผ่านโอสถ ระดับของเตาผลึกหินชั้นใน และการค้นพบแก่นสารหยก และสิ่งอื่นๆ เสียอีก”

“แต่สภาพจันทรากายสหายเฟิงยังต้องรอการฟื้นฟูอยู่ ตอนนี้พูดเรื่องนี้นับว่ายังเร็วไป ฉะนั้นบำเหน็จของความชอบนี้ไว้ค่อยว่ากันทีหลังก็แล้วกัน”

“หากจันทรากายของสหายเฟิงฟื้นกลับมาได้จริงๆ ทางสำนักจะมีบำเหน็จเป็นพิเศษให้กับเจ้าอย่างแน่นอน”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า แม้ว่าจะยังไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นกับบำเหน็จนี้อยู่บ้างเช่นกัน

ผู้อาวุโสฉินกล่าวว่า “เจ้าเอาชนะเซียวเซิงได้ สร้างชื่อเสียงให้กับเขากว่างเฉิงของเรา แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับความดีความชอบที่นำสตรีจันทรามาเข้าสำนัก แต่ก็มีบำเหน็จรางวัลให้เช่นกัน”

เจ้าเด็กน้อยที่ว่าหัวเราะเหอะๆ อย่างไม่ปิดบัง “มีความคิดบางอย่างจริงขอรับ แต่เบื้องต้นยังเป็นเพียงแค่ความคิด จะทำได้หรือไม่ ยังจำเป็นต้องลองดูก่อนขอรับ”

ผู้อาวุโสฉินยื่นนิ้วชี้ออกไปจิ้มเยี่ยนจ้าวเกอ “เจ้านะเจ้า ยังไม่เลิกทำให้เป็นห่วงอีกนะ!”

แม้จะกล่าวเช่นนี้ ทว่าน้ำเสียงกลับอ่อนโยน ในแววตาที่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอมีความยินดีและชื่นชมปะปนอยู่อย่างเห็นได้ชัด

เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินก็กลับอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ด้วยไม่รู้ว่าครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะทำอะไรอีก

เหตุการณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ ไม่สามารถวัดได้ด้วยสามัญสำนึกทั่วไปจริงๆ

แม้เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย ทว่าก็อาจจะเป็นพายุฝนฟ้าคะนองอีกครั้งก็เป็นได้

เมื่อพูดคุยบำเหน็จรางวัลของเยี่ยนจ้าวเกอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฉินก็ได้จัดคนตรวจสอบการสิ้นชีพของหลินอวี้เสาอย่างละเอียด

ตัวเขาต้องรับมือกับแรงกดดันของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และทะยานบูรพา กล่าวตามหลักแล้ว หลินอวี้เสาถูกทำร้ายบนแผ่นดินถังตะวันออก ฉะนั้นก็ควรจะต้องเป็นความรับผิดชอบของเหยียนซวี่ ผู้อาวุโสคุมการณ์แห่งถังตะวันออก

แต่ตอนนี้ให้เหยียนซวี่จัดการก็เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสมอีกต่อไป ดังนั้นผู้อาวุโสฉินจึงจัดการส่งคนอื่นที่ติดตามตนเองมาที่ถังตะวันออกให้ตรวจสอบเรื่องนี้แทน

ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอ แม้ว่าจะยืนยันได้แล้วว่าการสิ้นชีพของหลินอวี้เสาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเขาเลย ทว่าก็ยังคงต้องหลีกเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกครั้งอยู่ดี

ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกออาสาขอเป็นผู้ตรวจสอบ ความจริงแล้วแค่จะแสดงทัศนคติและความสำคัญของตนเองออกมาให้ชัดเจนเท่านั้น

การปะทะกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เขากว่างเฉิงและอาณาจักรถังตะวันออกจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่สื่อถึงกัน

ความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นในอาณาจักรถังตะวันออก ไม่ว่าจะเกิดจากเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้อาวุโสฉิน หรือเหยียนซวี่ ก็ต้องแจ้งให้กับจ้าวซื่อเฉิง ราชาอาณาจักรถังตะวันออกทราบด้วย

หลังจากตกลงทุกอย่างเรียบร้อยแล้วในขั้นต้น เยี่ยนจ้าวเกอจึงไปส่งจ้าวซื่อเฉิงที่ประตู แล้วใช้ปราณจิตราส่งกระแสจิตไปว่า ‘ท่านลุง ข้าอยากคุยกับท่านเรื่องจ้าวฮ่าว โอรสองค์ที่สิบหกของท่านพะยะค่ะ’

…………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี