จ้าวซื่อเฉิงมองเยี่ยนจ้าวเกอครั้งหนึ่ง แล้วพยักหน้าช้าๆ “ข้ารู้จ้าวเกอ ว่าเจ้าอยากจะพูดอะไร”
เมื่อไม่มีคนอื่น จ้าวซื่อเฉิงจะไม่ได้ใช้คำพูดเป็นทางการกับเยี่ยนจ้าวเกออีก แต่เปลี่ยนเป็นการเรียกทั่วไปแทน
“หากจะบอกว่าบรรลุฉับพลัน เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงของฮ่าวเอ่อร์ ก็อาจจะดูมากเกินไป และกะทันหันเกินไป”
“นิสัยของเขาเปลี่ยนไปมาก จนไม่ต้องพูดถึงเมื่อก่อนเลย ส่วนความสามารถทางโอสถ ต่อให้เป็นข้าก็คงจะเทียบไม่ได้เช่นกัน ทางด้านวรยุทธ์ เบื้องต้นข้ายังมองไม่ออก แต่ความก้าวหน้าในช่วงครึ่งปีมานี้นับว่าเหนือกว่าเมื่อก่อนมากโข”
ราชาแห่งอาณาจักรถังตะวันออกตรงไปตรงมาอย่างมาก ไม่มีการดูถูกเพราะว่าเยี่ยนจ้าวเกอเป็นคนรุ่นหลังแต่อย่างใด
สำหรับจ้าวฮ่าวที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่น่าสนใจเสมอมา หากจ้าวซื่อเฉิงจะบอกว่าเขารู้มากเพียงใด นั่นก็คงไม่ใช่
ถึงกระนั้นหลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัวของจ้าวฮ่าวแล้ว ขอเพียงแค่จ้าวซื่อเฉิงยินยอม แน่นอนว่าสามารถตรวจสอบทุกๆ เรื่องขององค์ชายสิบหกผู้นี้ได้ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันอย่างแจ่มแจ้ง มิเช่นนั้นเขาก็คงไม่เหมาะที่จะเป็นราชาอาณาจักร
“ถ้าจะบอกว่าได้พบกับปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ ได้รับมรดกตกทอดมา หรือมีผู้ยิ่งใหญ่รับเป็นลูกศิษย์ ก็พอจะอธิบายได้อยู่”
“แต่ศาสตร์แห่งการกลั่นโอสถ ไม่เพียงแต่ต้องมีพรสวรรค์ ทว่าก็ต้องสั่งสมการฝึกฝนอย่างหนักด้วยเช่นกัน ฮ่าวเอ๋อร์ก้าวมาถึงจุดสูงสุดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
จ้าวซื่อเฉิงส่ายหนเบาๆ “แต่ว่า เรื่องพวกนี้ค่อยตรวจสอบในภายหลังก็ได้ ข้างกายข้ามีลูกหลานที่ยิ่งกว่าเป็นเลิศคนหนึ่ง สำหรับถังตะวันออกแล้วก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย”
เยี่ยนจ้าวเกอฟังไปพลาง พึมพำกับตนเองไปพลาง
สำหรับผู้ที่อยู่เบื้องบน หากผู้ที่อยู่เบื้องล่างมีความสามารถคงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือทุกอย่างยังอยู่ในขอบเขตที่ตนควบคุมได้หรือไม่
เพียงแค่ตนเองไม่สูญเสียการควบคุมสถานการณ์ไป เช่นนั้นเบื้องล่างยิ่งความสามารถมากก็ยิ่งดี
หลายครั้ง รอยแตกบางรอยที่มองไม่เห็น ใช่ว่าคนอื่นจะมองไม่ออก เพียงแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ก็เท่านั้น
จ้าวซื่อเฉิงก็ยังเป็นเช่นนี้ บิดาของเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ก็ยิ่งหลอกลวงถูไถไปก่อนไม่ได้
ดังนั้นตั้งแต่ที่เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงโลกใบนี้ ทุกสิ่งอย่างจึงเป็นไปตามลำดับขั้นอย่างช้าๆ
ไม่พูดว่าจะไม่ทำให้คนไม่สงสัยเลย แต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรจะมีความแตกต่างจากในอดีตจนเกินไป
แม้ว่าจะนำเตาผลึกหินชั้นในกลับมาได้อีกครั้ง แต่นั่นเป็นการประดิษฐ์สิ่งของขึ้น ไม่ใช่ระดับความสามารถในศาสตร์แห่งการหลอมอาวุธของตนเอง ฝีมือด้านวิชาหลอมอื่นๆ ของตัวเยี่ยนจ้าวเกอเองก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางที่เยื้องสูง
ส่วนวิชาเข็มทองผ่านโอสถที่ถูกนำกลับมาอีกครั้ง นั่นเป็นเพียงเคล็ดวิชาหนึ่งเท่านั้น ระดับความสามารถโดยรวมในการกลั่นโอสถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ อยู่แล้ว นับว่าสร้างความประทับใจที่มีต่อตนเองให้กับคนอื่นๆ ทีละนิดๆ
ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านวรยุทธ์ และการได้รับมาซึ่งของแปลกประหลาดต่างๆ โดยส่วนมากสามารถใช้คำว่า ‘ได้รับมาโดยบังเอิญ’ หรือ ’บรรลุอย่างกะทันหัน’ มาอ้างอธิบายได้
ตอนนี้เดินช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่อนาคตอันใกล้จะกางปีกโบยบินผงาด
แท้จริงแล้วมีบางครั้งที่คิดๆ ดูแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็อดขำไม่ได้ ‘จ้าวฮ่าว ช่างเป็นคนดีเสียจริง’
ความสำเร็จที่เยียนจ้าวเกอได้รับในตอนนี้ แน่นอนว่ามีมากกว่าจ้าวฮ่าวอยู่แล้ว
แต่เมื่อเทียบกับจ้าวฮ่าวที่เปิดเผยความสามารถอย่างตรงไปตรงมา ราวกับจะไม่เกรงกลัวสิ่งใด เยี่ยนจ้าวเกอกลับดูแล้วปกติกว่า
และแน่นอนว่านี่ก็เป็นเพียงการเปรียบเทียบเท่านั้น
ในสายตาของผู้คนจำนวนมาก เยี่ยนจ้าวเกอก็ผงาดขึ้นมาอย่างไร้ที่ติเช่นเดียวกัน
ทว่าเจ้าของร่างเดิมเมื่อก่อนก็มีอุปนิสัยแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นความแตกต่างทั้งก่อนและหลังจึงไม่ได้มากเท่าใดนัก
ด้วยเหตุนี้ การที่เยี่ยนจ้าวเกอบอกกับเฟิงอวิ๋นเซิงว่าตนเองไม่อวดเบ่งนั้น นั่นก็เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่อวดเบ่งจริงๆ
สำหรับสายตาที่ไม่คิดเช่นนั้นของเฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนจ้าวเกอแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าตนน้อยใจยิ่งนัก…
นิสัยที่ชอบอวดความสามารถของตนเอง เขากำลังพยายามควบคุมมันไว้อย่างเต็มกำลัง!
จ้าวซื่อเฉิงทอดถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกจนใจอยู่บ้าง “ความสามารถที่ฮ่าวเอ๋อร์แสดงออกมาในขณะนี้ อย่าว่าแต่เจ้าใหญ่ หรือเจ้าสามเลย แม้จะเป็นเจ้าสี่ก็สู้ไม่ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย นอกจากองค์ชายใหญ่จ้าวหยวน กับองค์ชายสามจ้าวเฉิงแล้ว อันที่จริงภายในราชวงศ์ถังตะวันออกยังมีจ้าวหมิง องค์ชายสี่อีกด้วย
ลำพังแค่พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ ไม่นับรวมจ้าวฮ่าวที่จู่ๆ ก็กลายเป็นม้ามืด จ้าวหมิงนับเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาโอรสทั้งหลายที่รายล้อมจ้าวซื่อเฉิง ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นอัจฉริยะท่ามกลางคนรุ่นเยาว์ทั่วทั้งอาณาจักรถังตะวันออก
หลายปีก่อน จ้าวหมิงฝากตัวเข้าเป็นศิษย์เขากว่างเฉิงเพื่อร่ำเรียนวิชาวรยุทธ์ เป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการของเขากว่างเฉิง
เขากว่างเฉิงทรงอำนาจมากที่สุดในนภาพิภพ จอมยุทธ์มากฝีมือล้วนแต่เข้ามาอยู่ในกำมือ ซึ่งผู้ที่เป็นอัจฉริยะของนภาพิภพต่างก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าเป็นศิษย์ของสำนัก
เพียงแต่ว่าจ้าวหมิงที่เข้ามาร่ำเรียนที่เขากว่างเฉิงแล้ว ถ้าหากไม่มีเหตุฉุกเฉินที่ใหญ่หลวงใดๆ ตำแหน่งราชาแห่งถังตะวันออกก็จะหมดวาสนากับเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี