ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 681

เยี่ยนจ้าวเกอเกอเอ่ย “ความจริงตัวข้าก่อนหน้านี้ก็สงสัยมาโดยตลอด”

เขาชายหนุ่มไม่ได้สัมผัสโลกซ้อนโลกมากนัก ขอบเขตจำกัดอยู่ที่ทะเลหวงเจียเพียงที่เดียว

แต่ว่าสถานที่ต่างๆ อย่างโลกแปดพิภพ และโลกผืนสมุทรที่เคยไป ก็พบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน

ชายหนุ่มไม่เคยเจอขุมกำลังหรือจอมยุทธ์ที่สืบทอดวิชาสายเหนือพิสุทธิ์มาก่อน

อย่าว่าแต่ลูกศิษย์สายตรงเลย แม้แต่สาขาย่อยหรือผู้ได้รับอิทธิพลล้วนไม่เคยเจอมาก่อน

ฝ่ามือนภากว่างเฉิงอันเป็นวรยุทธ์ของเขากว่างเฉิงได้รับอิทธิพลมาจากวิชาสายหยกพิสุทธิ์ หลังจากมาถึงโลกซ้อนโลก ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงไม่ต้องพูดถึง วิชาวรยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็เป็นสิ่งที่แตกแขนงออกมาจากสายหยกพิสุทธิ์เช่นกัน

สำนักประกายกาฬในอดีตอยู่มาตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ว่ากันว่าบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสำนักเคยร่ำเรียนที่เขาคุนหลุนมาก่อน

การสืบทอดระบบสำนักของวรยุทธ์อื่นๆ ดูเหมือนไม่มีเบื้องหลังเด่นชัด แต่ถ้าเป็นวรยุทธ์สำนักเต๋า นอกจากจะได้รับอิทธิพลจากวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์ ต่างนับเป็นสายเอกพิสุทธิ์ทั้งสิ้น

วิชาสายตรงของสายเอกพิสุทธิ์ยิ่งมีให้เห็นน้อยถึงขีดสุด แต่ว่าแตกกิ่งก้านสาขามากกว่าสายหยกพิสุทธิ์และสายเหนือพิสุทธิ์

ว่ากันว่า เทวกษัตริย์แห่งเต๋าผู้เป็นบรรพบุรุษของสายเอกพิสุทธิ์ในอดีตได้สั่งสอนทุกสรรพสัตว์ มอบแสงแห่งปัญญาให้กับมนุษย์ หลักเต๋าที่สั่งสอน ได้วางรากฐานและเส้นสายสาขาของการพัฒนาวรยุทธ์ของมนุษย์ไว้

วรยุทธ์สำนักเต๋า นอกจากจะแน่ใจว่าตนเป็นวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว คนอื่นๆ ล้วนยกย่องเทวกษัตริย์แห่งเต๋าเป็นบรมครูของตัวเองทั้งสิ้น

เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นมานานแล้วว่าทั้งวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเอกพิสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นสายตรงหรือสาขาย่อย ตนล้วนเคยพบมาก่อน

มีเพียงแต่วิชาสายเหนือพิสุทธิ์ ที่เขาไม่เคยเห็นแม้แต่ร่องรอย

ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่าเป็นเพราะสถานที่ที่ตนเคยไปในยุคสมัยนี้ยังน้อยเกินไป และจอมยุทธ์ที่รู้จักก็ยังมีจำนวนน้อยเกินไปเช่นกัน

อย่างเช่นโลกซ้อนโลก ถึงทะเลหวงเจียจะไม่มีวิชาสายเหนือพิสุทธิ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสถานที่อื่นไม่มี ถึงอย่างไรโลกซ้อนโลกก็ใหญ่โตมาก

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหนงอวี่ซวน และเทียบเรื่องสองเรื่องเข้าด้วยกันแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้เกรงว่าจะไม่ใช่ความบังเอิญ

สาเหตุของมันทำให้คนต้องจินตนาการแล้ว

ถ้าหากว่าคำสั่งของกษัตริย์ดินนี้ได้รับการดำเนินการอย่างเป็นจริงเป็นจังบนโลกซ้อนโลก เช่นนั้นก็หมายความว่า นี่ไม่ใช่แค่ความปรารถนาของพระองค์เพียงคนเดียว

สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ประมุขทั้งสิบ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกซ้อนโลกต่างเห็นด้วยกับคำสั่งนี้

อย่างน้อย พวกคนระดับสูงสุด ส่วนใหญ่แล้วมีท่าทีสนับสนุน

เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง ‘น่าสนใจ เป็นไปได้ว่าจะไม่ใช่ความแค้นของคนคนหนึ่ง แต่เป็นความขัดแย้งของส่วนรวม…’

‘บรมครูสามพิสุทธิ์หลุดพ้นไปนานแล้ว ทั้งหยกพิสุทธิ์ เอกพิสุทธิ์มักจะเกาะติดเทพทงเทียนเจียวจู่…อ้อ ไม่ถูกต้อง เป็นหลิงเป่าเทียนจวิน เหตุใดจึงมักสร้างความลำบากให้แก่ลูกศิษย์กับหลานศิษย์ของท่านผู้เฒ่ากัน?’

ความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปมาในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ค่อนข้างไร้สาระไปบ้าง แต่ตัวเขาเอาจริงเอาจังมาก

หลังจากมาถึงโลกใบนี้เป็นครั้งแรกก่อนวิกฤตการณ์ เยี่ยนจ้าวเกอค้นพบอย่างประหลาดใจว่า เรื่องราวประหลาดพิสดาร และปกรณัมปรัมปราจากในชีวิตก่อนของตน ที่นี่ก็มีเช่นกัน

อย่างเช่นห้องสินเอี้ยนหงี ไซอิ๋ว หรือว่าตำนานเทพนิยายเรื่องอื่น

เพียงแต่หลายสิ่งเหมือนจริงเหมือนไม่จริง มีตำนานบางตำนานเหมือนกันโดยสิ้นเชิง มีบางตำนานแตกต่างกันมาก ถึงขั้นที่ตรงกันข้ามกัน

นี่ทำให้เขาแยกแยะไม่ออกมาว่า เป็นเรื่องราวที่ตนเคยฟังมาก่อนหน้าผิดพลาด หรือว่าตำนานที่ได้ฟังหลังจากมาถึงโลกใบนี้มีจุดที่บันทึกผิด

นี่ความจริงเป็นเรื่องที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอปวดศีรษะเล็กน้อย

สิ่งของมากมายได้แต่เดินทางพบเจอระหว่างทาง ตำนานเทพนิยายที่เคยได้ยินอย่างมากสุดก็ต้องศึกษาให้ดี ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายตัวเอง

สิ่งที่เรียกว่าชุดความคิดปกติ แต่ไหนแต่ไรก็เป็นของที่ยากจะพิชิต บอกไม่ได้ว่าจะกลบฝังตัวเองตอนไหน

อย่างเช่นเรื่องที่อยู่ตรงหน้า บรมครูสามพิสุทธิ์ที่อยู่ในตำนานได้หลุดพ้นทางโลกก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์นานมาก หายตัวไปไม่รู้กี่ปีแล้ว

ตามการบันทึกบนคัมภีร์ในวังเทพ ถึงกับไม่ใช่เรื่องที่เกิดในยุคเริ่มต้นด้วยซ้ำ

ช่วยสังหารเซียน ผนึกเซียน ลวงเซียน เกิดแสงสีชาดสี่ทิศ

สังหารเซียนเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด เหล่าเทพเซียนโลหิตย้อมอาภรณ์[1]”

เยี่ยนจ้าวเกอลากเสียง “สี่ประโยคหลัง ความจริงบ่งชี้ถึงลักษณะพิเศษภายนอกของสี่กระบี่ล้ำค่า”

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่เหมือนคิดอะไรบางอย่าง “…สังหารเซียนเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุดหรือ?”

ชายหนุ่มพยักหน้า “การเก็บเจตจำนงที่ทำลายล้างทุกอย่างไว้ในกระบี่ แม้จะลดทอนพลานุภาพของกระบี่สังหารเซียนลง แต่ก็ช่วยพัฒนาวิชากระบี่อื่นๆ หรือวรยุทธ์อื่นๆ สามารถปิดบังคนจำนวนมากได้”

“วิชากระบี่เดิมทีเป็นวิชาเข่นฆ่า รังสีสังหารมากหน่อยความจริงไม่เป็นไร ขอแค่อย่าใช้จิตพลังส่งทุกสรรพสิ่งสู่ความพินาศ วิวัฒน์รังสรรค์จากมีเป็นไม่มีของสี่กระบี่ล้ำค่าก็ใช้ได้”

ขณะพูด มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอยกโค้งขึ้น “แน่นอน ในตอนที่ต้องเสี่ยงชีวิต ยังไงก็ต้องใช้เต็มที่”

เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หากมีโอกาส ทำความเข้าใจก่อนว่าเหตุใดกษัตริย์ดินถึงได้มีคำสั่งเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองกลัว ยิ่งไปกว่านั้น ถึงท้ายที่สุด ข้าก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์อยู่ดี”

ระหว่างที่สนทนากัน พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดบนเกาะจิ่งชิงก็ค่อยๆ สงบลงแล้ว

ภัยพิบัตินี้มาเร็วไปเร็ว ส่วนที่ทำให้ทุกคนปวดศีรษะจึงอยู่ที่ ไปมาไร้เค้าลาง ป้องกันไม่หวาดไม่ไหว

พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดสงบลง ไม่เพียงแต่ที่เกาะจิ่งชิงเท่านั้น แม้แต่การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณบนน่านน้ำรอบๆ ก็มั่นคงขึ้นมาด้วย

ความสามารถในการรับรู้ที่เยี่ยนจ้าวเกอมีต่อโลกภายนอก กลับเป็นปกติอีกครั้ง

ครั้นแล้ว เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดส่งมาทางทิศตะวันตก เหมือนกำลังเข้าใกล้ทางนี้

……………………………………….

[1] เป็นคำพูดของเทพเจ้าทงเทียนเจียวจู่ ซึ่งพูดเกี่ยวกับค่ายกลสังหารเซียนในเรื่องหอสินเอี้ยนหงี หรือ สถาปนาเทพเจ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี