เยี่ยนจ้าวเกอเกอเอ่ย “ความจริงตัวข้าก่อนหน้านี้ก็สงสัยมาโดยตลอด”
เขาชายหนุ่มไม่ได้สัมผัสโลกซ้อนโลกมากนัก ขอบเขตจำกัดอยู่ที่ทะเลหวงเจียเพียงที่เดียว
แต่ว่าสถานที่ต่างๆ อย่างโลกแปดพิภพ และโลกผืนสมุทรที่เคยไป ก็พบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
ชายหนุ่มไม่เคยเจอขุมกำลังหรือจอมยุทธ์ที่สืบทอดวิชาสายเหนือพิสุทธิ์มาก่อน
อย่าว่าแต่ลูกศิษย์สายตรงเลย แม้แต่สาขาย่อยหรือผู้ได้รับอิทธิพลล้วนไม่เคยเจอมาก่อน
ฝ่ามือนภากว่างเฉิงอันเป็นวรยุทธ์ของเขากว่างเฉิงได้รับอิทธิพลมาจากวิชาสายหยกพิสุทธิ์ หลังจากมาถึงโลกซ้อนโลก ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงไม่ต้องพูดถึง วิชาวรยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็เป็นสิ่งที่แตกแขนงออกมาจากสายหยกพิสุทธิ์เช่นกัน
สำนักประกายกาฬในอดีตอยู่มาตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ว่ากันว่าบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสำนักเคยร่ำเรียนที่เขาคุนหลุนมาก่อน
การสืบทอดระบบสำนักของวรยุทธ์อื่นๆ ดูเหมือนไม่มีเบื้องหลังเด่นชัด แต่ถ้าเป็นวรยุทธ์สำนักเต๋า นอกจากจะได้รับอิทธิพลจากวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์ ต่างนับเป็นสายเอกพิสุทธิ์ทั้งสิ้น
วิชาสายตรงของสายเอกพิสุทธิ์ยิ่งมีให้เห็นน้อยถึงขีดสุด แต่ว่าแตกกิ่งก้านสาขามากกว่าสายหยกพิสุทธิ์และสายเหนือพิสุทธิ์
ว่ากันว่า เทวกษัตริย์แห่งเต๋าผู้เป็นบรรพบุรุษของสายเอกพิสุทธิ์ในอดีตได้สั่งสอนทุกสรรพสัตว์ มอบแสงแห่งปัญญาให้กับมนุษย์ หลักเต๋าที่สั่งสอน ได้วางรากฐานและเส้นสายสาขาของการพัฒนาวรยุทธ์ของมนุษย์ไว้
วรยุทธ์สำนักเต๋า นอกจากจะแน่ใจว่าตนเป็นวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว คนอื่นๆ ล้วนยกย่องเทวกษัตริย์แห่งเต๋าเป็นบรมครูของตัวเองทั้งสิ้น
เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นมานานแล้วว่าทั้งวิชาสายหยกพิสุทธิ์และเอกพิสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นสายตรงหรือสาขาย่อย ตนล้วนเคยพบมาก่อน
มีเพียงแต่วิชาสายเหนือพิสุทธิ์ ที่เขาไม่เคยเห็นแม้แต่ร่องรอย
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่าเป็นเพราะสถานที่ที่ตนเคยไปในยุคสมัยนี้ยังน้อยเกินไป และจอมยุทธ์ที่รู้จักก็ยังมีจำนวนน้อยเกินไปเช่นกัน
อย่างเช่นโลกซ้อนโลก ถึงทะเลหวงเจียจะไม่มีวิชาสายเหนือพิสุทธิ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสถานที่อื่นไม่มี ถึงอย่างไรโลกซ้อนโลกก็ใหญ่โตมาก
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหนงอวี่ซวน และเทียบเรื่องสองเรื่องเข้าด้วยกันแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้เกรงว่าจะไม่ใช่ความบังเอิญ
สาเหตุของมันทำให้คนต้องจินตนาการแล้ว
ถ้าหากว่าคำสั่งของกษัตริย์ดินนี้ได้รับการดำเนินการอย่างเป็นจริงเป็นจังบนโลกซ้อนโลก เช่นนั้นก็หมายความว่า นี่ไม่ใช่แค่ความปรารถนาของพระองค์เพียงคนเดียว
สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ประมุขทั้งสิบ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกซ้อนโลกต่างเห็นด้วยกับคำสั่งนี้
อย่างน้อย พวกคนระดับสูงสุด ส่วนใหญ่แล้วมีท่าทีสนับสนุน
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง ‘น่าสนใจ เป็นไปได้ว่าจะไม่ใช่ความแค้นของคนคนหนึ่ง แต่เป็นความขัดแย้งของส่วนรวม…’
‘บรมครูสามพิสุทธิ์หลุดพ้นไปนานแล้ว ทั้งหยกพิสุทธิ์ เอกพิสุทธิ์มักจะเกาะติดเทพทงเทียนเจียวจู่…อ้อ ไม่ถูกต้อง เป็นหลิงเป่าเทียนจวิน เหตุใดจึงมักสร้างความลำบากให้แก่ลูกศิษย์กับหลานศิษย์ของท่านผู้เฒ่ากัน?’
ความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปมาในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ค่อนข้างไร้สาระไปบ้าง แต่ตัวเขาเอาจริงเอาจังมาก
หลังจากมาถึงโลกใบนี้เป็นครั้งแรกก่อนวิกฤตการณ์ เยี่ยนจ้าวเกอค้นพบอย่างประหลาดใจว่า เรื่องราวประหลาดพิสดาร และปกรณัมปรัมปราจากในชีวิตก่อนของตน ที่นี่ก็มีเช่นกัน
อย่างเช่นห้องสินเอี้ยนหงี ไซอิ๋ว หรือว่าตำนานเทพนิยายเรื่องอื่น
เพียงแต่หลายสิ่งเหมือนจริงเหมือนไม่จริง มีตำนานบางตำนานเหมือนกันโดยสิ้นเชิง มีบางตำนานแตกต่างกันมาก ถึงขั้นที่ตรงกันข้ามกัน
นี่ทำให้เขาแยกแยะไม่ออกมาว่า เป็นเรื่องราวที่ตนเคยฟังมาก่อนหน้าผิดพลาด หรือว่าตำนานที่ได้ฟังหลังจากมาถึงโลกใบนี้มีจุดที่บันทึกผิด
นี่ความจริงเป็นเรื่องที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอปวดศีรษะเล็กน้อย
สิ่งของมากมายได้แต่เดินทางพบเจอระหว่างทาง ตำนานเทพนิยายที่เคยได้ยินอย่างมากสุดก็ต้องศึกษาให้ดี ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายตัวเอง
สิ่งที่เรียกว่าชุดความคิดปกติ แต่ไหนแต่ไรก็เป็นของที่ยากจะพิชิต บอกไม่ได้ว่าจะกลบฝังตัวเองตอนไหน
อย่างเช่นเรื่องที่อยู่ตรงหน้า บรมครูสามพิสุทธิ์ที่อยู่ในตำนานได้หลุดพ้นทางโลกก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์นานมาก หายตัวไปไม่รู้กี่ปีแล้ว
ตามการบันทึกบนคัมภีร์ในวังเทพ ถึงกับไม่ใช่เรื่องที่เกิดในยุคเริ่มต้นด้วยซ้ำ
ช่วยสังหารเซียน ผนึกเซียน ลวงเซียน เกิดแสงสีชาดสี่ทิศ
สังหารเซียนเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด เหล่าเทพเซียนโลหิตย้อมอาภรณ์[1]”
เยี่ยนจ้าวเกอลากเสียง “สี่ประโยคหลัง ความจริงบ่งชี้ถึงลักษณะพิเศษภายนอกของสี่กระบี่ล้ำค่า”
เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่เหมือนคิดอะไรบางอย่าง “…สังหารเซียนเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุดหรือ?”
ชายหนุ่มพยักหน้า “การเก็บเจตจำนงที่ทำลายล้างทุกอย่างไว้ในกระบี่ แม้จะลดทอนพลานุภาพของกระบี่สังหารเซียนลง แต่ก็ช่วยพัฒนาวิชากระบี่อื่นๆ หรือวรยุทธ์อื่นๆ สามารถปิดบังคนจำนวนมากได้”
“วิชากระบี่เดิมทีเป็นวิชาเข่นฆ่า รังสีสังหารมากหน่อยความจริงไม่เป็นไร ขอแค่อย่าใช้จิตพลังส่งทุกสรรพสิ่งสู่ความพินาศ วิวัฒน์รังสรรค์จากมีเป็นไม่มีของสี่กระบี่ล้ำค่าก็ใช้ได้”
ขณะพูด มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอยกโค้งขึ้น “แน่นอน ในตอนที่ต้องเสี่ยงชีวิต ยังไงก็ต้องใช้เต็มที่”
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หากมีโอกาส ทำความเข้าใจก่อนว่าเหตุใดกษัตริย์ดินถึงได้มีคำสั่งเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองกลัว ยิ่งไปกว่านั้น ถึงท้ายที่สุด ข้าก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์อยู่ดี”
ระหว่างที่สนทนากัน พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดบนเกาะจิ่งชิงก็ค่อยๆ สงบลงแล้ว
ภัยพิบัตินี้มาเร็วไปเร็ว ส่วนที่ทำให้ทุกคนปวดศีรษะจึงอยู่ที่ ไปมาไร้เค้าลาง ป้องกันไม่หวาดไม่ไหว
พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดสงบลง ไม่เพียงแต่ที่เกาะจิ่งชิงเท่านั้น แม้แต่การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณบนน่านน้ำรอบๆ ก็มั่นคงขึ้นมาด้วย
ความสามารถในการรับรู้ที่เยี่ยนจ้าวเกอมีต่อโลกภายนอก กลับเป็นปกติอีกครั้ง
ครั้นแล้ว เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดส่งมาทางทิศตะวันตก เหมือนกำลังเข้าใกล้ทางนี้
……………………………………….
[1] เป็นคำพูดของเทพเจ้าทงเทียนเจียวจู่ ซึ่งพูดเกี่ยวกับค่ายกลสังหารเซียนในเรื่องหอสินเอี้ยนหงี หรือ สถาปนาเทพเจ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี