ประชากรบนโลกซ้อนโลกมีมากกว่าโลกต่างๆ อย่างโลกแปดพิภพ หรือโลกผืนสมุทรเสียอีก
ในเงื่อนไขด้านจำนวนประชากรที่มหาศาลเช่นนี้ อัจฉริยะที่ปรากฏตัว คนร้ายกาจที่ปรากฏตัว อัจฉริยะในอัจฉริยะที่ปรากฏตัว ย่อมมีมากตามไปด้วย
จอมยุทธ์จากโลกแปดพิภพ หรือโลกผืนสมุทรยังยากจะเชื่อ บุคคลที่มีพรสวรรค์น่าทึ่งซึ่งไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นสำหรับเฉินจื้อเหลียงและเหวินลั่วเสีย ซึ่งเป็นคนที่เห็นอัจฉริยะมาจนชิน ต่อให้ตรงหน้านี้จะมีบุคคลสวรรค์ประทานที่ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้โผล่มาสักคนจริงๆ พวกเขาก็ไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญอยู่ดี
สาเหตุง่ายมาก อัจฉริยะในทุกวันนี้ เมื่อไปถึงวันพรุ่งนี้ ใช่ว่าจะไม่ถูกกลืนไปกับคนส่วนใหญ่
มีเพียงแต่การเปลี่ยนพรสวรคค์และความสามารถของตัวเองให้กลายเป็นพลังอย่างแท้จริงเหมือนที่คนทั่วไปคาดเอาไว้เท่านั้น ความเป็นอัจฉริยะจึงจะสะท้อนออกมาอย่างคุ้มค่า
แต่ปัญหาก็คือ คนที่โผล่ขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา มีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์!
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อายุไม่ถึงสามสิบปี!
ต่อให้เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงจะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ไม่รู้ว่ามีพลังเหนือกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นรวมรูปทั่วไปขนาดไหน
แต่พวกเขาก็ไม่อาจมองคนหนุ่มที่เลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีพรสวรรค์น่าทึ่งเหลือประมาณคนหนึ่งเป็นคนธรรมดาได้
นี่หมายความว่า นอกจากอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์แล้ว คนหนุ่มตรงหน้านี้อาจจะมีผลสำเร็จและวาสนายิ่งใหญ่
ในอีกความหมายหนึ่ง แค่ความปราดเปรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญแล้ว
ถึงอย่างไร พรสวรรค์ก็อาจถูกทิ้งขว้างและลดทอนให้หมดไปได้
เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงนาทีนี้สนใจในตัวเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่าเดิม
แต่ว่าพวกเขาสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว สลัดความคิด สีหน้ากับสายตาสงบนิ่งลง มาตราว่าจิตใจจะตื่นตระหนกขนาดไหนก็ไม่เผยออกมาอีก
หลังจากทั้งสองฝ่ายคำนับกันแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกลับมองไป๋จื่อหมิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
พลังเลื่อนเป็นขั้นเทวะ ลอยขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง ตามที่เยี่ยนจ้าวเกอรู้ในตอนนี้ บนโลกซ้อนโลกมีคนเช่นนี้อยู่ไม่น้อย
ถึงขั้นที่มีบางคนลงหลักปักฐาน ตั้งสำนักสร้างพรรค ทั้งยังสร้างชื่อเสียงขึ้น
นอกจากไป๋จื่อหมิงแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยังสำรวจเหวินลั่วเสียด้วย
อีกฝ่ายดำลงไปที่ก้นทะเลของทวีปจิ่งชิงเพราะอะไรกันแน่ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เหวินลั่วเสียจะถูกขังไว้ ทว่านางได้อะไรมาแล้วหรือไม่ กลับยังไม่รู้
กระนั้นแม้จะช่วยอีกฝ่าย คำถามพวกนี้กลับไม่ควรเอ่ย ถึงอย่างไรทั้งสองฝ่ายก็เพิ่งจะรู้จักกันเป็นครั้งแรก
พวกเจิ้งหมิงสงสัยสถานการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน แต่ไม่กล้าละลาบละล้วง
พวกเจิ้งหมิงค่อนข้างให้ความสำคัญกับเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ถือตัว หรือทำอะไรไร้มารยาท
พวกเขาเชิญให้สหายของเยี่ยนจ้าวเกอขึ้นเรือเช่นกัน ตัวเขาเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่ได้บอกปัด เพียงเก็บกลิ่นอายของวังฝูงมังกร จากนั้นก็เก็บวังประหลาดนั้นอย่างระมัดระวัง
หลังจากเฟิงอวิ๋นเซิงขึ้นเรือ สีหน้าของเจิ้งหมิงก็สั่นไหวเล็กน้อย มองนางด้วยความสงสัย
บนตัวสตรีนางนี้เหมือนมีตัวตนประหลาดบางอย่างที่ทำให้เขามองไม่ออกในทันที
“สหายของท่าน หรือว่าจะร่ำเรียนวิชาวรยุทธ์กับบิดาของท่านด้วย?” เจิ้งหมิงถามด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฟิงอวิ๋นเซิง พูดกลั้วหัวเราะ “นี่คือภรรยาข้า”
เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงอดหัวเราะไม่ได้ “ที่แท้เป็นเช่นนี้ พวกเราเข้าใจผิดเสียแล้ว เพียงแต่เห็นนางแต่งตัวแบบหญิงสาว ดังนั้น…”
“ยังไม่ได้แต่งงาน แต่ได้หมั้นหมายกันแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวยิ้มๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี