ลูกศิษย์ของประมุขตงหนานคาดเดาถึงการยึดครองดินแดนในทะหลวงเจียอย่างแปลกประหลาด ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาโดยตลอด
เพียงแต่ว่าประมุขตงหนานให้การอนุญาตอย่างเงียบๆ พวกเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงจึงไม่ถามมากความ
ในตอนนี้แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่พวกเจิ้งหมิงจิตใจต่างสั่นไหวเล็กน้อย ทั้งนึกถึงเรื่องบางอย่าง
เฉินจื้อเหลียงพูดอย่างราบเรียบ “ความสามารถด้านค่ายกลของนักพรตสือสูงส่งยิ่ง ผู้สืบทอดของเขาคงจะไม่ใช่ธรรมดา”
เยี่ยนจ้าวเกอคอยสังเกตสีหน้าของเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียง ครั้นได้ยินคำพูดของเฉินจื้อเหลียง เขาก็ค่อยๆ คำนวณในใจ
เสวียเหวินอ๋อง ผู้วิเศษเซิง และนักพรตสือในอดีต ดูเหมือนไม่ได้มายังทะเลหวงเจียเพราะคำสั่งของประมุขตงหนาน
พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นแขกผู้มาจากด้านนอกของทะเลหวงเจียเท่านั้น สำหรับเขตหยางเทียนตะวันออกเฉียงใต้ ก็เป็นไปได้มากว่าจะเป็นแขกที่มาจากด้านนอกเหมือนกัน
ส่วนเหตุใดประมุขตงหนานจึงอนุญาตให้พวกเขาสร้างค่ายกลบูชาฟ้าขึ้นบนทะเลหวงเจีย เพื่อตามหาเบาะแสของมารดาแห่งแผ่นดิน นั่นมีความเป็นไปได้สองอย่าง
ข้อแรก ด้านหลังพวกเขายืนไว้ด้วยบุคคลที่แม้แต่ประมุขตงหนานยังกริ่งเกรง ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งต่อการกระทำของพวกเขา
ข้อสอง พวกเขามีที่พึ่งพิง แม้จะยังไม่ถึงขั้นทำให้ประมุขตงหนานก้มหน้าเรียกตัวเองว่ากระหม่อมได้ แต่ว่าประมุขตงหนานปกติไม่คิดล่วงเกิน ตัวประมุขตงหนานไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่ จึงไม่รู้ถึงการมีอยู่ของค่ายกลบูชาฟ้าที่ทะเลหวงเจียนี้
ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ก่อนหน้าไม่สูงนัก กษัตริย์ยังมีกษัตริย์อีกสองพระองค์คอยคานอำนาจ ไม่มีใครใช้มือเดียวบังฟ้าอย่างเบ็ดเสร็จได้
พวกต้าเสวียนอ๋อง ฉีเหว่ย คังฮูหยิน ยังปฏิบัติการเป็นการลับ หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ประมุขตงหนาน หรือคนอื่นรู้เรื่อง
สถานการณ์อย่างหลัง มีอะไรให้น่าพูดถึงกว่า
เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะยามปกติข้าศึกษาค่ายกล ค้นคว้าตลอดเวลา เกรงว่าคงจะหนีจากค่ายกลเอกภพย้อนทวนของเขาไม่พ้น ถึงอย่างไรก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง”
เจิ้งหมิงตาเป็นประกาย “ท่านสู้กับเขามาแล้วหรือ?”
เฉินจื้อเหลียง ไป๋จื่อหมิง และเหวินลั่วเสียต่างงงงัน ‘ปรมาจารย์ด้านค่ายกลที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้าวางค่ายกล คนหนุ่มผู้นี้เป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ถึงกับหนีรอดมาได้หรือ? เช่นนั้นความสามารถด้านค่ายกลของเขาเกรงว่าจะไม่ได้แค่ศึกษาในยามปกติเท่านั้น…’
เยี่ยนจ้าวเกอเล่าว่า “ก่อนหน้านี้ไม่นาน จะว่าไปก็น่าขายหน้า ข้าได้ของบางอย่างมาจากผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง สุดท้ายล่วงเกินจนผู้อาวุโสท่านนั้นและผู้สืบทอดของนักพรตสือมาซุ่มสังหาร”
เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงต่างไม่ได้พูดอะไร พวกเขารู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะต้องเล่าต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่ได้ทำลับลมคมใน โพล่งขึ้นว่า “ของมีไม่น้อย เช่นเครื่องหอมบรรจุฟ้า ดินกำเนิดจักรภพ ผลึกปอดแดนทะเล”
เฉินจื้อเหลียงขมวดคิ้ว มองเจิ้งหมิงอย่างสงสัยเล็กน้อย “ศิษย์พี่เจิ้ง ของเหล่านี้?”
ในฐานะลูกศิษย์ที่ประมุขตงหนานสั่งสอนด้วยตัวเอง พวกเขามีประสบการณ์และเรื่องที่รู้มากกว่าคนธรรมดามากมายนัก
โดยเฉพาะเครื่องหอมบรรจุฟ้า มีความพิเศษมาก แต่ให้สรรพคุณน้อยนิด
เฉินจื้อเหลียงคิดถึงอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นจึงมองเจิ้งหมิง
เจิ้งหมิงไม่ได้กล่าวอันใด สีหน้าเคร่งขรึมลง
ครู่ต่อมา เขาก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ ฝ่ายเยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าพลางยิ้ม “ตามที่ข้ารู้ ของพวกนี้เป็นวัตถุดิบวางค่ายกลของค่ายกลบูชาฟ้า”
เจิ้งหมิงเอ่ยอย่างเชื่องช้า “สหายเยี่ยนมีประสบการณ์เต็มเปี่ยม ข้านับถือนัก”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ท่านชมกันเกินไป”
เจิ้งหมิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง เขารู้สึกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอลงมือช่วยเหลือเหวินลั่วเสีย ก็เพราะสาเหตุนี้
เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญกับสายตาพิจารณาของเจิ้งหมิง เหมือนรู้ความคิดในใจของอีกฝ่าย
เขามีสีหน้าเยือกเย็น ไม่รีบไม่ร้อน
เจิ้งหมิงเห็นดังนั้นก็ละสายตา ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี