ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 718

ในแสงสว่างและความมืดที่ปกคลุมฟ้าดิน ปรากฏความมืดไร้สิ้นสุด และในความมืดนี้พลันมีแสงสว่างจุดหนึ่งที่ละลานตาเบ่งบานขึ้น

ด้านในแสงสว่าง คือไฟตะเกียงจุดหนึ่ง

ไฟตะเกียงสั่นไหวเบาๆ แหวกแสงสว่างและความมืดที่มีอยู่เต็มไปหมดออกด้านข้าง แล้วมาถึงด้านหน้าแท่นบูชาอันเป็นใจกลางของมิติต่างแดนแห่งนี้

ตะเกียงดวงนั้น กลับเป็นตะเกียงประกายกาฬ!

ลวดลายแสงของแสงสว่างอันพร่างพราวหลายสายลอยขึ้นบนผิวตะเกียง เหมือนกับไม่มีวันดับชั่วนิรันดร์

ภายใต้การชี้นำของไฟตะเกียง เงาคนหลายเงาปรากฏขึ้นด้านในมิติต่างแดน

คนที่นำหน้าสวมอาภรณ์สีดำ ด้านบนศีรษะมีหนึ่งอาทิตย์หนึ่งจันทราหมุนวน สภาวะข่มขวัญผู้คนแผ่พุ่งออกมาโดยไม่อำพรางแม้แต่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เห็นเงาร่างของหลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่าง

หลัวจื้อเทาที่บังคับตะเกียงประกายกาฬให้เคลื่อนไปด้านหน้า โดยมีกงจักรสุริยันจันทราอยู่บนศีรษะ บัดนี้เหมือนกับสรวงสวรรค์ที่รุ่งโรจน์จริงๆ

ส่วนด้านข้างของหลัวจื้อเทา ติดตามไว้ด้วยพวกกัวซง

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เข้ามาในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ ไม่ได้มาถึงพร้อมกันหมด

เป็นเพราะหลัวจื้อเทาสัมผัสได้ว่า ด้านในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬยังมีตัวตนที่สำคัญและแข็งแกร่งยิ่งกว่าตะเกียงประกายกาฬ จึงรีบมาด้วยความเร็วสูงสุด

สุสานจักรพรรดิในตอนนี้ไม่อาจกลายเป็นความว่างเปล่าได้อีก หลัวจื้อเทาจึงตามเจอแค่ไม่กี่คน

แต่ขอแค่มีตะเกียงประกายกาฬกับกงจักรสุริยันจันทราอยู่ในมือ สำหรับหลัวจื้อเทาก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ภายใต้การส่องสว่างจากแสงของตะเกียงประกายกาฬ อานุภาพอันน่ากลัวที่ทำให้พวกหลัวจื้อเทาหวาดกลัวจนพวกเขาหายใจไม่ออกเมื่อครู่นี้ บัดนี้ไม่ส่งผลกระทบอีกต่อไป กลับมีความรู้สึกเหมือนตากลมในฤดูใบไม้ผลิอยู่

เหมือนกับกำลังรับบุญคุณของบรรพบุรุษ

สายตาของหลัวจื้อเทามองกงจักรมหาประกายกาฬที่อยู่บนแท่นบูชาก่อน

ในดวงตาสองข้างของเขาอดฉายแววหวาดหวั่นไม่ได้ “เหมือนจะยังสร้างไม่สำเร็จ แต่ว่า…แต่ว่าอย่าว่าแต่มีรากฐานเหนือกว่ากงจักรสุริยันจันทราเลย ต่อให้ตะเกียงประกายกาฬจะอยู่ในสภาวะสมบูรณ์ ก็เกรงว่าจะสู้ไม่ได้ ของสิ่งนี้เป็น…เป็น….”

พวกกัวซวงที่อยู่ด้านข้างหลัวจื้อเทา ต่างมีสีหน้าตกตะลึง

“หรือว่า…จะเป็นอาวุธเซียนในตำนาน?!” หลัวจื้อเทาสูดหายใจลึก ‘หรือว่านี่จะเป็นความลับที่สำคัญที่สุด และเป็นของวิเศษที่ล้ำค่าที่สุดของสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ?’

การได้ตะเกียงประกายกาฬมาไว้ในมือ หลัวจื้อเทาเพียงรู้สึกชื่นชมและยินดี แต่ขณะมองกงจักรมหาประกายกาฬ พวกเขาก็ใจเต้นระรัวจนเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้

พวกกัวซงที่อยู่ด้านข้างเขายิ่งเผยแววลิงโลด

ไม่ผิดที่พวกเขาจะเสียอาการ เพราะความสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกงจักรมหาประกายกาฬยิ่งใหญ่เกินไปจริงๆ

กงจักรมหาประกายกาฬตรงหน้ายังเป็นแค่ตัวอ่อนหรือแบบจำลองเท่านั้น ไม่ได้ถูกหลอมโดยสมบูรณ์ แต่ก็แข็งแกร่งกว่าธรรมดาแล้ว

ถ้าหากว่าหลอมสำเร็จ เช่นนั้นมันจะต้องกลายเป็นของวิเศษอันดับหนึ่งแห่งเขตตะวันอาคเนย์อย่างแน่นอน

หลัวจื้อเทาหากพลังฝึกปรือก้าวหน้าขึ้น เลื่อนเป็นขั้นสะพานเซียน เมื่อใช้กงจักรมหาประกากยาฬ ต่อให้เป็นประมุขอาคเนย์ก็ทำอะไรเขาไม่ได้!

สำนักแสงสว่างสามารถสยบเขตตะวันอาคเนย์ได้โดยสมบูรณ์

พอมาถึงขั้นนี้ จะปรากฏความรุ่งโรจน์ในวันวานของสำนักประกายกาฬ เป็นการก้าวเท้าที่มั่นคงที่สุดอย่างแท้จริง

ปณิธานตลอดชีวิตของบรรพบุรุษแต่ละรุ่นของสำนักแสงสว่างและหลัวจื้อเทา กำลังจะได้เห็นรุ่งอรุณและความหวังจริงๆ แล้ว

หลัวจื้อเทากวาดสายตาจากของวิเศษที่กองอยู่ด้านล่างดุจภูเขาเลากา ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

สายตาของเขาตกลงบนกงจักรมหาประกายกาฬ และเยี่ยนจ้าวเกอที่กำลังจับกงจักรมหาประกายกาฬบนยอดแท่นบูชาอีกครั้ง

ความเร่าร้อนในดวงตาทั้งสองข้างของหลัวจื้อเทาหายไปในทันใด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเย็นเยียบ

เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาหลัวจื้อเทาขึ้นลง สีหน้าไม่สะทกสะท้าน หัวเราะขึ้น “ถึงแม้ท่านจะมีกงจักรสุริยันจันทรา อีกทั้งยังนำตะเกียงประกายกาฬไปได้แล้ว แต่มาถึงได้ไวถึงเพียงนี้ น่าจะไม่ได้เสียเวลากับสำนักความมืด”

“แสดงว่าพวกเจ้าสำนักโจวแห่งสำนักความมืดผละไปเอง หลังจากที่พวกท่านหลอมตะเกียงประกายกาฬแล้วกระมัง?”

หลัวจื้อเทาสายตาเย็นชา ไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย “อย่าคิดจะถ่วงเวลา ไม่มีประโยชน์อันใด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี