เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบตกลงแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ยิ้มเล็กน้อยอยู่ในใจ
จะมากจะน้อยเยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบถึงสถานการณ์ของโลกยมทะยานก่อนหน้านี้จากไป๋จื่อหมิงอยู่บ้าง
สำนักตะวันซ้อนมีสภาวะยิ่งใหญ่ จะต้องกินดินแดนของสำนักอื่นๆ รวมถึงภูเขาหิมะไพศาลไปด้วยแน่
หากมีโอกาสคว่ำสำนักตะวันซ้อน สำนักอื่นย่อมอยากจะเห็น โดยเฉพาะภูเขาหิมะไพศาลที่เป็นรองเพียงสำนักตะวันซ้อนเท่านั้น
พลังของหยวนเจิ้งเฟิงเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนในโลกยมทะยาน ถึงขั้นที่แม้แต่หอพัดคลื่น ซึ่งเป็นสำนักที่หยวนเจิ้งเฟิงอยู่ก็ใช่ว่าจะทราบเบื้องหลังทั้งหมด
สุดท้ายในการทำลายหอพัดคลื่นของสำนักตะวันซ้อน พวกเขาเกือบจะเตะใส่แผ่นเหล็ก ดีที่หยวนเจิ้งเฟิงไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม จึงถูกสำนักตะวันซ้อนใช้ชัยภูมิพิเศษของตาน้ำทะเลที่ทะเลตะวันตกขังเอาไว้
แต่แม้ว่าจะขังหยวนเจิ้งเฟิงเอาไว้ สำหรับสำนักตะวันซ้อนแล้ว นี่ยังคงเป็นกระดูกที่ยากจะเขี้ยว ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก
นี่ทำให้สำนักอื่นๆ เช่นภูเขาหิมะไพศาลเกิดความคิดขึ้นในใจ
แต่กระนั้น สำนักตะวันซ้อนถึงอย่างไรก็มีพลังกล้าแข็ง ทั้งยังมียอดฝีมืออยู่บนโลกซ้อนโลกมากมาย มีเบื้องหลังล้ำลึก หยั่งรากมั่นคง ภูเขาหิมะไพศาลจึงกริ่งเกรง ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม
ทว่าในตอนนี้ หลังจากได้ทราบจากเยี่ยนจ้าวเกอว่า ไป๋จื่อหมิงเองก็มีต้นไหม้ใหญ่ให้พึ่งพิงอยู่บนโลกซ้อนโลกเช่นกัน ไม่ต้องเกรงกลัวสำนักตะวันซ้อนอีก ความลังเลในใจของทั่วทั้งภูเขาหิมะไพศาลก็หายไป
การคว่ำสำนักตะวันซ้อน เป็นความปรารถนาของพวกเขาอยู่แล้ว
หากโอกาสสุกงอม ไม่ต้องให้คนอื่นบอก ภูเขาหิมะไพศาลก็จะเคลื่อนไหวเอง
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่กลัวว่าพวกเขาจะปฏิเสธ หากพูดในอีกมุมหนึ่ง นี่เป็นเรื่องที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ถึงขั้นที่เป็นตนกับอาจารย์ปู่ช่วยเหลือภูเขาหิมะไพศาลของพวกเขาด้วยซ้ำ
ไม่อย่างนั้น หากพึ่งพาภูเขาหิมะไพศาลในโลกยมทะยาน คงคว่ำสำนักตะวันซ้อนไม่ได้
ไป๋จื่อหมิงเข้าถึงประมุขอาคเนย์ในโลกซ้อนโลกได้ ย่อมมีคนปกป้องเขา แต่เขาจะไปตอแยผู้อื่นไม่ได้
สำนักตะวันซ้อนกริ่งเกรงประมุขอาคเนย์ ไม่กล้าสร้างความลำบากให้กับไป๋จื่อหมิงและภูเขาหิมะไพศาล แต่ว่าไป๋จื่อหมิงก็ไม่อาจขอให้ลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์มาช่วยเขาโจมตีสำนักตะวันซ้อนที่โลกยมทะยานได้เช่นกัน
อย่างน้อย ตำแหน่งของไป๋จื่อหมิงในเขาโถงทอง ณ ตอนนี้ ย่อมทำถึงจุดนี้ไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อว่า ขอแค่ภูเขาหิมะไพศาลมีความคิดช่วงชิงตำแหน่งผู้ปกครองของสำนักตะวันซ้อนที่อยู่ในโลกยมทะยาน พวกเขาน่าจะตอบรับตนเอง
อย่างน้อยแล้ว ก็เพียงแค่สงสัยว่าตนหลอกลวงพวกเขาหรือไม่ และยังกริ่งเกรงว่ายอดฝีมือของสำนักตะวันซ้อนบนโลกซ้อนโลกจะแก้แค้นหลังเสร็จเรื่องหรือไม่เท่านั้น
กระนั้นการไม่ต้องสู้กับสำนักตะวันซ้อนด้วยตัวเอง จะต้องเป็นการลดความเสี่ยงถึงจุดต่ำสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
หยวนเจิ้งเฟิงหากหลุดจากการถูกขัง สำนักตะวันซ้อนรับมือไม่ทัน จะมีเวลาสนใจพวกเขาหรือ?
ถึงเวลานั้นพวกเขาจึงค่อยร่วมมือกับหยวนเจิ้งเฟิงจริงๆ ต่อให้สำนักตะวันซ้อนบนโลกซ้อนโลกลงมา ก็เกรงว่าจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ถึงขั้นที่ใครแพ้ใครชนะยังไม่แน่
จากการบรรยายของยอดฝีมือในภูเขาหิมะไพศาลสี่คนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอจึงทราบว่าบนโลกยมทะยานแห่งนี้ หยวนเจิ้งเฟิง อาจารย์ปู่ของตนในปัจจุบันนี้หากสู้หนึ่งต่อหนึ่งถือว่าไร้เทียมทาน ใช้พวกมากรุมยังไม่แน่ว่าจะรับมือกับท่านผู้เฒ่าได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากภูเขาหิมะไพศาลมีความคิดเล็กน้อย คงจะเคลื่อนไหวไปแล้ว
“เช่นนั้น ขอรบกวนทุกท่านด้วย ข้าขอขอบคุณยิ่งนัก” ครั้นเยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ แสงสว่างในดวงตาของเทวรูปไป๋จื่อหมิงก็ค่อยๆ ดับลง
เวลาในการคงสภาพความสามารถของหยกแขวนวิญญาณจุติมาถึงขีดสูงสุดแล้ว
จิตของเยี่ยนจ้าวเกอหลุดจากเทวรูป ลอยขึ้นด้านบน กลับมายังความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว ตามหมอกควันสีเขียวมรกตสายนั้น
ในขณะที่เคลื่อนไหวอยู่กลางความว่างเปล่า หมอกควันสีเขียวมรกตก็กลับมาถึงมิติเวลาที่ถูกกำแพงผลึกสีเลือดครอบคลุมอยู่อีกครั้ง
หมอกควันเมื่อกลับมาด้านในหยกแขวน จิตที่เยี่ยนจ้าวเกอแบ่งออกไปก็กลับเข้าสู่ร่างโดยสมบูรณ์
เมื่อได้สติแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มองน้ำวนตรงหน้า ความคิดวาบขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว ‘ถึงแม้ว่าน้ำวนยังคงรุนแรงอยู่ แต่ใกล้จะหมดพลังแล้ว…’
พวกคังฮูหยินกับถานจิ่นคิดถึงจุดนี้เช่นกัน ต้านทานน้ำวนอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำเลี้ยวลดคดเคี้ยวท่ามกลางความว่างเปล่า วนเวียนอยู่รอบๆ สุดท้ายก็หลบผ่านน้ำวนสีเลือดได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี