หงส์เพลิงตัวนั้นชนเข้ากับเงาแสงคุนเผิง แต่การร่วงหล่นลงมาของตราประทับตะวันทำให้มันมึนงง โซเซไปด้านหลัง
นับว่าร่างจริงแท้ของหงส์เพลิง อานิสงส์และบารมีอันเป็นสองคุณธรรมที่เขาฝึกฝน เสริมพลังคุ้มกันกาย มีพลังป้องกันน่าทึ่งยิ่ง
หากเปลี่ยนเป็นเสวียนมู่อ๋องไม่ก็หลัวจื้อเทา ถ้าป้องกันไม่ทันเช่นนี้ คงถูกตราประทับตะวันพุ่งใส่จนศีรษะแตกเลือดอาบไปแล้ว
เมื่อได้รับการโจมตีจากตราประทับตะวัน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงบนร่างของเขาย่อมเกิดการตอบสนอง
ประกายแสงสีแดงเข้มสายหนึ่งแผ่พุ่งออกมาในก้นทะเล ครอบคลุมสี่ทิศ กันตราประทับตะวันไว้
ด้านในเปลวเพลิงมีเสียงดังมาว่า “มิน่าล่ะ นี่คือตัวช่วยของเจ้าหรือ?”
สิ่งที่เขาต้องการ ผู้อื่นห้ามนำไป ผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ต้องถูกสังหารทิ้ง
แต่อีกฝ่ายกลับยโสโอหังยิ่งกว่าเขา จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่คนหนึ่ง เขาขี้คร้านจะลงมืออีก จึงไว้ชีวิต แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเลิกรา กล้าปะทะกับเขาที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกเช่นนั้นหรือ?
ตอนแรกเขายังสับสนอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว
“เป็นของล้ำค่านัก คล้ายตราประทับตะวัน ของวิเศษที่ราชันพระอาทิตย์เคยพกติดตัว เจ้าเป็นใครกัน ถึงได้มีของล้ำค่าเช่นนี้? เป็นผู้สืบทอดของราชันพระอาทิตย์หรือ?”
หงส์เพลิงกระพือปีกอย่างรุนแรง ประกายแสงสีแสดเข้มม้วนเข้าไปหาตราประทับตะวันและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ตอบ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้เตากลืนดินกันพลังอันยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย จากนั้นก็ฝืนสะกดเลือดลมที่พลุ่งพล่านของตัวเอง หมุนตัวโดยฉับพลัน
เงาแสงคุนเผิงรวมตัวกันอีกครั้ง แสดงความเร็วถึงขีดสุดออกมา นำหน้าไปอยู่เบื้องหน้าหงส์เพลิงตัวนั้นพร้อมกับตราประทับตะวัน แล้วพุ่งไปที่ก้นทะเล
หงส์เพลิงส่งเสียงร้อง ออกตัวหลังแต่มาถึงก่อน เข้าใกล้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกในชั่วพริบตา
ความเร็วสู้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่อยู่ในระดับเดียวกันไม่ได้ แต่ก็รวดเร็วดุดันถึงขีดสุดเช่นกัน
“เจ้าไม่ตอบ เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าไม่เกรงใจ ขอจับตัวเจ้าไว้ก่อนแล้วกัน!”
ท่ามกลางเสียงร้องของหงส์เพลิง อีกฝ่ายพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
ตอนแรกถูกตราประทับตะวันเล่นงานจนรับมือไม่ทัน แต่ตอนนี้เขาสงบจิตใจได้แล้ว
จอมยุทธ์ขั้นเทวะสำแดงก็คือขั้นเทวะสำแดง ไม่อาจสำแดงพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้เต็มที่เหมือนกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน มิพักเอ่ยถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดอย่างตราประทับตะวัน
เขามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอยู่กับตัวเช่นกัน ทุกคนต่างไม่อาจสำแดงพลังได้เต็มที่ แต่ก็ลดทอนการคุมคามจากตราประทับตะวันได้อยู่ดี
ถึงอย่างไรระดับพลังฝึกปรือของเขาก็สูงกว่า ขาดอีกแค่ก้าวเดียวก็จะเลื่อนสู่ขั้นสะพานเซียนได้แล้ว
เมื่อไร้การคุกคามจากตราประทับตะวัน เขาอยากรู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะยังมีตัวช่วยอะไรอีก
อีกฝ่ายไล่ตามมาถึงด้านหลัง เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่หันหน้า เพียงแค่นเสียงกล่าวว่า “คุณสมบัติของหงส์เพลิงนั้นบริสุทธิ์ ไม่ใช่ยโสโอหังหรือคุกคามผู้คน”
พวกเขาในตอนนี้ห่างจากก้นทะเลแค่คืบเดียวเท่านั้น
สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอสามารถมองเห็นวังร้างแห่งนั้นได้แล้ว
ลักษณะเหมือนกับในภาพที่เขาเห็นผ่านเตากลืนดิน ไม่มีอะไรแตกต่างแม้แต่น้อย เพียงแต่ดูธรรมดาและผุผัง
มันตั้งอยู่ตรงนั้น ไม่มีความพิเศษตรงไหนเลย เหมือนกับซากปรักหักพักของวังที่ไม่สะดุตา ซึ่งพังทลายมานานแล้ว
กระนั้นมันก็มีความพิเศษน่าอัศจรรย์ต่างกับภาพที่เขาเห็นผ่านเตากลืนดิน ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของผู้คน เหมือนสามารถดูดวิญญาณให้เข้าไปได้
เมื่อเห็นวังแห่งนี้ เตากลืนดินในมือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็พลันพุ่งเข้าไปหา
เตาเครื่องหอมสีดำขนาดเล็กที่ไม่สะดุดตา กลายเป็นแสงสีดำสายหนึ่ง ทะลุน้ำวน เคลื่อนที่ไปยังก้นทะเล
หลังจากเตากลืนดินเข้าไปในวังแห่งนั้นแล้ว น่านน้ำรอบๆ ก็พลันสงบลง
มหาสมุทรที่ก่อนหน้านี้มีคลื่นใต้น้ำซัดโหม และงูสายฟ้าแลบแปลบปลาบก็เหมือนกับหยุดลงโดยพลัน
ต่อจากนั้น มหาสมุทรก็มีสภาพดุจเดิม พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดพัดม้วนไปทั่ว
ทว่าพลันมีคลื่นสีดำหลายสายแผ่กระจายไปรอบๆ บริเวณ โดยมีวังแห่งนั้นเป็นศูนย์กลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี