เมื่อได้ยินจางเชาพูดถึงเยี่ยนจ้าวเกอ ใบหน้าของคังเม่าเซิงและคังจิ่นหยวนสองพี่น้องก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
คังจิ่นหยวนสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น ดวงตาสาดประกายเย็นเยียบไม่หยุด
คังเม่าเซิงจ้องมองจางเชา เกิดความคิดมากมายในชั่วพริบตา
ตราประทับตะวันกับมงกุฎจันทราต่างถูกค้นพบในโลกแปดพิภพ ส่วนพวกจางเชา เมิ่งหวาน และถังหยงฮ่าวก็มาจากโลกแปดพิภพเหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ
นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่า พวกจางเชามีความเข้าใจต่อเยี่ยนจ้าวเกอมากล้ำยิ่งกว่าพวกตน คนในทะเลหวงเจีย หรือแม้แต่คนในสำนักแสงสว่าง
โดยเฉพาะทั่วทั้งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องต่างสนใจมาโดยตลอดว่า เยี่ยนจ้าวเกอกับตราประทับตะวันเกี่ยวข้องกับราชาพระอาทิตย์หรือไม่
คังเม่าเซิงมองจางเชา กล่าวอย่างเชื้องช้า “เรื่องนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจได้ อีกเดี๋ยวข้าจะแนะนำท่านให้ท่านพ่อรู้จัก ท่านไปพบท่านพ่อของข้าเถอะ”
จางเชาพยักหน้า “รบกวนท่านแล้ว”
หลังจากเขาเว้นครู่หนึ่งก็พูดต่อว่า “บิดาของท่านมีพลังสูงส่งยิ่ง คาดว่าครั้งนี้สำนักแสงสว่างคงจะพบกับความพินาศ
“แต่ที่นี่มีพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดม้วนพัด เจ้าสำนักแสงสว่างหลัวจื้อเทาเองก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอย่างกงจักรสุริยันจันทราติดตัว เกิดว่าเขาฉวยโอกาสหนีไปได้ ข้าบางทีอาจช่วยราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องตามหาที่อยู่ของเขาในภายหลังได้”
คังเม่าเซิงกับคังจิ่นหยวนดวงตาเป็นประกายขึ้นมา
“ถ้าหากจำเป็นจริงๆ เช่นนั้นก็ประเสริฐ” คังเม่าเซิงว่า สายตาตกบนร่างเมิ่งหวาน มองดูมงกุฎจันทราบนศีรษะของนางเงียบๆ
จางเชามองเมิ่งหวานแวบหนึ่ง “มงกุฎจันทราชิ้นนี้ค่อนข้างพิเศษอยู่บ้าง ต้องเป็นสตรีที่ครอบครองจันทรากายถึงจะกระตุ้นได้”
คังเม่าเซิงพลันเข้าใจ “ที่แท้เป็นเช่นนี้ มิน่าเล่า…”
มิน่าของวิเศษเช่นนี้ สำนักแสงสว่างจึงไม่มีความสามารถครอบครองไว้ในมือของตัวเอง แต่ถูกเมิ่งหวานยึดไว้
เขามองจางเชาพลางเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มงกุฎจันทรานี้ก็ยังคง…”
คังเม่าเซิงพูดได้ครึ่งหนึ่งก็พลันหยุด ลางสังหรณ์เกิดขึ้นในใจ หมุนตัวไปอีกทางทันที
“มงกุฎจันทรา ท่านอย่าคิดจะนำไปเลย” พร้อมกันนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหูของทุกคน
ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอโผล่ขึ้นด้านหน้าพวกจางเชา คังเม่าเซิง และเมิ่งหวาน
ด้านในวังที่เกิดจากซากเลือดเนื้อของเทาเที่ย เยี่ยนจ้าวเกอสวมอาภรณ์สีขาว คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำเงิน เหมือนกับคุณชายเจ้าสำราญ
ด้านข้างเขายืนไว้ด้วยสตรีที่สวมอาภรณ์อันเป็นมาตรฐานของเขากว่างเฉิงผู้หนึ่ง เป็นเฟิงอวิ๋นเซิง
เมิ่งหวานที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด ดวงตากลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา
เฟิงอวิ๋นเซิงสบตากับนาง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แต่คนทั้งสองกลับยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา
เยี่ยนจ้าวเกอมองจางเชา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าจะเสียเวลาไปหลายปีเพราะสำนักแสงสว่าง แต่สุดท้ายแล้วมงกุฎจันทราจะต้องเป็นของเขากว่างเฉิง ครั้งนี้จะไม่ให้คนอื่นมารบกวนอีกแล้ว”
สายตาของเขาเลื่อนจากตัวจางเชาไปอยู่บนร่างคังเม่าเซิงและคังจิ่นหยวน
สายตาของคังจิ่นหยวนเต็มไปด้วยเพลิงโทสะและความเคียดแค้น อยากจะพุ่งเข้ามาใจจะขาด แต่กำลังฝืนควบคุมตัวเองอยู่
คังเม่าเซิงมีสายตาเย็นชาเช่นกัน ใบหน้าที่เคร่งเครียดในตอนแรก ตอนนี้เคร่งเครียดมากขึ้นกว่าเดิม
มารดาผู้ให้กำเนิดเขาตายไปนานแล้ว ก่อนที่คังฮูหยินจะเลี้ยงดูเขาด้วยตัวเองเหมือนลูกในไส้
เยี่ยนจ้าวเกอมองพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาก็ตกลงบนร่างจางเชา ทอดถอนใจขึ้นมา
เรือของสำนักแสงสว่างขณะกำลังจะพลิกคว่ำ จางเชาที่พึ่งพิงสำนักแสงสว่างคิดจะเปลี่ยนที่อยู่ เป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี