เยี่ยนจ้าวเกอใช้ดัชนีและฝ่ามือเคลื่อนย้ายเอกภพ พลิกเปลี่ยนหยินหยางในขณะที่วูบไหวร่าง
กระบวนท่าพระอาทิตย์สีม่วงที่จางเชาใช้พลังทั้งหมด หลังจากถูกเบี่ยงก็ตัดขาของคังเม่าเซิงที่ในตอนนี้ร่วมมือกันสู้ศัตรู
ชายหนุ่มเคลื่อนไหวไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากมือซ้ายใช้ดัชนีหยินหยางสำเร็จ มือขวางก็วาดเส้นโค้งแห่งความพินาศ ฟันใส่จางเชาต่อ!
หัวใจของจางเชาพลันรู้สึกถึงความหนาวเหน็บ
เขาแทบจะเห็นได้เลยว่า การออกกระบวนท่าของตนที่ใช้ต้านทานการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอน่าจะไม่มีประโยชน์
กระบวนท่าของตนจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอเบี่ยงเบนอย่างพิสดาร แล้วพุ่งใส่คังเม่าเซิงอีกรอบ
การโจมตีของคังเม่าเซิงก็จะมุ่งมาหาเขาเช่นกัน
พวกเขาราวกลับไม่อาจโจมตีโดนเยี่ยนจ้าวเกอได้ชั่วนิรันดร์ ได้แต่โจมตีใส่กันเอง
ในขณะที่ต้องป้องกันการโจมตีจากศัตรู พวกเขาก็ยังต้องเผชิญหน้ากับคมกระบี่ที่คล้ายกับไม่อาจถูกทำลายของเยี่ยนจ้าวเกออีก
จางเชาฝืนสะกดอาการบาดเจ็บ ส่งเสียงกู่ร่อง เคลื่อนย้ายร่าง เหมือนกับดวงอาทิตย์เคลื่อนกลางนภา ตัดผ่านท้องฟ้า
ท่าร่างสุริยันทะยานบูรพาของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ครั้นจางเชาที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงใช้ออกมา ก็ยิ่งเหนือกว่าจอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คนอื่น
แต่ว่าภายใต้การเหนี่ยวนำลมปราณ ประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอเร็วมากยิ่งขึ้น ไล่ตามมาถึงด้านหลังจางเชา ไม่มอบโอกาสหนีให้กับเขา
หลังออกห่างจากคังเม่าเซิงมาไกลแล้ว ในที่สุดจางเชาก็ลงมือ ป้องกันคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ว่าในประกายกระบี่นั้นพลันระเบิดแสงสีอันน่าทึ่งออกมา ด้านในมีปราณสีขาวหลายสายวนเวียนอยู่
ปราณกระบี่สีขาวกระจายไปทั่ว เงามืดแห่งความตายพลันครอบคลุมจิตใจของจางเชา
เขาที่จิตใจตั้งมั่นมาแต่ไหนแต่ไร ตรงหน้าถึงกับปรากฏภาพหลอนขึ้น เห็นวันสิ้นโลกมาถึง โลกถึงกาลพินาศ
สรรพสิ่งทั้งหลายมุ่งสู่จุดจบและความตาย ฟ้าดินถล่มทลาย มหาสมุทรเหือดหาย ทุกที่มีแต่เปลวไฟ โลกทั้งหมดต่างสิ้นสลาย
จางเชาครางหนักๆ ไหล่ซ้ายกับมือซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บมีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกัน ก่อนจะลุกไหม้กลางอากาศ
เขาฝืนหมุนตัว ใช้แขนซ้ายรับกระบี่นี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ
พริบตาที่โดนกระบี่ แขนซ้ายซ้ายของจางเชาก็มีละอองเลือดกลุ่มหนึ่งระเบิดออกมาทันที
นี่กลับเป็นเขาป่นแขนซ้ายของเขาเอง!
แขนซ้ายที่แหลกละเอียด ถูกประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอบดขยี้ เลือดเนื้อพลันพังทลาย
ละอองเลือดที่กระจายทั่วฟ้าดินหายไปในชั่วอึดใจ
เลือดและกระดูกที่ก่อนหน้านี้ยังร้อนเร่า ทั้งหมดแหลกละเอียด กลายเป็นเถ้าธุลี
เลือดเนื้อของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงแข็งแกร่งถึงเพียงใด? จางเชายอมสละแขนซ้ายของตัวเอง เลือดเนื้อระเบิดออกมา กลายเป็นพิรุณโลหิตอันน่ากลัว
จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ทั่วไป ถ้าหากว่าเข้าใกล้ จะต้องถูกระเบิดตายแน่นอน
แต่ว่าการระเบิดอันน่าพรั่นพรึง ถูกประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอบดขยี้ พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย พ้องกับสุภาษิตฟ้าร้องดังฝนตกนิดเดียว ศีรษะพยัคฆ์หางเป็นงู
แต่ว่าเหตุการณ์นี้พอปรากฏในสายตาของจางเชาและคังเม่าเซิง หัวใจของเขาก็หล่นลงไปสู่ก้นเหว
จางเชาใช้มือขวาอุดบาดแผลบนไหล่ซ้ายที่เลือดไหลราวสายน้ำ ส่วนมือซ้ายของเขาแหลกไปพร้อมกับไหล่แล้ว
“คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงจริงๆ ข้าถึงจะไม่ได้ตายด้วยมือของจ่านตงเก๋อ แต่กลับตายด้วยลูกศิษย์รุ่นที่สี่ของเขา”
เขาจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ในมือของเจ้ายังมีของวิเศษเช่นตราประทับตะวันอีก”
“น่าเสียดาย น่าเสียดายนัก ในตอนนั้นข้าไม่คิดจะตอแยนพยมโลก จึงไม่เสี่ยงอันตรายลงไปในหุบเหวบนปฐพีพิภพ ไม่อย่างนั้นถ้าหากข้าได้ตราประทับตะวันซึ่งสะกดร่องแยกของนพยมโลกอยู่ที่นั่น ทุกอย่างต่อจากนั้นจะต้องเปลี่ยนไป”
จางเชาถอนใจยาว “น่าเสียดาย น่าเสียดายที่บนโลกใบนี้ไม่มีคำว่าถ้า ลำบากมาค่อนชีวิต กลับมาตกตายในดินแดนแห่งนี้ เสียใจที่ไม่ได้ทำแต่แรก”
หลังจากใช้ไปหนึ่งกระบี่ เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มองจางเชาอีก เขารู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย จึงหันไปมองอีกทางหนึ่ง
ชายหนุ่มเห็นด้านในทางเชื่อมสายหนึ่งของวังศิลา พลันมีแสงไฟพุ่งออกมา
เสียงหงส์ร้องดังขึ้นด้านในวังศิลา ไม่ได้กังวานใสเหมือนเมิ่งหวาน แต่น่าเกรงขามยิ่งกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี