ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 786

หลังจากประกายกระบี่ค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากด้านในฝักกระบี่ กลิ่นอายที่ชั่วร้ายและละโมบก็แผ่พุ่งออกมาทั่วทั้งสี่ทิศ

ภายใต้การครอบคลุมด้วยประกายกระบี่สีดำ ด้ามกระบี่ที่มีลักษณะโบราณด้ามหนึ่งก็โผล่ขึ้นที่บริเวณช่องของฝักกระบี่ที่เปิดออก

กระบี่ที่ตอนแรกมองไปเหมือนกับสร้างจากสำริด สีพลันเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวอย่างรวดเร็ว

คุณสมบัติของมันตอนนี้กลับคล้ายทองสัมฤทธิ์

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยื่นมือข้างหนึ่งออกมากำด้ามกระบี่ทองสัมฤทธิ์ไว้ จากนั้นก็ดึงมันออกมาจากด้านในฝักระบี่

ทันใดนั้น แสงสีดำก็แผ่กระจาย

หลุมขมุกขมัวสีดำขนาดยักษ์ที่เกิดจากประกายกระบี่ พาดขวางอยู่กลางที่ว่าง

กระบี่ปีศาจเทาเที่ย!

ประกายกระบี่สี่ดำขมุกขมัวกระจัดกระจายไปทุกที่ กลืนกินเพลิงโหมหนาหนัก

หลังจากที่กลืนกินเพลิงโหมไปแล้ว มันไม่ได้อ่อนกำลังลง กลับทรงพลังขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

บุรุษหนุ่มที่อยู่ใต้การครอบคลุมของเงาแสงหงส์เพลิงเห็นดังนั้น หางตาก็กระตุก ตั้งฝ่ามือประดุจดาบ ฟันใส่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

เปลวเพลิงลุกโชนรวมตัวกันกลายเป็นประกายดาบหลายสาย ตัดสลับกันกลางอากาศ

ประกายดาบสีแดงเพลิงจับตัวกันหนาเหลือประมาณ ทุกสายเหมือนกับเส้นด้ายอย่างไรอย่างนั้น

ประกายดาบจำนวนนับไม่ถ้วนพันเกี่ยวกัน สานกันเป็นแหฟ้าตาขยายดิน ถี่ยิบจนลมไม่อาจพัดผ่าน ก่อนจะครอบคลุมใส่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกย่อมไม่อยู่เฉย กระตุ้นกระบี่ปีศาจเทาเที่ยเข้าปะทะ

เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านหลังร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก นิ้วชี้และนิ้วกลางตั้งตรงประดุจกระบี่ จิ้มใส่จุดลมปราณใหญ่ที่ด้านหลังของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

จิตกระบี่สังหารเซียนที่เปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุดพลันกลายเป็นท่ากระบี่ที่เหมาะสมกับกระบี่ปีศาจเทาเที่ย เพื่อให้กระบี่ด้ามนี้แสดงอานุภาพได้ง่ายๆ

ประกายแสงสีดำกลายเป็นหลุมขมุกขมัวไร้ขอบเขต ขอบข้างขยายออกไม่หยุด จนดูคล้ายกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด เข้าปะทะกับดาบตาข่ายฟ้าปีกหงส์ของอีกฝ่าย

‘กระบี่ปีศาจเล่มนี้มีคุณสมบัติสูงมาก…’ คนหนุ่มในเปลวเพลิงเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว

พลังของเขาเหนือกว่ายอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกทั่วไป และเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ยังไม่ได้อยู่ในขั้นสะพานเซียน จึงไม่สามารถแสดงอานุภาพทั้งหมดของดาบปีศาจเทาเที่ยออกมาได้

แต่ในสถานการณ์เช่นนี้กลับสามารถป้องกันดาบของเขาได้ อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาอีกครั้ง

ชายหนุ่มแค่นเสียงคำหนึ่ง ยื่นมือออกมาอย่างฉับพลัน

ประกายแสงสีแดงก่ำส่องระยิบระยับ พุ่งมาอยู่ในมือของคนผู้นี้ เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่พกเอาไว้คุ้มกันภัยชิ้นนั้น

ประกายแสงสลายไป เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาอย่างละเอียด กลับพบว่าเป็นคันเกาทัณฑ์ใหญ่คันหนึ่ง

อีกฝ่ายรั้งสายเกาทัณฑ์ เปลวเพลิงลุกโชนจับตัวกันที่ปลายนิ้ว กลายเป็นศรสีแดงเพลิงดอกหนึ่งอย่างรวดเร็ว คมศรเล็งไปที่เยี่ยนจ้าวเกอ

นี่คือเกาทัณฑ์วิเศษที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง

การนำมาคุ้มครองตัวเอง ไม่อาจแสดงอานุภาพของมันได้โดยสมบูรณ์

มาถึงตอนนี้ ถึงจะนับได้ว่าคนผู้นี้ใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นนี้จริงๆ

สายเกาทัณฑ์สั่นสะเทือน ประกายเพลิงสายหนึ่งเจาะทะลุอากาศ พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ สภาวะสะเทือนฟ้าสะท้านดิน!

ประกายเพลิงหลังจากพุ่งออกมาจนไปถึงเป้าหมาย รวดเร็วราวกับไม่มีเวลามาขวางกั้น

ที่ว่างซึ่งอยู่ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับอีกฝ่ายไม่มีร่องรอยการลุกไหม้ จากการเคลื่อนที่ของประกายเพลิงเหลืออยู่เช่นกัน

ศรดอกนี้ เหมือนกับมองข้ามขอบเขตด้านเวลาและมิติ

จนกระทั่งประกายกระบี่สีดำของกระบี่ปีศาจเทาเที่ยกะพริบ ศรเพลิงค่อยปรากฏร่องรอย ถูกหลุมสีดำขมุกขมัวขวางไว้

ทว่าหลุมสีดำขมุกขมัวครั้งนี้ไม่ได้กลืนกินศรเพลิง

แสงสว่างอันละลานตาระเบิดออกมา ศรเพลิงถึงกับเจาะทะลุประกายกระบี่ของกระบี่ปีศาจเทาเที่ย ยังคงพุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอย่างมุ่งมั่น

การกระตุ้นเกาะทัณฑ์วิเศษคันนี้ของอีกฝ่าย แทบจะเป็นการแสดงพลังของมันออกทั้งหมด เมื่อประสานกับพลังอันกล้าแข็งในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนของตัวเขา สองรวมเป็นหนึ่ง ก็ดูน่ากลัวอย่างแท้จริง

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ต้น ตราประทับตะวันพลันหล่นจากฟากฟ้า กระแทกใส่ศรเพลิงดอกนั้น

ศรเพลิงที่เจาะทะลุหลุมสีดำขมุกขมัวจนพลังลดทอนลง พลันถูกตราประทับพรอาทิตย์บดขยี้ มอบดับไป

ในประกายตาของคนหนุ่มผู้นี้ฉายแววดุร้าย รู้สึกเดือดดาลเพราะจัดการเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้

ตอนนี้เขาเอาจริงแล้ว แต่กลับสู้ความร่ำรวยของอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายมีของวิเศษมากกว่า

ดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูพลัง ไม่อาจแสดงความน่าเกรงขามของดาบราหูในอดีตได้

เฟิงอวิ๋นเซิงกระตุ้นพลังทั้งหมดของดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกในตอนนี้ได้แค่ช่วงสั้นๆ

ในขณะที่กำลังสู้กับเมิ่งหวาน นางไม่ได้ใช้วิธีการที่อันตรายถึงขีดสุดเช่นนี้

แต่ว่าหลังจากการต่อสู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แสงอาทิตย์ยะเยือกที่อยู่ในดวงตาทั้งสองข้างของเฟิงอวิ๋นเซิงก็ยิ่งมายิ่งโชติช่วง ประกายดาบของดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกยิ่งมายิ่งส่องสว่าง

ควันมารเพลิงทมิฬที่น่าพรั่นพรึงมีพลังเพิ่มขึ้นตาม ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง

สู้มาถึงตอนท้าย เฟิงอวิ๋นเซิงก็พลิกสถานการณ์ เริ่มเปลี่ยนจากตั้งรับเป็นจู่โจม ชิงความได้เปรียบมาได้

การต่อสู้ของหงส์และมังกรในการทดสอบแห่งจันทราเมื่อครั้งอดีตปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้หงส์เพลิงกลายเป็นฝ่ายหลบหลีก ส่วนมังกรส่งเสียงคำรามไปถึงสวรรค์!

แสงสว่างของอาทิตย์ยะเยือกและควันมารเพลิงทมิฬเกี่ยวกระหวัด กดอัดแสงจันทร์กระจ่าง

เฟิงอวิ๋นเซิงยอมแบกรับอาการบาดเจ็บเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน แยกเมิ่งหวานกับมงกุฎจันทราออกจากกัน

นางสูดหายใจลึก มือขวากำดาบ มือซ้ายยื่นเข้าไปในแสงสว่างของมงกุฎจันทราเหมือนกับมังกรคว้ากรงเล็บ

เมิ่งหวานฝืนสะกดอาการบาดเจ็บของตัวเอง ยังคงไม่ยอมละทิ้งมงกุฎจันทรา

ทว่าแสงสว่างสีฟ้าปนดำบนดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกกะพริบครั้งหนึ่ง ขวางนางไว้ด้านนอก

แสงของอาทิตย์ยะเยือกสีฟ้าในดวงตาของเฟิงอวิ๋นเซิงสลายไป จุดลมปราณทั่วร่างสั่นไหวพร้อมกัน แสงจันทร์กระจ่างหลายสายพรั่งพรู เป็นร่างแห่งจันทราที่บริสุทธิ์ที่สุดเหมือนกับเมิ่งหวาน

ด้านหน้าเหมือนกับปรากฎบันไดไร้รูปร่าง ให้นางก้าวขึ้นไป

สู้กันมาถึงตอนนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงก็ใกล้เป็นตะเกียงไฟที่มอดดับเช่นกัน ไม่อาจต่อสู้ได้อีก

ความรู้สึกอิดโรยจากการกระตุ้นดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกรุมล้อมนาง ทำให้นางอ่อนแรงถึงขีดสุด

แต่ว่าสายตาของเฟิงอวิ๋นเซิงยังจับจ้องอยู่ที่มงกุฎจันทรา พลางยืดกายขึ้นสาวเท้าขึ้นด้านบน

มังกรแสงทะยานบนฟ้า คว้าจันทร์กระจ่างนั้นมาไว้ในอ้อมอก

“ในที่สุด…” เมิ่งหวานถอนใจคำหนึ่ง ถังหย่งฮ่าวมีสีหน้าซับซ้อน ทอดถอนใจ

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นมังกรแสงทะยานฟ้าคว้าจันทรา บนใบหน้าผุดรอยยิ้ม “ในที่สุด…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี