บทที่ 791 ไม่ใช่มังกรดุย่อมไม่กล้าข้ามแม่น้ำ ไม่ใช่มังกรดุย่อมไม่กล้าทะยานขึ้นฟ้า
เหล่าผู้อาวุโสของหอกระบี่ทะเลเหนือและเกาะมนุษย์สำริดที่มีกู้หงและกงซุนอู่เป็นผู้นำ ซึ่งตอนนี้รอดจากอันตรายแล้ว ต่างงงงันเช่นกัน
ถ้าหากคนที่พูดไม่ใช่มู่จวินซึ่งเป็นลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์ และอยู่ในขั้นสะพานเซียน คนที่อยู่รอบๆ จะต้องโกลาหลอย่างแน่นอน
ตอนนี้ทุกคนต่างพูดกันไม่ออก ได้แต่มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างนิ่งอึ้ง
ในห้วงสมองของคนทุกคนมีแค่ความคิดเดียว ‘ทำได้อย่างไรกัน?’
สภาพในตอนนั้นของเสวียนมู่อ๋องคงจะถอยก็ไม่ได้ จะบุกก็ลำบาก ได้แต่กุมพระเศียรรับการทุบตีเหมือนพวกหลัวจื้อเทาและคังผิงกระมัง?
กู้หงรู้สึหวั่นใจ คิดถึงเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้สภาพแวดล้อมพิเศษของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ทำให้หลัวจื้อเทากับคังฮูหยินพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถตอนอยู่ในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนดินแดนหลวนเซียง
กลับได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยว่า “เสวียนมู่อ๋องลงไปยังโลกแปดพิภพด้วยตัวเอง กลับทิ้งหอกราชาลี้ลับไว้บนโลกซ้อนโลก ข้าจึงชิงของวิเศษชิ้นนี้มา”
“ต่อมาเสวียนมู่อ๋องกลับมา บิดาข้ากลับลอยมายังโลกซ้อนโลกพอดี สุดท้ายบิดาข้าจึงสังหารเสวียนมู่อ๋องทิ้ง”
พวกกู้หงกับกงซุนอู่ต่างพยักหน้า ‘ที่แท้เป็นเช่นนี้’
เสวียนมู่อ๋องไม่มีหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ เยี่ยนจ้าวเกอกลับมีตราประทับตะวันอยู่กับตัว ดูจากความสามารถอันน่าทึ่งที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส…
รอประเดี๋ยว เหมือนจะมีตรงไหนสักที่ไม่ถูกต้อง?
มีบางคนเบิกตาค้าง “บิดาของท่านลอยมายังโลกซ้อนโลกได้พอดี จากนั้นก็สังหารเสวียนมู่อ๋องหรือ?”
“ลอยขึ้นมาได้พอดี หมายความว่าเขาเพิ่งจะหลอมจุดลมปราณเป็นเทวะสำเร็จน่ะสิ?”
คนอื่นๆ รู้สึกตัว มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างมึนงง
เช่นนั้นก็หมายความว่า คนที่เพิ่งเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดง สังหารเสวียนมู่อ๋องที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายไม่ใช่หรือ?
ต่อให้เสวียนมู่อ๋องจะไม่มีหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ แต่ก็น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ทุกคนต่างสะดุ้งโหยง เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเป็นปกติ พยักหน้าอย่างเรียบเฉย “ถูกต้อง ท่านพ่อเพิ่งลอยขึ้นมา ทำลายนภาเห็นเทวะสำแดงได้ไม่นาน”
ทุกคนมองหน้ากัน พูดอะไรไม่ออก
หลินฮั่นหัวกับมู่จวินสบตากันแวบหนึ่ง คิดถึงความตกตะลึงที่ขจัดออกไปไม่ได้ในตอนที่ตนเพิ่งได้ยินเฉินจื้อเหลียงบอกเล่าเรื่องนี้เช่นกัน
โดยเฉพาะเฉินจื้อเหลียงยังเล่าว่า นั่นเป็นคนที่พลังแห่งเขตแดนของโลกเบื้องล่างไม่อาจรองรับได้อีก ในตอนที่ยังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามด้วย
อัจฉริยะเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนระดับของหลินฮั่นหัวและมู่จวินก็ยังรู้สึกชมเชย
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกชื่นชมยิ่งกว่าก็คือ คนเช่นนี้ตอนนี้ตรงหน้าก็ยังมีอีกหนึ่งคน
แม้จะยังไม่ได้ทดลอง แต่หลินฮั่นหัวกับมู่จวินก็สงสัยอยู่ลึกๆ ว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า เหนือกว่าบิดาของเขาเอง
เยี่ยนจ้าวเกอที่ตอนนี้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ขั้นรวมรูประยะกลาง หากลงไปยังโลกเบื้องล่างอีกครั้ง เกรงว่าจะบรรจุเขาไม่ได้อีกแล้ว
พลังพรสวรรค์เช่นนี้กำเนิดขึ้นในโลกเบื้องล่างพร้อมกันสองคน ทั้งยังเป็นบิดาบุตร แม้แต่หลินฮั่นหัวกับมู่จวินก็ยังรู้สึกสั่นสะท้าน
พวกเขาในฐานะลูกศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของประมุขอาคเนย์ เดิมทีก็มีพรสวรรค์เป็นเลิศในความเป็นเลิศอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกชมเชยอยู่ดี
มู่จวินแม้ในใจจะวิจารณ์ว่า เขากว่างเฉิงบนโลกแปดพิภพไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสักคน แต่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงไม่ต่ำกว่าหนึ่งชิ้น แต่ก็เป็นแค่การวิจารณ์เท่านั้น
เขาในตอนนี้รู้สึกสนใจสำนักในโลกเบื้องล่างสำนักนี้อย่างแท้จริง
กู้หงกับกงซุนอู่มองเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ในใจมีแค่ความคิดหนึ่ง
ไม่ใช่มังกรดุย่อมไม่กล้าข้ามแม่น้ำ บางทีควรบอกว่า ไม่ใช่มังกรดุย่อมไม่กล้าทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า
ความรู้สึกของกงซุนอูล้ำลึกกว่าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี