หลังจากพวกกู้หงกับกงซุนอู่จากไปแล้ว หลินฮั่นหัวกับมู่จวินก็มองน่านน้ำของดินแดนสุทธทัศน์ด้านล่างแวบหนึ่ง กำลังจะเตรียมตัวจากไปเช่นกัน
จวงเจาฮุยถึงแม้จะหนีไปได้ ทว่าเขตเพลิงทักษิณยังมียอดฝีมือระดับสุดยอดอยู่ใกล้ๆ หลังจากพบกับจวงเจาฮุยแล้ว อาจจะรวมกลุ่มกันใหม่ก็ได้
พวกหลินฮั่นหัวจำเป็นต้องเตรียมรับมือ ส่วนถังหย่งฮ่าวที่ครอบครองกระดูกหงส์เพลิง สมควรส่งไปยังเขาโถงทองค่อนข้างเหมาะสมกว่า
พวกเขาเชิญเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกไปยังเขาโถงทองด้วยกัน
เมื่อพิจารณาว่าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกับสำนักแสงสว่างไม่อาจก่อความวุ่นวายได้อีก สถานการณ์ของทะเลหวงเจียสุดท้ายก็ค่อนข้างน่าดู เยี่ยนจ้าวเกอจึงคิดจะไปยังเขาโถงทอง เพื่อพบกับประมุขอาคเนย์ เจ้าชีวิตแห่งเขตตะวันอาคเนย์
ถึงอย่างไรต่อจากนี้เขากว่างเฉิงของตนก็คิดจะลงหลักปักฐานบนโลกซ้อนโลก
ส่วนปัญหาของจวงเจาฮุยและเขตเพลิงทักษิณ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่พวกหลินฮั่นหัวควรกังวลมากกว่า
หลังจากบอกลาหลินฮั่นหัวและมู่จวินเสร็จ พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ผละจากน่านน้ำบนดินแดนสุทธทัศน์ ตัดผ่านดินแดนภูผาสงัด มุ่งหน้ากับมายังดินแดนจิตคุณธรรม
ขณะเดินทาง ทุกคนล้วนอยู่ในวังฝูงมังกร เยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังเฟิงอวิ๋นเซิง
ในที่สุดนางก็ได้มงกุฎจันทรามาครองสมดั่งหวัง แม้ว่าจะไม่ใช่ความยึดมั่นอีกแล้ว แต่ในที่สุดเฟิงอวิ๋นเซิงก็จัดการเรื่องค้างคาใจสำเร็จ
แต่ว่าสีหน้าของนางในตอนนี้กลับไม่ผ่อนคลาย
การพาตัวเมิ่งหวานไปอย่างเหนือความคาดหมายของจวงเจาฮุย ทำให้เฟิงอวิ๋นเซิงรู้สึกกังวลยิ่ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงก็ยิ้มเล็กน้อย กล่าวพลางส่ายหน้าว่า “ข้าไม่เป็นไร”
ตนถึงแม้ว่าจะผูกพันธ์กับเมิ่งหวาน แต่จวงเจาฮุยมาช้าไป ภาพที่เห็นสมควรเป็นภาพที่นางกับเมิ่งหวานต่อสู้เพื่อชิงมงกุฎจันทรา ในลักษณะตัดสินเป็นตาย
ต่อให้จวงเจาฮุยคิดจับคนเพื่อแก้แค้นเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ควรคิดหาวิธีจับจางนางเฟิงอวิ๋นเซิง ไม่ใช่เมิ่งหวาน
นอกจากนี้ระหว่างตนกับเมิ่งหวานเพราะสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ถูกเขากว่างเฉิงทำลาย ความสัมพันธ์จึงผูกกันซับซ้อน ต่อให้จะสนิทเหมือนดั่งวันวาน นั่นก็เป็นแค่ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเมิ่งหวานเท่านั้น
พูดถึงท้ายที่สุด เยี่ยนจ้าวเกอกับเมิ่งหวานไม่ได้มีมิตรภาพอะไรให้พูดถึงเท่าไรนัก
จวงเจาฮุยถ้าหากว่าจับเมิ่งหวานไปเพราะเกิดข้อขัดแย้งกับเยี่ยนจ้าวเกอ อย่างมากสุดก็สามารถลองเค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเยี่ยนจ้าวเกอจากปากของเมิ่งหวานได้มากกว่าเดิม
ทว่าจวงเจาฮุยที่มาจากเขตเพลิงทักษิณ สมควรไม่ทราบถึงสถานการณ์ของเมิ่งหวาน ไม่รู้ว่านางกับเยี่ยนจ้าวเกอมาจากโลกแปดพิภพเหมือนกัน
ดังนั้นทุกอย่างนี้จึงยังบอกไม่ได้
คำอธิบายหนึ่งเดียวก็คือ ที่เขาพาเมิ่งหวานไปเพราะสาเหตุจากตัวเมิ่งหวานเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับเยี่ยนจ้าวเกอและนางเฟิงอวิ๋นเซิง
หลังจากความหวั่นวิตกในตอนแรกหายไป เฟิงอวิ๋นเซิงก็ใจเย็นลง ค่อยๆ เริ่มเข้าใจเหตุผลที่อยู่ด้านใน
น่าจะไม่ใช่เพราะจันทรากาย ถึงอย่างไรมงกุฎจันทราก็ไม่ได้อยู่กับเมิ่งหวานแล้ว
ดังนั้นน่าจะเป็นสาเหตุอื่น
เพียงแต่เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ทราบว่าหลังจากเมิ่งหวานถูกจวงเจาฮุยพาตัวไปแล้ว จะได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีหรือไม่
แม้จะไม่ถูกหลอมร่างเอากระดูกเหมือนถังหย่งฮ่าว แต่ก็ยากจะคาดคะเน
นี่ทำให้เฟิงอวิ๋นเซิงไม่อาจไม่กังวล
เพราะไม่ว่านางจะใคร่ครวญอย่างไร ก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดจวงเจาฮุยจึงต้องพาเมิ่งหวานไป
หลังจากเมิ่งหวานมายังโลกซ้อนโลก ก็ถูกสำนักแสงสว่างจัดให้อยู่ที่ผาตะวันจันทรามาโดยตลอด ไม่เคยออกไปด้านนอก แม้แต่ลูกศิษย์ของสำนักแสงสว่างก็เคยเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง
ปัจจุบันก่อนที่จะเจอกัน จวงเจาฮุยเกรงว่ายังไม่รู้ถึงการคงอยู่ของตัวเมิ่งหวานด้วยซ้ำ
เยี่ยนจ้าวเกอมองมา เฟิงอวิ๋นเซิงขบคิดเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
สำหรับถังหย่งฮ่าวและเมิ่งหวาน เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีความคิดฆ่าทิ้งให้หมดจริงๆ ในทางตรงกันข้าม เขารู้สึกชื่นชมสองคนนี้มาก
แต่ว่าทุกอย่างนี้มีเงื่อนไขก่อนหน้า ซึ่งก็คือพวกเขาไม่เคยเป็นศัตรูกับเขากว่างเฉิงจริงๆ
ถึงแม้ว่าการถือครองมงกุฎจันทราของเมิ่งหวานเมื่อครั้งยังอยู่ในโลกแปดพิภพ จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ ก่อเกิดเป็นการคุกคาม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นำมงกุฎจันทรามาสู้กับจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี