เยี่ยนจ้าวเกอมองเซียวเซิงครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก
“มาเร็วกว่าที่คิดไว้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ปัญหาของอาณาจักรตะวันออก…”
ชายหนุ่มหรี่ตาลงครั้งหนึ่ง “เหยียนซวี่…”
เหล่ายอดฝีมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีจำนวนมาก ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเองก็ต้องคอยช่วยเหลือจ้าวซื่อเฉิงประคองค่ายกลเอาไว้ จึงตะโกนเรียกออกมาเสียงดังว่า “ท่านผู้อาวุโสสวีขอรับ!”
“ข้าเข้าใจ” กับเรื่องสำคัญตรงหน้า สวีซวนไม่มีความสนุกขี้เล่นที่เป็นนิสัยส่วนตัวอยู่เลย
เขานิ่งสงบและนำบรรดาบริวารจอมยุทธ์เขากว่างเฉิง เข้าประจันหน้ากับจอมยุทธ์สุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามารุกรานทันที
จอมยุทธ์ถังตะวันออกที่เดินทางมากับเยี่ยนจ้าวเกอและจ้าวซื่อเฉิง ก็เดินขึ้นหน้าด้วยกัน ออกไปรับศึกศัตรูที่บุกรุกมา
ยอดฝีมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่บุกมา เต็มไปด้วยยอดฝีมือจำนวนไม่น้อย
เนื่องด้วยศิลาลายเมฆสามารถสร้างแก่นสารหยกได้ แม้ว่าเขากว่างเฉิงจะไม่ได้ป่าวประกาศออกไป เพื่อปกปิดเอาไว้ไม่ให้เป็นที่สนใจ หุบเขาวายุวิญญาณถึงภายนอกจะดูหละหลวม แต่ภายในค่อนข้างเข้มงวด คอยเพิ่มพลังการป้องกันขึ้นอย่างลับๆ
หากไม่เป็นเช่นนี้ เกรงว่าบัดนี้คงจะถูกสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ตีแตกไปในพริบตาแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์แห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากลงมือพร้อมๆ กัน ก็ทำให้แรงกดดันของเขาหุบเขาวายุวิญญาณเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
สวีชวนและยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาแห่งถังตะวันออก ออกไปต้านศัตรูร่วมกัน ก็ดักรั้งคู่ต่อสู้ทั้งหมดไว้ด้านนอก
สถานการณ์ในการสู้รบของทั้งสองฝ่าย เข้าสู่สภาวะแน่นิ่งอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
มหาปรมาจารย์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นที่ถูกสกัดกั้นเอาไว้บริเวณด้านนอกหุบเขา โหมโจมตีประหนึ่งคลื่นน้ำซัด มุ่งโจมตีไปยังหุบเขาวายุวิญญาณและจ้าวซื่อเฉิงไม่หยุด
สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอและจ้าวซื่อเฉิงล้วนเคร่งเครียดขึ้นมา
เนื่องด้วยต้องรับมือกับการโจมตีเบื้องหน้านี้ ทำให้การช่วงชิงของฝ่ายตนกับทางฝั่งเมืองชมตะวันเสียเปรียบอีกครั้ง
สนามรบสองสนามเปิดศึกขึ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้ความกดดันของจ้าวซื่อเฉิงเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ค่ายกลย้อนกลับยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ จ้าวซื่อเลี่ย จิ่นอ๋องที่อยู่ที่เมืองชมตะวันก็ปล่อยพลังออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ทำให้อำนาจค่ายกลชมตะวันเริ่มค่อยๆ หลุดไปอยู่ในมือของเขา
ภายใต้สถานการณ์ที่ถาโถมเข้ามา ทางหุบเขาวายุวิญญาณตรงนี้ พลังของค่ายกลที่ถูกจ้าวซื่อเฉิงดึงมารวบรวมไว้ ก็เริ่มแสดงเค้าลางว่าจะมีพลังที่เหลือไม่เพียงพอขึ้นมา
มหาปรมาจารย์ฝ่ายศัตรูที่กำลังประมือกันอยู่ สัมผัสถึงจุดนี้ได้ดีที่สุด
เขาตะโกนเสียงดังว่า “จ้าวซื่อเฉิง เจ้าตัดสินทางเดินของเจ้าเอง เลือกที่จะเป็นศัตรูกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นนี่ก็คือจุดจบของเจ้า!”
“เจ้าช่างเขลานัก แยกไม่ออกว่าใครคือมหาอำนาจของใต้หล้า เขากว่างเฉิงเป็นแค่แสงริบหรี่ยามพลบค่ำไปตั้งนานแล้ว สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ต่างหากที่เป็นพระอาทิตย์ที่ฉายแสงอยู่เหนือน่านฟ้าในตอนนี้!”
“จ้าวซื่อเฉิง น้องชายของเจ้าช่างปราดเปรื่องกว่าเจ้านัก คิดเผื่อถังตะวันออก ตำแหน่งราชาให้เขาไปเสียยังจะดีกว่า!”
ขณะที่พูด มือทั้งสองของเขาก็ประสานเข้าด้วยกัน แล้วผลักออกไปข้างหน้าพร้อมกัน
หนึ่งในเจ็ดวิชาสุริยัน หัตถ์เทพกลางเวหา!
ตะวันลอยสูง ดั่งดวงอาทิตย์ยามเที่ยงตรง!
เขาฝืนบุกฝืนสู้ อาศัยพลังที่มีมากกว่า แสดงพลังที่แท้จริงทั้งหมดของวรยุทธ์อันโหดร้ายและดุเดือดแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ออกมา!
ใช้อำนาจกดขี่คน และใช้กำลังรังแกคน
จอมยุทธ์ที่มีวรยุทธ์ความสามารถยิ่งสูง ก็จะยิ่งสามารถสำแดงพลังของวรยุทธ์สายนี้ออกมาได้
วิชาหัตถ์เทพกลางเวหาที่มหาปรมาจารย์ผู้นี้ใช้อยู่ เมื่อเทียบกับเฉาหยวนหลงที่อยู่เพียงระดับปรมาจารย์แล้ว มันมีความรุนแรงและรวดเร็วกว่ามาก
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ล้วนรู้สึกได้เพียงว่าเบื้องหน้าเต็มไปด้วยแสงสีทองเจิดจ้า ร้อนจนแทบคลั่ง
จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์กลุ่มหนึ่ง รู้สึกเพียงว่าปราณจิตราภายในร่างกายของตน ราวกับถูกฝ่ามือนี้จุดให้เพลิงลุกโชนเผาไหม้ขึ้นมา!
ท่าทางของจ้าวซื่อเฉิงหนักแน่น ทว่าสีหน้าหม่นหมองอยู่บ้าง
ปราณเขียวและปราณแดงได้ปรากฏสลับกันไปมาบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
ปราณพิษที่อยู่ภายในร่างกายของจ้าวซื่อเฉิงยังไม่ได้ถูกขจัดออกไปจนหมดสิ้น คอยก่อกวนอยู่เรื่อยมา
บัดนี้ต้องประมือกับผู้อื่น ภายใต้ความกดดัน แนวโน้มการก่อความวุ่นวายก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง แล้วโจมตีด้วยหมัดหนึ่งออกไปอีกครั้ง ชุดเกราะเกล็ดมังกรทองบนร่างกายพลันส่องสว่างขึ้น และมีเสียงมังกรคำรามออกมา
มหาปรมาจารย์ของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คนนั้นถอนหายใจครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีแสงสีม่วงมองส่องสว่างบนแขนซ้าย
นั่นเป็นเกราะข้อมือที่ทำจากทองบริสุทธิ์ทั้งชิ้น ผลึกศิลาแก้วเก้าเม็ดกำลังเปล่งแสง ปล่อยพลังพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า
ชัดเจนว่าเป็นอาวุธวิญญาณชิ้นหนึ่ง!
ทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าหากัน ร่างกายของทั้งจ้าวซื่อเฉิงและศัตรูต่างก็สั่นสะเทือนไปพร้อมๆ กัน
ค่ายกลสั่นไหวอีกครั้ง จ้าวซื่อเลี่ยที่อยู่ทางฝั่งเมืองชมตะวันได้เปรียบมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี