ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 81

เยี่ยนจ้าวเกอมองไปที่มหาปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังรุกเข้าใกล้มาทีละก้าว

ทันใดนั้น พลันมีเสียงคำรามสนั่นสายหนึ่งดังมาแต่ไกล และค่อยๆ เข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง

ปราณจิตรารอบกายอาหู่โหมซัดสาดประหนึ่งพายุหมุนทมิฬ ขวางกั้นอยู่เบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ

“คุณชาย ข้ากลับมาแล้วขอรับ!” ขณะที่อาหู่กล่าว เขาก็ปลดกระเป๋าขนาดใหญ่โยนลงไปตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ

จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ถึงตรงหน้าจอมยุทธ์ของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คนนั้น

อาหู่ไม่พูดพร่ำ เขาวาดกรงเล็บสลับกันไปมา พายุหมุนสีดำอันบ้าคลั่งก็โหมพัดกระหน่ำไปทั่วทั้งผืนฟ้าหน้าดิน

จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คนนั้นตะโกนออกไปด้วยความโกรธครั้งหนึ่ง ก่อนจะแปรปราณจิตรากลายเป็นโลกมายา พระอาทิตย์ดวงใหญ่ส่องสว่างเจิดจ้า

แสงอาทิตย์สีทองกับมรสุมพายุสีดำปะทะเข้าหาในชั่วพริบตา

อาหู่แสยะยิ้มอย่างดุร้าย ก่อนจะเคลื่อนร่างสูงใหญ่ราวกับเงามายาไปมาไม่ยอมหยุด ทั้งยังส่งเสียงแหลมสูงอีกด้วย

เสือดำดุร้ายตัวหนึ่งกระโดดออกจากพายุหมุน พุ่งเข้าหาเหยื่อแล้วกัดกิน!

ร่างกายของอาหู่หมอบต่ำลง จากนั้นก็กระโดดพรวดขึ้น ฉีกดวงอาทิตย์สีทองนั้นขาดกระจุย แล้วกรงเล็บทั้งสองก็ข่วนไปตรงลำคอและหน้าอกของคู่ต่อสู้!

บริเวณที่กรงเล็บภูตพยัคฆ์พาดผ่าน ห้วงอากาศก็ขาดกระจุยราวกับเศษผ้าอย่างไรอย่างนั้น!

พายุหมุนสีดำกลายร่างเป็นเสือร้ายตัวหนึ่ง อ้าปากที่อาบไปด้วยคราบโลหิต เตรียมจะกลืนกันศัตรูที่อยู่ตรงหน้า!

สีหน้าปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาที่ขับเคลื่อนกระบี่เพลิงหลั่งไหลผู้นั้นดูเคร่งขรึมจริงจัง เขาละจากกงจักรเพลิงสุริยะลงก่อนชั่วคราว แล้วบังคับกระบี่เพลิงหลั่งไหลให้ฟันไปทางอาหู่

บนร่างกายของอาหู่เกิดแสงสว่างไสวขึ้น ชุดเกราะส่องแสงสีดำชุดหนึ่งปรากฏขึ้น ต้านรับการโจมตีของกระบี่เพลิงหลั่งไหลเอาไว้

เขาแผดเสียงคำรามทีหนึ่ง ก่อนจะยกกรงเล็บข้างหนึ่งขึ้น ต้านเพลงกระบี่อรุณเบิกฟ้าของคู่ต่อสู้ทันที

ศัตรูคนแรกที่ประมือกับเขา ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รีบเร่งใช้วิชาสุริยันทะยานบูรพาถอยหลังออกไป!

กระบี่เพลิงหลั่งไหลไม่ยอมถอยให้กับชุดเกราะทมิฬของอาหู่ ปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเปล่งเสียงดังสนั่นออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็เกิดปราณจิตราสะท้านเวหา โลกมายาปกคลุมไปทั่วสี่ทิศ

มีคำพูดกล่าวเอาไว้ว่าบนท้องฟ้าไม่สามารถมีดวงตะวันสองดวงได้ ทว่าบัดนี้ตรงหน้าของอาหู่กลับมีพระอาทิตย์สองดวงปรากฏขึ้น!

พระอาทิตย์ดวงหนึ่งเสมือนกับตะวันยามเที่ยงตรง ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะ ส่วนพระอาทิตย์อีกดวงหนึ่งเสมือนกับตะวันยามรุ่งอรุณ แย้มแสงจางๆ!

อาหู่มีท่าทางดีอกดีใจ ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ปราณจิตราทั่วทั้งร่างกายของเขาปะทุออก ก่อนจะพุ่งตัวพรวดประหนึ่งกับเสือกระโจน

มังกรคู่เมฆ พยัคฆ์คู่ลม!

ขณะที่เขาเปล่งเสียงคำราม พายุหมุนสีดำก็พัดหมุนขึ้นทั่วฟ้า กวาดหินดินทราย น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!

เยี่ยนจ้าวเกอรับเอาสัมภาระที่อาหู่โยนมาให้ หยิบเอาของล้ำค่าหลากหลายที่อยู่ภายในออกมาอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มพลัยยกมือข้างหนึ่งขึ้น สิ่งของมากมายก็ลอยไปตกในค่ายกลย้อนกลับ

เขางอนิ้วแล้วดีดต่อเนื่องกัน อักขระจิตแต่ละแถวในค่ายกลก็ยิ่งส่องแสงเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น ทุกๆ จุดเชื่อมบรรจบกันจนเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว

คนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็รู้ดีถึงความอัศจรรย์ของค่ายกลย้อนกลับเช่นกัน ทว่าคิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะสามารถสร้างค่ายกลย้อนกลับได้รวดเร็วเช่นนี้

มหาปรมาจารย์คนนั้นคิดอยากจะโจมตีเขตป้องกันของจ้าวซื่อเฉิงให้แตกกระจายมาโดยตลอด จึงทำลายค่ายกลย้อนกลับก่อน ทว่าก็ถูกอีกฝ่ายสกัดกั้นเอาไว้ไม่ปล่อย ทำให้ยากที่จะทำสำเร็จได้

บัดนี้ค่ายกลย้อนกลับวางรากฐานได้อย่างมั่นคงสมบูรณ์ ภายในใจของเขาก็พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นทันที

“เฮอะ!”

เยี่ยนจ้าวเกอกู่ร้องเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะสะบัดมือ กระบี่วิญญาณมังกรมรกตก็ลอยขึ้นกลางอากาศ

ค่ายกลย้อนกลับในหุบเขาวายุวิญญาณเสร็จสมบูรณ์แล้ว มันเริ่มทำงานเสียงที่ดังสนั่น ก่อนจะเคลื่อนตัวลงไปรวมเข้าเป็นวงเดียวกันกับค่ายกลที่จ้าวซื่อเฉิงชักนำมา!

บนอักขระวิญญาณของค่ายกลก็พลันปรากฏแสงสีแดงที่ทั้งประหลาดและรุนแรงขึ้น!

เมื่อแสงสีแดงผ่านพ้นไป จ้าวซื่อเลี่ยที่ชักจูงพลังของค่ายกลอยู่ภายในพระราชวังภายของเมืองชมตะวัน ก็พลันรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย ก่อนจะมีโลหิตสดๆ พุ่งทะลักออกจากปาก!

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ท่านลุง ตอนนี้แหละ!”

จ้าวซื่อเฉิงไม่พูดพร่ำทำเพลง ยืนอยู่กลางค่ายกล แล้วตั้งท่าวางหมัดขึ้น

ในขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอมองไป เขาเห็นแสงจางๆ เคลื่อนไหวอยู่เหนือศีรษะของจ้าวซื่อเฉิง พอจะมองเห็นเป็นต้นไม้วิเศษต้นหนึ่งสูงตระหง่านระฟ้าแผ่ขยายกิ่งก้านรับลม

พลังของเกราะมังกรเกล็ดมังกรทองได้ถูกปลุกขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อจ้าวซื่อเฉิงปล่อยหมัดหนึ่งโจมตีออกไป พลังของค่ายกลก็พลันเพิ่มพูนขึ้นทันที

มหาปรมาจารย์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่เดิมทีเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่นั้น รู้สึกตกใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนพ่ายแพ้และต้องถอยกลับในพริบตาเช่นนี้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี