ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 836

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสองมือกลายเป็นกรงเล็บ ฉีกกระชากรัศมีแสงคุ้มกันกายที่เกิดจากญาณจริงแท้ของบรรพชิตหนุ่มรูปนั้น

บรรพชิตหนุ่มหลังจากตกตะลึงเสร็จ ก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว

ท่านยกสองมือขึ้นด้านบนพร้อมกัน สิบนิ้วกางออก เหมือนกับดอกบัวเบ่งบาน

รัศมีแสงกลายเป็นดอกบัว จากนั้นก็พุ่งใส่ศีรษะของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก!

รัศมีแสงคุ้มกันกายของบรรพชิตรูปนี้สามารถต้านทางการโจมตีของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ไม่ให้ถูกจู่โจมโดยทันที หมายความว่าเขาเองก็มีพลังอยู่ใกล้เคียงกับระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกเช่นกัน

จอมยุทธ์ศาสนาพุทธที่มีพลังฝึกปรือถึงขนาดนี้ ยังไม่พูดถึงว่านิสัยเป็นอย่างไร ยังไม่พูดถึงว่าพรสวรรค์และสติปัญญาเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็มีความแน่วแน่เป็นพิเศษ

แม้จะตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันและพลังอันแข็งแกร่งของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก และต้องเผชิญกับห้วงความเป็นความตาย ทว่าในชั่วพริบตาบรรพชิตรูปนี้ก็ยังคงตอบสนองอย่างเหมาะสมที่สุด

ความเร็วของเขาสู้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ได้ คิดจะรักษาระยะห่างจึงเป็นความคิดไร้สาระโดยสิ้นเชิง

รัศมีแสงคุ้มกันไม่อาจคงการป้องกันภายใต้การโจมตีจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้นาน

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ใช้โจมตีรับโจมตี กดดันให้คู่ต่อสู้เก็บกระบวนท่า ไม่เช่นนั้นจะต้องบาดเจ็บทั้งคู่!

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกทำลายรัศมีแสงของเขาเสร็จ ร่างกายก็หยุดชะงัก ในพริบตานี้ความได้เปรียบด้านความเร็วได้หายไปแล้ว

ตอนนี้เป็นโอกาสหนึ่งเดียวที่บรรพชิตหนุ่มรูปนี้จะลงมือแล้ว ไม่คว้าไว้ไม่ได้

บัวทองเศียรพระพุทธที่แหวกลมมาถึง นำมาซึ่งแรงกดดันอันหนาหนัก พุ่งใส่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกดุจภูเขาถล่ม

อานุภาพนั้นน่ากลัวและหนักแน่นยิ่งกว่าการร่วงหล่นของช้างเผือกขนาดมหึมา ที่เหมือนกับภูเขาซึ่งลอยขึ้นไปกลางอากาศแล้วกระทืบสี่เท้าลงมาเสียอีก!

ที่ว่างเหนือศีรษะของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถึงกับบิดเบี้ยวแหลกสลาย พังพินาศอย่างต่อเนื่อง

มันเงยหน้ามองบัวทองแวบหนึ่ง ขณะที่หัวเราะเสียงเย็นชา มันชักมือซ้ายกลับ จากนั้นก็พลิกตัวกลางอากาศ ราวกับมังกรออกทะเล พุ่งสู่สวรรค์

เงามังกรและบัวทองปะทะกัน เงามังกรแหลกสลาย บัวทองเองก็ถูกทำลายเช่นกัน

มือขวาของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเปลี่ยนจากกรงเล็บเป็นหมัดอีกครั้ง แทงใส่หัวใจของอีกฝ่ายราวกับคมหอกของหอกยักษ์อย่างต่อเนื่อง

บรรพชิตหนุ่มสองฝ่ามือต้านทานมือซ้ายของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ไม่อาจตบลงได้อีก

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนกลับกลาย สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จีวรบนร่างเปล่งแสง กอปรกันเป็นฉากกำบังสุดท้ายบนร่าง ช่วยป้องกันหมัดนี้ของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกให้กับเขา

แสงสีทองพลันไหวเอียง ราวกับไฟตะเกียงส่ายวูบกลางพายุฝน

ถ้าหากไม่ใช่เพราะอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางของศาสนาพุทธชิ้นนี้ป้องกันแทนเขาได้ทันเวลา การโจมตีโดยใช้หมัดต่างหอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอาจจะเจาะทะลุทรวงอกของเขาไปแล้ว

บรรพชิตหนุ่มรับหมัดของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ฉวยโอกาสถอยไปด้านหลัง

ทว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลับก้าวเท้าติดต่อกัน ติดตามเข้าไป จากนั้นก็ต่อยใส่อีกหมัด

บรรพชิตหนุ่มได้แต่ถอยแล้วถอยอีก ชักสองมือกลับมาป้องกันอย่างทุลักทุเล

ในตอนนี้เขาคิดจะโต้ตอบ ทว่าไร้กำลัง

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกออกหมัดติดต่อกัน ต่อยจนอีกฝ่ายไม่มีปัญญาป้องกัน ร่างกายวูบไหว พลันโผล่ขึ้นด้านหลังบรรพชิตหนุ่ม

มันผลักสองมือออกพร้อมกัน จับจุดลมปราณสำคัญกลางหลังของบรรพชิตรูปนั้นไว้

ใจกลางฝ่ามือสองข้างราวกับปรากฏหลุมดำ ดูดร่างของอีกฝ่ายไว้แน่น ดูดกลืนพลังของอีกฝ่าย

บรรพชิตหนุ่มกลางหลังรู้สึกชาด้าน พลันรู้สึกร่างกายค่อยๆ ไร้เรี่ยวแรง ญาณจริงแท้เหมือนกับหายไปอย่างต่อเนื่อง

เขาตกใจแต่ไม่สับสน “รัศมีแสงเป็นสิ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานให้ การสูญเสียไปถือว่าเป็นเรื่องอัปมงคล แต่รัศมีแสงถ้าเข้าไปในร่างกายของโยม จะทำให้โยมหันมานับถือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า!”

เมื่อเขาหันไปมอง กลับเห็นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีสีหน้าเป็นปกติ ร่างกายไม่มีรัศมีแสงปรากฏขึ้น

แต่ว่าเหนือศีรษะของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกลับมีจิตวรยุทธ์ลอยขึ้น รวมตัวเป็นรูปเป็นร่าง ไม่ได้สะท้อนเป็นภาพคุนเผิงหรือมังกรแท้ ทว่าเป็นเทาเที่ยตัวหนึ่ง!

บรรพชิตหนุ่มรูปนี้พลันรู้สึกหนักใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี