เยี่ยนจ้าวเกอหลังจากสังหารคู่ต่อสู้คนแรกด้วยหนึ่งฝ่ามือแล้ว ก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยังคนอื่น
แม้ปากจะบอกว่าจะจับคู่ต่อสู้มาสอบปากคำ แต่เป้าหมายจริงๆ แล้วมีแค่ผู้นำที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกผู้นั้นเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้รู้เรื่องอะไรๆ มากที่สุด
ทุกคนในตอนนี้ไม่อาจใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้ ต้องพึ่งพาพลังฝึกปรือของตัวเองเพียงอย่างเดียว
หลังจากสัมผัสได้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีพลังน่าตระหนก บุรุษวัยกลางคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกผู้นั้นก็คิดจะโจมตีใส่ชายหนุ่ม
ทว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกคอยขวางทางไว้ มันว่องไวมากกว่าเขา มีพลังดุดันมากกว่าเขา การโจมตีอย่างไม่ขาดสายให้เขาไม่อาจปลีกตัวไปไหนได้ และได้แต่รับมือย่างเหน็ดเหนื่อย
ลูกศิษย์อารามสูงส่งอีกสามคนสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
‘เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งกว่าบัวแดงสูงส่งฟู่ถิงอีก’
ลำดับของเยี่ยนจ้าวเกอคือจากต่ำไปสูง
หลังจากสังหารคู่ต่อสู้คนแรกเสร็จแล้ว เขาก็พุ่งเข้าหาศัตรูที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นทันที
นั่นเป็นชายหนุ่มร่างผอม ภายนอกเหมือนมีอายุราวๆ สามสิบปี
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ ใบหน้าฉายแววหวาดกลัว หันกายคิดหนี
แต่อย่าว่าวิชาอารามสูงส่งของเขาไม่ถนัดด้านความเร็วเลย ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ที่ได้ชื่อว่ามีความเร็วมากที่สุด ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่หนีรอดจากเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ไปได้
เยี่ยนจ้าวเกอก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง มาถึงด้านหลังของอีกฝ่าย จากนั้นก็ใช้นิ้วต่างกระบี่ แทงใส่กลางหลังของเป็นหมายทันที
ชายหนุ่มร่างผอมไม่ทันได้ตอบโต้ ร่างกายพลันอ่อนแรง พลิกตัวล้มลงเบื้องหน้า ร่างหล่นลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง
ในตอนนั้นเอง จอมยุทธ์อารามสูงส่งที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางอีกคนก็พุ่งเข้ามาอย่างกล้าหาญ
ฝ่ามือของเขาปรากฏสภาวะหยินหยาง หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง หนึ่งอ่อนหนึ่งแข็ง
ระหว่างสองมือของเขา ปล่อยญาณจริงแท้อันยิ่งใหญ่ออกมาอย่างเต็มที่
ปราณสีเขียวหลายสายสะท้อนเป็นต้นไม้สูงเทียมฟ้า คงอยู่ในจุดหนึ่งของมิติ กำเนิดขึ้นในฝ่ามือของคนผู้นี้
ต่อมา ไม้กำเนิดไฟ ไฟกำเนิดดิน ดินกำเนิดทอง ทองกำเนิดน้ำ น้ำกำเนิดไม้
ปัญจธาตุให้กำเนิดกันและกัน ไม่ทันไรก็มีแสงสีทองอันคมกริบ ต้นไม้สูงใหญ่ กระแสน้ำซัดสาด อัคคีลุกโชน บรรพตตระหง่างโผล่ขึ้นกลางฝ่ามือทั้งสองข้างของคนผู้นั้น
ขณะที่หมุนวน พลังแห่งปัญจธาตุก็เพิ่มความแข็งแกร่งและขยายขนาดให้แก่กันและกัน สุดท้ายเกิดเป็นน้ำวนกลุ่มหนึ่ง
น้ำวนนี้ดูดปราณวิญญาณของปัญจธาตุที่อยู่รอบๆ ไม่หยุดยั้ง ยิ่งมายิ่งเร็ว
ปราณแห่งชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่ได้จากการฝึกคัมภีร์อายุวัฒนาไหลเข้าไปในน้ำวน
วินาทีต่อมา กลิ่นอายความตายไร้ขอบเขตที่ทำให้คนต้องกลั้นหายใจ และบีบคั้นสิ้นหวังก็ลอยขึ้นมาจากด้านใน มีสภาวะน่าตกตะลึงกว่าเดิม!
น้ำวนดึงปราณวิญญาณของปัญจธาตุมารวมตัวกัน การหมุนเร็วยิ่งขึ้น น้ำวนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เมื่อน้ำวนแข็งแกร่งขึ้น มันก็ทำให้พลังชีวิตกลายเป็นจิตความตายซึ่งยิ่งเด็ดเดี่ยว และพลังงานที่ยิ่งดุร้าย!
หมุนปัญจธาตุ ทวนชีวิตความตาย
วรยุทธ์สายตรงของอารามสูงส่งแห่งเขาเมฆเลือน ปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตาย!
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ “มาได้ดี”
เขายื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง ปลายนิ้วปรากฏสีดำสีขาวจุดหนึ่ง กลายเป็นปลาหยินหยางในรูปไท่จี๋ ก่อนจะหมุนติ้ว
ความว่างเปล่าส่ายไหว ปราณสีขาวกับปราณสีดำกว้างใหญ่โผล่ขึ้นพร้อมกัน ผสมผสานและบิดเปลี่ยนกันและกัน หยินหยางถูกเคลื่อนย้ายเพราะพวกมัน
กฎของฟ้าดินบริเวณนี้คล้ายกับปรากฏการเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาด
พลังฝ่ามือจากท่าปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตายที่ดุร้ายของอีกฝ่าย พลันพลาดจากร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ เฉออกไปอีกทางอย่างพิสดาร เป้าหมายกลับเป็นสหายร่วมสำนักที่กำลังสู้กับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอยู่
ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกคนนั้นใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ไม่อาจแบ่งสมาธิมาสำรวจการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่อยู่บริเวณรอบข้างได้
ครั้งนี้เขารับมือไม่ทัน เกือบได้รับบาดเจ็บเพราะปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตายของฝ่ายตัวเอง
โชคดีที่เขารู้จักวรยุทธ์นี้เป็นอย่างดี
ปราณความตายมาถึงร่าง แค่พริบตาเดียวเขาก็ใช้กระบวนท่าปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตายออกมาแทบจะโดยสัญชาตญาณ พลิกวิถีของมัน บังคับเปลี่ยนความตายเป็นชีวิต รับการสังหารที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี