เวลาผ่านไป ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงบนดินแดนจิตคุณธรรมในทะเลหวงเจียก็ยังคงทำงานกันอย่างเป็นระเบียบ
การสร้างพื้นฐานที่นี่ในตอนนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
แต่ว่าทั่วทั้งสำนักไม่ได้ผ่อนคลาย
วันที่พวกคังผิงจะหลุดออกมาจากก้นทะเลที่ดินแดนสุทธทัศน์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ตามการคำนวณในตอนแรกของเยี่ยนจ้าวเกอ เมื่อเริ่มคำนวณจากวันนี้ อย่างเร็วสุดหนึ่งถึงสองปี อย่างช้าสุดสามปี จะเป็นเวลาที่พวกคังผิงหลุดพ้นพันธนาการ
เวลานั้นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นเวลาแห่งการต่อสู้ตัดสิน
ก่อนจะถึงวันนั้น เสวียนเหวินอ๋องทรงคอยคุ้มครองนครหลวงของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง รักษาการป้องกัน ไม่ออกไปที่ใด
เป็นเหตุให้ขุมกำลังต่างๆ เช่นเขากว่างเฉิง หอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริด และสำนักความมืดรู้สึกตึงมืออยู่ชั่วขณะ
เนื่องจากการดูแลอย่างขยันขันแข็งมามากว่าร้อยปีของเสวียนอ๋องสามชั่วรุ่น นครหลวงของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจึงมีระดับความแข็งแกร่ง เทียบได้กับข่ายกระบี่ของหอกระบี่ทะเลเหนือบนดินแดนเพิงหินโม่
เสวียนเฉิงอ๋องที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางครอบครองความได้เปรียบด้านชัยภูมิ มีพลังน่าทึ่งยิ่ง
นอกจากนั้น แม้ว่าจะสูญเสียหอกราชาลี้ลับที่ได้ทิ้งไว้ในทะเลหวงเจีย ทว่าก็มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าการเสด็จกลับทะเลหวงเจียในครั้งนี้ของเสวียนเฉิงอ๋อง ได้นำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงกลับมาด้วยหรือไม่
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงหายากถึงขีดสุด ไม่ใช่ว่าจอมยุทธ์สักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนทุกคนจะมี นี่เป็นเรื่องจริง
แต่ว่าเบื้องหลังของพวกเสวียนเฉิงอ๋อง ผู้วิเศษเซิง และนักพรตสือไม่รวบรัดธรรมดา ไม่อาจเอาเหตุผลมาวัดได้
ขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนล้วนระวังตัว
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หากรอจนถึงตอนที่พวกคังผิง กู้จาง และเฮ่อตงเฉิงหลุดออกมาจากก้นทะเลของดินแดนสุทธทัศน์ พลังของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะกล้าแกร่งขึ้น
การถ่วงเวลาต่อไปไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ถ้าหากว่าสามารถจัดการเสวียนเฉิงอ๋องได้ก่อนที่พวกคังผิงจะหลุดออกมา จะต้องส่งผลต่อการกำหนดสถานการณ์ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
คิดจะจัดการเสวียนเฉิงอ๋อง จำเป็นต้องมีพลังเพียงพอ
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าฌานแอบฝึกฝน ก็เพราะมีเป้าหมายนี้
นอกจากเขาแล้ว คนอื่นๆ ทั่วทั้งเขากว่างเฉิง รวมถึงยอดฝีมือระดับสุดยอดที่อยู่ในขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนบนทะเลหวงเจีย ต่างก็เตรียมตัวแข่งกับเวลา
วันหนึ่ง ณ ห้องสงบใจห้องหนึ่งในเขากว่างเฉิง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าดุจหยกประดับกวนเพิ่งนั่งปรับลมหายใจเสร็จ ลืมตาขึ้น แล้วลุกขึ้นยืน กลับเป็นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ
ตัวเยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าไปยังโลกผืนสมุทร ส่วนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยังคงอยู่ที่นี่
ในยามที่ร่างจริงเข้าฌานปิดตาย การเชื่อมต่อระหว่างร่างแยกและร่างจริงจึงอ่อนแอลง ทำให้ปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีความติดขัดเล็กน้อย
ทว่าการนั่งสมาธิฝึกฝนในยามปกติ และการติดต่อกับคนอื่นยังคงไร้อุปสรรค
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกออกจากห้องสงบใจ เห็นอิงหลงถูเดินมา เหมือนมีคำถามเพื่อขอคำชี้แนะ
หลังจากตอบข้อสงสัยของอิงหลงถู ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ถามว่า “บิดาข้ายังไม่ออกฌานหรือ”
ก่อนหน้านี้ราวๆ ครึ่งปี เยี่ยนตี๋ได้เข้าฌานฝึกฝนที่ยอดเขามหาคุณอีกครั้ง
อิงหลงถูตอบ “ท่านอาจารย์อาเจ้าสำนักทิ้งคำพูดไว้ว่า เขาต้องการเวลาทั้งหมดหนึ่งปี”
“ยังเหลืออีกครึ่งปี…” ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพยักหน้า กลับมีความคาดหวังในใจ
เยี่ยนตี๋อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย การเข้าฌานในครั้งนี้ถ้าหากประสบความสำเร็จ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะรุดหน้าขึ้นอีกขั้น
ตอนนี้จำเป็นต้องให้พวกหยวนเจิ้งเฟิงเพิ่มความระวังกว่าเดิม ป้องกันไม่ให้เยี่ยนตี๋ถูกรบกวน เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว
หลักการนี้ก็นำมาใช้กับตัวเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
ขณะที่กำลังคิดเช่นนี้ ข้างหูพลันมีเสียงของหยวนเจิ้งเฟิงผู้เป็นอาจารย์ปู่ดังมา “จ้าวเกอ มาที่วิหารหลักบนยอดเขานภากาศ”
น้ำเสียงของหยวนเจิ้งเฟิงมีความเคร่งขรึมอยู่หลายส่วน
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจิตใจสั่นไหว บอกกล่าวกับอิงหลงถูสองสามประโยค แล้วมุ่งหน้าไปที่ยอดเขานภากาศในทันที
เมื่อเข้ามาในวิหารหลัก ก็พบหยวนเจิ้งเฟิงและฟางจุ่น
นอกจากฟู่เอินซูที่คอยจับตาดูสถานการณ์ใกล้ๆ ดินแดนหลวนเซียงแล้ว พวกสวีเฟยซึ่งเป็นยอดฝีมือที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างสูงบนโลกซ้อนโลกต่างอยู่หมดสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี