ณ ดินแดนเพิงหินโม่ ทางเหนือของทะเลหวงเจีย
ที่อยู่ของหอกระบี่ทะเลเหนือ ข่ายกระบี่ที่หอกระบี่ทะเลเหนือสืบทอดมามากกว่าพันปี ในตอนนี้ถูกกระตุ้นโดยสมบูรณ์ ทำงานอย่างเต็มกำลัง
เห็นแต่เพียงมีปราณกระบี่พุ่งสู่หมู่เมฆ ครอบคลุมดินแดนเพิงหินโม่ทั้งผืน
แต่ว่าปราณกระบี่เหล่านี้ในปัจจุบันกลับถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ เสื่อมสลายลง
เหมือนกับอาวุธคมศาสตราเทพมากมาย ที่สุดท้ายไม่อาจทนการกัดกร่อนจากกาลเวลาอันยาวนาน มีรอยสนิมขึ้นเต็มไปหมด
เงาร่างสายหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ กระตุ้นประกายกระบี่ ชี้นำปราณกระบี่จากข่ายกระบี่ พัดเป็นคลื่นคลั่งหลายกลุ่ม
เป็นกู้หง ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือ
พูดกันถึงด้านระดับ ในขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนบนทะเลหวงเจีย เขาเป็นผู้ที่มีระดับพลังสูงที่สุด
ตอนนี้เขาควบคุมชัยภูมิของข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ แสดงพลังของตัวเองออกมา อานุภาพมหาศาลจนแทบจะพลิกคว่ำท้องสมุทรได้ทีเดียว
ทว่ากระบี่เทพสมุทรที่น่าอัศจรรย์นี้กลับดูซีดเซียวไร้กำลัง เนื่องจากการสาดส่องจากประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำซึ่งครอบคลุมฟ้าดินอยู่
ประกายกระบี่ที่ดูสงบนิ่งเหมือนกับมีขนาดเล็กน้อยจนไม่อาจสังเกต ทว่ากลับมีสภาวะทำลายไม้ไผ่ แหวกคลื่นทะเลสูงเทียมฟ้า โจมตีใส่หอกระบี่ทะเลเหนือบนเกาะเพิงหินโม่โดยตรง
กู้หงใบหน้าไร้ความกลัวเกรง แต่สายตาฉายแววสิ้นหวัง
วันนี้ ข่ายกระบี่บนดินแดนเพิงหินโม่ถูกทำลาย หอกระบี่ทะเลเหนือพินาศ
…
ณ ยอดเขานภากาศของเขากว่างเฉิง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่งหันหน้าเข้าหาพวกหยวนเจิ้งเฟิง ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด
“แน่ใจหรือว่าเป็นผู้วิเศษเซิง” หยวนเจิ้งเฟิงถามเสียงทุ้ม
ฟางจุ่นพยักหน้า “ข่าวที่ได้มาบอกเช่นนั้นขอรับ”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเอ่ยว่า “คิดทำลายเกาะมนุษย์สำริดโดยอาศัยแค่หนึ่งม้าหนึ่งหอก ต่อให้คังผิงใช้กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนก็ไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มีแต่ต้องเป็นผู้วิเศษเซิงที่มีพลังฝึกปรือสูงกว่าเท่านั้น”
“ถึงแม้ว่าคังผิงจะเคยเรียกเขาว่า ‘ผู้วิเศษเซิง อาจารย์ผู้ล่วงลับ’ จึงอาจจะเป็นยอดฝีมือในสำนักที่เป็นคนรุ่นเดียวกันกับผู้วิเศษเซิง กระนั้นข้าเชื่อว่าผู้วิเศษเซิงยังไม่ตาย แต่ได้มายังทะเลหวงเจียมากกว่า ไม่เช่นนั้นคงไม่ผ่านด่านเขาโถงทองง่ายดายเพียงนี้”
หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้เข้ามาในทะเลหวงเจียเป็นครั้งแรก คนที่มีระดับพลังฝึกปรือสูงที่สุดก็คือเสวียนเหวิงอ๋อง ไท่จู่แห่งต้าต้าเสวียนที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง
ในตอนนั้นผู้วิเศษเซิงกับนักพรตสือต่างอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น
ในบรรดาคนทั้งสามคน ผู้วิเศษเซิงไม่เพียงแค่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลาอันเป็นการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์เท่านั้น เขายังมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ มีพลังเหนือกว่าจอมยุทธ์ในระดับเดียวกัน
เมื่อพูดถึงการต่อสู้โรมรันในอดีต ผู้วิเศษเซิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดไม่แน่ว่าจะด้อยกว่าเสวียนเหวินอ๋อง ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด
ในปัจจุบันผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว ดูจากความเหี้ยมหาญของผู้วิเศษเซิงที่ตีเกาะมนุษย์สำริดแตกได้ไวขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
นอกจากนี้ การมาในครั้งนี้ของเขาจะต้องมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงด้วยแน่นอน!
หยวนเจิ้งเฟิงมองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก “อีกฝ่ายโจมตีทันทีโดยไม่ป่าวประกาศ ต้องการทำลายพวกเราทีละคน”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบนวดขมับของตัวเองเบาๆ “แรกง่ายหลังยาก ฆ่าทิ้งให้หมดสิ้น นอกจากนี้ยังไม่สนความแค้น สยบสภาวะของทะเลหวงเจีย”
เทียบกันแล้ว ตอนนี้เขากว่างเฉิงมีความแค้นกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องและผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงล้ำลึกที่สุด
คังฮูหยินเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงเหมือนกับพวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง และกู้จาง
เป็นเพราะการตายของนาง หอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักแสงสว่างจึงได้รับการแก้แค้น
และความขัดแย้งระหว่างเกาะมนุษย์สำริดกับราชวงศ์ต้าสเวียนอ๋อง ดูจะน้อยกว่ามาก
หากกล่าวกันตรงๆ ยามที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีสภาวะยิ่งใหญ่ไม่อาจต้านทาน เกาะมนุษย์สำริดใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะขอยอมแพ้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี