สงครามด้านดินแดนจิตคุณธรรมสงบลงแล้ว นอกจากกู้กงกับโจวฮ่าวเซิง ยังมีขุมกำลังแต่ละกลุ่มในทะเลหวงเจียมุ่งหน้ามาเยี่ยมเยือนเขากว่างเฉิงไม่ขาดสาย
แม้ว่าจะเพิ่งต่อสู้เสร็จ กระนั้นบนเขากว่างเฉิงก็ยังคงต้อนรับขับสู้อย่างมีมารยาท เหมือนเพิ่งทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เป็นเหตุให้ผู้มาเยือนยำเกรงกว่าเดิม
แต่ว่าในขณะที่ต้อนรับคนอื่นๆ ความจริงแล้วเยี่ยนจ้าวเกอกับคนในเขากว่างเฉิงกำลังจับตาดูทิศตะวันตกอยู่
จุดตัดของเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณที่อยู่ที่นั่น กำลังเกิดการต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่กว่า
เยี่ยนจ้าวเกอกับสหายในสำนักสนใจผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
ที่อยู่ของทะเลหวงเจียกับเขากว่างเฉิงตั้งอยู่ที่ขอบตะวันตกของเขตตะวันอาคเนย์ ติดกับเขตเพลิงทักษิณพอดี
ถ้าหากว่าผลลัพธ์สุดท้ายเป็นเขตตะวันอาคเนย์พ่ายแพ้ เช่นนั้นทะเลหวงเจียก็จะปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
ยอดฝีมือฝั่งเขตเพลิงทักษิณข้ามเขตแดน ทะเลหวงเจียจะเกิดการเปลี่ยนฟ้าอีกครั้ง
และระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับเนินต้นจักรพรรดิบนเขาหงส์ลีลาของประมุขทักษิณก็เต็มไปด้วยข้อขัดแย้ง อีกทั้งยังติดค้างหนี้เลือด
เขาสังหารลูกศิษย์ที่ประมุขทักษิณถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็ทำให้การตามหากระดูกหงส์อมตะ เพื่อนำเมฆาคุณธรรมมาศึกษาความหมายแท้จริงของประมุขทักษิณล้มเหลว
ความแค้นนี้ผูกพันกันล้ำลึกยิ่ง ถ้าหากเขาโถงทองถูกกดดันให้ถอย จนโดนเขตเพลิงทักษิณยึดครองทะเลหวงเจีย เช่นนั้นเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงก็ได้แต่ต้องพิจารณาถอยออกจากทะเลหวงเจีย หนีให้ไกลจากอันตราย
“ข้าจะไปช่วยต่อสู้ เยี่ยนตี๋เจ้าเฝ้าสำนัก” หยวนเจิ้งเฟิงมองเยี่ยนตี๋
การส่งถ่านให้ท่ามกลางหิมะ[1] ย่อมดีกว่าการปักบุปผาบนผ้าแพร[2]
แต่ความขัดแย้งระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณ ไม่ว่าสถานการณ์รบเมื่อช่วงก่อนจะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วก็ต้องตัดสินกันที่ประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยและประมุขทักษิณจวงเซิน
ผลแพ้ชนะของสองประมุขผู้ยิ่งใหญ่ อาจจะทำให้ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงกว่าเข้ามาก้าวก่าย ตัดสินผลลัพธ์สุดท้ายของสถานการณ์รบ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าเยี่ยนตี๋หรือคนอื่นไป ความจริงไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
สิ่งสำคัญก็คือเขากว่างเฉิงแสดงท่าทีร่วมรุกร่วมถอยกับเขาโถงทอง
คนที่มีความสำคัญและตำแหน่งเพียงพอของเขากว่างเฉิงในปัจจุบัน ก็คือเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ และหยวนเจิ้งเฟิง
เยี่ยนจ้าวเกอฟื้นฟูปราณกำเนิด เยี่ยนตี๋เฝ้าสำนักเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูคนอื่นมาบุก
ยอดฝีมือระดับสุดยอดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องล้วนถูกบดขยี้หมดสิ้น ในเวลาสั้นๆ อาจไม่มีศัตรูมาอีก
ที่เยี่ยนตี๋ต้องอยู่ หลักๆ ก็เพื่อป้องกันคนที่จะมาเพราะกงจักรมหาประกายกาฬ
เยี่ยนตี๋ว่า “ท่านอาจารย์โปรดระวังตัวด้วย”
หยวนเจิ้งเฟิงพยักหน้า “พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็เหมือนกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยว่า “อาจารย์ปู่ท่านนำมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันองค์นั้นไปด้วยเถอะ แม้อาจจะยังใช้ไม่ได้ในเวลาอันสั้นนี้ แต่ถ้าค่อยๆ หลอมเปลี่ยนก็คงใช้ได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการแจ้งต่อพวกราชากระบี่ภูผาเงาด้วย”
“ข้ามีความคิดเช่นนี้อยู่พอดี” หยวนเจิ้งเฟิงเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
ถ้าหากเขาโถงทองจะสืบสาวถึงเรื่องนี้ เช่นนั้นการกระทำเช่นนี้ก็ถือเป็นการยั่วยุ กลายเป็นราดน้ำมันบนกองเพลิงเพิ่ม
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีความมั่นใจอยู่เก้าส่วน ว่าประมุขอาคเนย์กับหลินฮั่นหัวจะแสร้งเป็นเลอะเลือน ตอบรับวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ สวมหมวกลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ลงบนศีรษะของกวนลี่เต๋อ
เขาโถงทองกำลังต่อสู้กับเนินต้นจักรพรรดิที่แนวหน้า กวนลี่เต๋อไม่เพียงแต่ไม่รุดไปช่วยเหลือ ยังก่อความวุ่นวายขึ้นที่แนวหลังของทะเลหวงเจีย เขาโถงทองไม่อาจไม่รู้สึกคับข้อง
ดูจากเรื่องนี้ก็รู้ได้แล้ว ว่าประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยมีความเห็นอย่างไรต่อกงจักรมหาประกายกาฬในตำนาน
หากยึดตามท่าทีเมื่อกาลก่อน เฉาเจี๋ยแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่ออิ่นเทียนเซี่ย จักรพรรดิประกายกาฬในอดีตอยู่หลายส่วน
และสามารถเห็นได้จากการอนุญาตให้ผู้สืบทอดของสำนักประกายกาฬ อย่างสำนักแสงสว่างและสำนักความมืดอยู่บนทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์
สำหรับสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ รวมถึงสมบัติที่อาจจะถูกเก็บไว้ด้านใน เฉาเจี๋ยกลับไม่สนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี