ในช่วงที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกเข้าฌาน ผู้วิเศษเซิงได้มาโจมตีสำนักเป็นครั้งแรก เกิดสงครามใต้เขากว่างเฉิง ทว่าสุดท้ายผู้วิเศษเซิงพ่ายแพ้กลับไป
ในสงครามที่เพิ่งจบไปไม่นานก่อนหน้านี้ ยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้ระดมกำลังทั้งหมดมาบุก แต่สุดท้ายกลับพินาศทั้งกองทัพ
พลังที่เขากว่างเฉิงได้แสดงออกมา เหนือกว่าความคาดหมายของทุกคน
ในนี้นอกจากตราประทับตะวันแล้ว มงกุฎจันทราก็ได้รับการยืนยันอีกครั้ง อีกทั้งยังมีข่าวลือเรื่องอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬได้ทิ้งเอาไว้ด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงเริ่มเข้าไปอยู่ในสายตาของยอดฝีมือระดับสูงมากขึ้นในโลกซ้อนโลก ถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย
ชายหนุ่มรู้ผ่านพวกมู่จวินจากเขาโถงทองมานานแล้ว ว่าเทียบกับประมุขทั้งสิบที่ปกครองศูนย์กลางและทิศทั้งแปดของโลกซ้อนโลกแล้ว ความจริงสามกษัตริย์ห้าจักรรพรรดิไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโลกซ้อนโลก
ก่อนหน้านี้เขายังไม่เข้าใจสาเหตุ แต่ว่าหลังจากที่ทราบถึงการดำรงอยู่ของโลกศาสนาพุทธ ทุกสิ่งก็ดูเหมือนกับมีคำตอบ
แต่ไม่ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร การเข้าไปอยู่ในสายตาของจักรพรรดิแพรของเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิง ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
มิพักเอ่ยถึงเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋โดดเด่นถึงเพียงไหน
ก่อนหน้านี้มีเรื่องเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ต่อมายังมีตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา และกงจักรมหาประกายกาฬ จักรพรรดิแพรไม่คิดจะสนใจคงจะยาก
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย ถามว่า “ต้องการให้นำอะไรไปด้วยหรือไม่”
ฟู่ถิงตอบ “ท่านพ่อไม่ได้กล่าวถึง เพียงแค่เชิญไปเป็นแขกเท่านั้น”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ ถามต่อว่า “ขออภัยทุกท่านในเขากว่างเฉิงที่ฟู่ถิงละลาบละล้วง ขอถามคุณชายเยี่ยนว่า จักรพรรดิประกายกาฬทิ้งอาวุธเซียนชิ้นหนึ่งไว้จริงๆ ใช่หรือไม่?”
เยี่ยนจ้าวเกอเคาะนิ้วกับผิวโต๊ะด้านข้างเบาๆ ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เป็นตัวอ่อนของอาวุธเซียนชิ้นหนึ่ง ยังไม่สมบูรณ์แบบ มีเส้นทางอีกยาวไกลต้องเดิน”
“คุณชายเยี่ยนอย่าคิดมาก ยอดเขาอัศจรรย์ของข้าไม่สนใจของวิเศษชิ้นนี้ ที่พูดถึงมันเพียงแค่ต้องการกล่าวเตือนเท่านั้น” ฟู่ถิงส่ายศีรษะ “ท่านพ่อเคยกล่าวว่า ของที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้งเอาไว้จะนำมาซึ่งความโชคร้าย เป็นคราเคราะห์มากกว่าโชคลาภ”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย “อ้อ? จักรพรรดิแพรบิดาของท่านกำลังจะบอกว่า ของที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้งเอาไว้ เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของสำนักประกายกาฬในตอนนั้นหรือ”
ฟู่ถิงเอ่ยอย่างแช่มช้า “ท่านพ่อเพียงแต่บอกว่า คนที่ทราบถึงเรื่องในตอนนั้นล้วนไม่ต้องการของสิ่งนั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอปั้นสีหน้าจริงจังขึ้นหลายส่วน
คนที่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่จักรพรรดิประกายกาฬกับสำนักประกายกาฬประสบภัยพิบัติย่อมมีไม่มาก กระนั้นก็เชื่อว่าไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองคน
ผู้ที่ทราบเรื่องจะต้องเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดอย่างเช่นจักรพรรดิแพรงาม
ทว่าแม้แต่พวกเขาก็ยังแสดงท่าทีมีลับลมคมในต่อเรื่องนี้ จึงเห็นได้ว่าเรื่องราวในตอนนั้นไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ
กงจักรมหาประกายกาฬคล้ายกับลวกมือมากกว่าแต่ก่อนอยู่หลายส่วน
ฟู่ถิงว่าต่อ “จะจัดการกับสิ่งของที่จักรพรรดิประกายกาฬเหลือไว้อย่างไร คุณชายเยี่ยนต้องใคร่ครวญเอาเอง ปัจจุบันข่าวแพร่กระจายไปค่อนข้างกว้างขวาง ท่านพ่อกล่าวว่า คนที่ทราบเรื่องในตอนนั้น ต่างไม่อยากได้สิ่งของชิ้นนี้ กระนั้นในสายตาของคนจำนวนมาก นี่เป็นอาวุธเซียนชิ้นหนึ่ง เป็นของวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดครู่หนึ่ง จึงค่อยกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคำเตือนของแม่นางฟู่ด้วย หากข้ามอบของสิ่งนี้ให้แก่ประมุขอาคเนย์ เขาก็คงไม่รับไว้กระมัง”
“ท่านพ่อบอกว่า ท่านอาเฉาทราบเรื่องในตอนนั้น ดังนั้นหลายปีมานี้จึงดูแลผู้สืบทอดของสำนักประกายกาฬ” ฟู่ถิงเอ่ยเสียงเรียบ
ชายหนุ่มพยักหน้า คาดการณ์ได้ว่าหากคิดจะย้ายคราเคราะห์ไปให้ประมุขทักษิณหรือจักรพรรดิเอกภพกำเนิด เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่สำเร็จ
สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิและประมุขทั้งสิบ ดูเหมือนบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดในโลกซ้อนโลกเหล่านี้ต่างมีความคิดอยู่ในใจ
เขาจิตใจสั่นไหว “ในตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แม่นางฟู่สามารถบอกกล่าวได้หรือไม่”
ฟู่ถิงส่ายศีรษะ “ข้าเองก็ไม่ทราบ หากข้ามีพลังฝึกปรือเท่าท่านอาเฉา ท่านพ่อจึงจะยอมบอกรายละเอียด”
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับเยี่ยนตี๋ ไม่มีผู้ใดกล่าววาจา
สายการสืบทอดของเสวี่ยชูฉิงเคยมีความสัมพันธ์กับสำนักประกายกาฬอย่างแน่นแฟ้น
บางทีความลับระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจมีจุดร่วมกันอยู่ก็เป็นได้
เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วแตะริมฝีปากขณะใคร่ครวญ
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เช่นนั้นกงจักรมหาประกายกาฬที่ร้อนลวกมือชิ้นนี้ ในเมื่อตนเก็บไว้ ก็มีแต่จะต้องเก็บไว้ต่อแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี