เฟิงอวิ๋นเซิงบอกลาเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วเริ่มเข้าฌานฝึกฝน
ในขณะที่นางเข้าฌาน ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอครั้งนี้ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับร่างจริง แต่เข้าฌานฝึกฝนอยู่บนเขา
หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะอาศัยโอกาสในครั้งนี้ เลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย
นอกจากเลือดเนื้อของเต่าปูลูแล้ว ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอยังพบสายเลือดของนกปี้ฟางที่อยู่ในถุงใส่ของของนักพรตสือด้วย
นกปี้ฟางคล้ายกับกระเรียน มีขาข้างเดียว ตัวเป็นสีน้ำเงิน บนผิวมีลายสีแดง จะงอยปากยาวเป็นสีขาว
ผลึกเปลวเพลิงหากได้พบเจอถือเป็นรางร้าย เป็นสัญญาณของอัคคีภัย
นักพรตสือรวบรวมสายเลือดของปีศาจชนิดนี้มาเพื่อใช้วางค่ายกล
แต่ว่าพอตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ เขากลับให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกหลอมมันเข้าไปในร่างของตัวเอง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกรุดหน้าอย่างมั่นคงตามแผนการก่อนหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ที่จัดการธุระปะปังในสำนักเรียบร้อยแล้ว สองพ่อลูกก็ติดตามพวกฟู่ถิงออกจากเขากว่างเฉิง
ขณะที่เดินทาง เยี่ยนตี๋พบว่าบุตรชายของตนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่บ้าง จึงอดกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้ว่า “ข้าทราบเรื่องของศิษย์หลานเฟิงแล้ว แม้ว่าจะมีอันตราย แต่ว่าก็เป็นความแน่วแน่และจิตใจที่จอมยุทธ์คนหนึ่งควรจะมี”
เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก หลักการนี้เขาย่อมทราบ ไม่เช่นนั้นคงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเฟิงอวิ๋นเซิง
สิ่งที่เขาหนักใจก็คือ ก่อนหน้านี้เขาคล้ายถูกเฟิงอวิ๋นเซิงเอาคืนแล้ว…
‘มีแบบนี้ที่ไหน! นับว่าครั้งนี้เจ้าหนีไปได้ทันแล้วกัน!’ เยี่ยนจ้าวเกอคิดในใจอย่างดุดัน ‘พบหน้ากันครั้งหน้าข้าจะต้องจูบคืนให้ได้!’
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดอยู่ สถานที่แรกที่พวกเขามุ่งไปก็คือเขาโถงทอง
จักรพรรดิแพรงามกับประมุขอาคเนย์มีความสัมพันธ์ไม่เลว เยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประมุขอาคเนย์เช่นกัน
ฟู่ถิงครั้นรุดถึงอาณาเขตของเขตตะวันอาคเนย์ จะต้องไปเขาโถงทอง เพื่อพบประมุขอาคเนย์
ขณะเดียวกัน ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอ ฟู่ถิง และหลินฮั่นหัวราชากระบี่ภูผาเงาต่างคุ้นเคยกันดี ปัจจุบันเกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ ก็สมควรเยื่อมเยือนสักเล็กน้อย
เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้แต่แรกแล้ว ตอนนี้จึงทอดถอนใจ
ฟู่ถิงเองก็มีความรู้สึกซับซ้อนเช่นกัน
นางกับหลินฮั่นหัวมีการคบหากันไม่เลว หลินฮั่นหัวมีอายุและพลังฝึกปรือมากกว่านางไม่น้อย ก่อนหน้านี้ยังเคยชี้แนะวรยุทธ์ให้แก่นาง
เพียงแต่ในตอนนั้นนางกลับไม่ทราบว่า หลินฮั่นหัวเกี่ยวข้องกับการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์
ตอนที่ข่าวเพิ่งจะส่งมาถึง ฟู่ถิงไม่เชื่อ แต่หลังจากจักรพรรดิแพรงามผู้เป็นบิดาบอกกล่าว นางจึงค่อยทราบว่าข่าวเป็นความจริง
ขณะที่ทุกคนเดินทางอยู่บนอาณาเขตของเขตตะวันอาคเนย์ ก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียดอยู่บ้าง
หลังจากเวลาผ่านไป ก็มีคนในเขตตะวันออกเฉียงใต้ได้ยินข่าวลือมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งข่าวยังแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
คนส่วนใหญ่มีท่าทีสงสัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ที่ผิดปกติดังขึ้น เช่น…
“ถ้าเกิดราชากระบี่ภูผาเงาเป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์จริงๆ เช่นนั้นประมุขอาคเนย์จะใช่ด้วยหรือไม่…”
“เป็นราชากระบี่ภูผาเงาหลอกลวงประมุขอาคเนย์ แทรกซึมอยู่ในโลกซ้อนโลก หรือว่าคนในเขาโถงทองล้วน…”
“แม้ว่าประมุขอาคเนย์จะไม่มีปัญหา ราชากระบี่ภูผาเงาอยู่ในโลกซ้อนโลกมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ใครทราบว่าได้ทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง”
“ไม่รู้ว่านอกจากราชากระบี่ภูผาเงาแล้ว จะยังมีผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์คนอื่นอีกหรือไม่…”
ข่าวลือมากมายสับสน บางอย่างแค่ฟังก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง แต่บางอย่างพอฟังแล้วกลับทำให้คนครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย
สำหรับคนที่เข้าใจสถานการณ์ ข่าวปลอมมากมายต่างเหมือนการฟังเรื่องตลก
แต่สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง ข่าวปลอมส่วนหนึ่งกลับได้รับความนิยมยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี