เยี่ยนจ้าวเกอจ้องมองหยางชงพลางถามว่า “ฟังจากคำพูดเมื่อครู่ของท่าน ข้าไม่รู้สึกว่าท่านเข้าใจมหามรรคาแห่งฟ้าดิน จึงเกิดความกังขาต่อแนวคิดของโถงเซียนในตอนนี้”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไฉนท่านจึงแตกต่างจากพวกเขา”
ชายหนุ่มชี้พวกเฉวียนฮ่าวหลง “ข้าเดาว่า สมควรมีใครสักคนหรือเรื่องบางเรื่องภายนอก กระตุ้นท่าน ทำให้ท่าน…”
มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอยกโค้งเป็นรอยยิ้มจางๆ “…ทำให้ท่านได้กระจ่าง”
หยางชงเงียบงัน ไม่ได้กล่าววาจา
กลับเป็นคนที่ไล่ล่าเขาอีกคนหนึ่งแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ไม่ใช่เพราะโบราณสถานแห่งนั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงสบตากัน ต่างเลิกคิ้วเล็กน้อย “โบราณสถานอะไร”
คนผู้นั้นกลับไม่ปิดบัง กล่าวอย่างเขื่องโขว่า “ย่อมเป็นโบราณสถานที่คนนอกรีตเช่นพวกเจ้าทิ้งเอาไว้หลังจากตายไปแล้ว”
“ในแดนเซียนปลดปลงแห่งนี้ ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดบนเส้นทางสายหลักของพวกเราเคยรุมสังหารคนนอกรีตอย่างพวกเจ้าไปมากมาย ในบรรดาคนเหล่านั้นยังมีจักรพรรดิคนหนึ่งด้วย!”
“แดนเซียนปลดปลงกับอาณาเขตที่อยู่รอบๆ ได้ทิ้งร่อยรอยของสนามรบไว้หลายแห่ง หลายปีมานี้ถูกเก็บกวาดไปจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกบางส่วนที่ไม่ถูกกลบฝัง”
“ไม่กี่ปีมานี้ โลกสูงเลิศของพวกเราได้พบที่หนึ่งโดยบังเอิญ”
คนผู้นี้ขณะที่พูดก็จ้องมองหยางชง รู้สึกปวดใจเหลือแสน “ในตอนที่เขาจัดการโบราณสถาน ได้รับการล่อลวงจากคนนอกรีตเช่นพวกเจ้า จึงตกมาอยู่ในสภาพนี้!”
เฉวียนฮ่าวหลงได้ยินก็ถอนใจคำหนึ่ง ก่อนจะมองหยางชงด้วยความกังวล
ในความทรงจำของเขา อาจารย์อาหยางผู้นี้เป็นหนึ่งในยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักฟ้าโกลาหลของตน
อาจารย์ลุงเผิงผู้นั้นเป็นคนรุ่นเดียวกับหยางชง แต่ว่าเข้าสำนักเร็วกว่า กระนั้นระดับพลังฝึกปรือกลับอ่อนด้อยกว่ามาก
หยางชงเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงที่อายุน้อยที่สุดในเวลาพันปีที่ผ่านมาของสำนักฟ้าโกลาหล และเป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายที่อ่อนเยาว์ที่สุด
สองสามปีมานี้ หยางชงได้เข้าร่วมสงครามในดินแดนของศาสนาพุทธอันโสมม เข่นฆ่ายอดฝีมือฝ่ายมารพุทธไปมากมาย
ไม่ใช่แค่โลกสูงเลิศเท่านั้น แม้แต่ในแดนเซียนปลดปลง เขาก็มีชื่อเสียงขจรขจาย ยอดฝีมือระดับสุดยอดบางส่วนต่างชื่นชม
ระบบโถงเซียนอันเป็นรากสายตรง
ทุกคนต่างเอาใจช่วยให้เขาเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสำนักมา และรับหน้าที่ต่อจากเจ้าสำนักคนเก่า กลายเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ นำพาสำนักฟ้าโกลาหลไปสู่ความสูงระดับใหม่ และยึดครองพื้นที่แห่งหนึ่งในแดนเซียนปลดปลง
แต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน หลังจากเขาได้นำกลุ่มไปจัดการโบราณสถานแห่งหนึ่ง กลับมาได้ไม่นานก็เกิดปัญหาขึ้น
เฉวียนฮ่าวหลงที่ได้รับการดูแลจากหยางชงมาโดยตลอดเกิดความรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ในตอนที่เขาเห็นแสงในร่างของหยางชงอ่อนแอลงด้วยตาตัวเอง เขาก็เหลือแค่ความหวาดกลัว
เขายากจะจินตนาการว่า อาจารย์อาหยางซึ่งที่แล้วมาน่านับถือเลื่อมใส ไฉนจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย กลับขมวดคิ้วขึ้นมา
ในใจของคนทั้งสองเกิดความคิดหนึ่ง
“หยุดโอ้อวดได้แล้ว ท่านทราบหรือไม่ว่าจักรพรรดิคนหนึ่งหมายถึงอะไร” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างไม่สนใจ
อีกฝ่ายหัวเราะฮ่าๆ “เจ้าไม่จำเป็นต้องจงใจกระตุ้นข้า บอกเจ้าไปก็ไม่เป็นไร จะได้ทำให้ศิษย์นอกรีตอย่างพวกเจ้ารู้ว่า พวกเจ้าจะพบจุดจบอย่างเดียวกัน!”
“คนผู้นั้นมีฉายาว่าจักรพรรดิประกายกาฬ นามอิ่นเทียนเซี่ย สำนักประกายกาฬที่เขาบัญชา เป็นมรรคาเต๋าที่มีการสืบทอดอยู่ทั่วไป ก่อนที่องค์เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะชำระล้างโลก”
“เทวกษัตริย์ไร้ประมาณชำระล้างโลก เกิดจิตเมตตา จึงปล่อยคนนอกรีตอย่างพวกเจ้าและมารพุทธให้มีชีวิตรอด แต่พวกเจ้ากลับไม่สำนึกคุณ ยังคงกระทำผิด สุดท้ายจึงต้องรับโทษทัณฑ์!”
จอมยุทธ์สำนักฟ้าโกลาหลผู้นี้กระชากเสียง “ไม่สำนึกคุณ ไม่เคารพไร้ประมาณ มารพุทธและอิ่นเทียนเซี่ยนั่นที่ถูกยอดฝีมือโถงเซียนสังหาร วันนี้ของพวกเขาจะกลายเป็นวันพรุ่งนี้ของพวกเจ้า!”
เขากล่าวด้วยสีหน้าวาจาดุดัน เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงไม่คิดจะฟังวาจาข้างหลังต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองโลกสูงเลิศตรงหน้า
เขาจงใจกระตุ้นให้อีกฝ่ายพูดจริงๆ
เพราะเมื่อครู่ เขาเกิดความสงสัยบางอย่างแล้ว
จักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ย ไม่ได้ตกตายเพราะนพยมโลกหรือศาสนาพุทธตามการคาดเดาก่อนหน้าของเขา
แต่เป็นเพราะโลกของโถงเซียนแห่งนี้!
นอกจากอิ่นเทียนเซี่ยแล้ว ยังมียอดฝีมือระดับสุดยอดที่เขาบัญชาการมากมายฝักกระดูกลงที่นี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี