เยี่ยนจ้าวเกอใช้มือรองตราประทับตะวัน ต้านทานพลังฝ่ามือของเผยหัว
เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หรือท่านอยากได้ของล้ำค่าของข้าชิ้นนี้”
เผยหัวมองตราประทับตะวัน กล่าวอย่างแช่มช้า “เมื่อครู่เห็นแวบหนึ่งแล้วแต่ไม่ค่อยแน่ใจ ตอนนี้ข้าดูออกแล้ว นี่คือตราประทับตะวันใช่หรือไม่”
“เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือนามว่าราชันพระอาทิตย์ในเต๋านอกรีตของพวกเจ้าเคยครอบครอง”
เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา “ท่านยังรู้จักราชันพระอาทิตย์ด้วยหรือนี่”
เผยหัวเอ่ยอย่างเฉยชา “ข้าเคยได้ยินมาว่าการสืบทอดและความเป็นมาในตอนแรกของคนผู้นี้ เกี่ยวข้องกับตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณของข้าอยู่หลายส่วน”
“พอข้าเห็นจิตพลังที่แฝงอยู่ในตราประทับตะวันนี้ ก็แน่ใจว่ามีวิถีคล้ายกับคัมภีร์อาทิตย์ไร้ประมาณอยู่หลายส่วนจริงๆ”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ก็มีวาสนากับตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณของข้าจริงๆ ข้าย่อมเก็บไปโดยไม่ต้องละอายใจ”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ “ท่านวางแผนจัดการดีถึงเพียงนี้ ได้ถามเจ้าของในตอนนี้เช่นข้าหรือยัง”
เผยหัวหัวเราะขึ้นเช่นกัน “เจ้ากำลังจะเปลี่ยนมาเชื่อมรรคาฟ้า เข้ามาร่ำเรียนวิชาในตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณของข้าอยู่แล้ว”
ในเสียงหัวเราะ ห้านิ้วที่เขากางออกมาพลันหุบลง
จิตแห่งหลักการของมันคล้ายกับคัมภีร์เทพพระอาทิตย์ ทั้งยังมีจุดที่คล้ายกับการสืบทอดของสำนักประกายกาฬ และวรยุทธ์ของสำนักแสงสว่างอยู่หลายส่วน
หมัดสีทองอร่ามดุจดั่งดวงอาทิตย์พุ่งลงมา แสงสว่างสาดไปทั่วบริเวณ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ถูกทำลาย!
เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญหน้ากับวิชาหมัดเทพอาทิตย์ไร้ประมาณของเผยหัว จิตใจเยือกเย็น ทบทวนแผนที่คิดไว้แล้วอย่างรวดเร็วในใจ เตรียมจะปะทะกับศัตรู
ทว่าในตอนนั้นเอง มิติที่ห่างออกไปก็เกิดการสั่นไหวอย่างฉับพลัน
มิติอันมืดมิดแตกร้าว จากนั้นก็เห็นทะเลสาบสายหนึ่งข้ามมิติออกมา ตัดหน้าทุกคนในชั่วอึดใจ
เผยหัวเห็นดังนั้นอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ไฉนท่านมาถึงแดนเซียนปลดปลงแล้ว?”
ผู้มาเป็นยอดฝีมือสายโถงเซียนระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คนเช่นกัน
กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่นั้น ร้อนแรงแข็งแกร่งสู้เผยหัวไม่ได้ แต่ว่าหนักแน่นต่อเนื่องยิ่งกว่า
ทะเลสาบที่เกิดจากญาณจริงแท้ของเขายืดยาวไม่ขาดสาย พาดขวางจักรวาล เหมือนกับแม่น้ำสวรรค์
“คัมภีร์วรยุทธ์แม่น้ำสวรรค์” เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะไม่รู้จักผู้มาเยือน แต่ก็จำวรยุทธ์ที่อีกฝ่ายใช้ได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นวรยุทธ์ที่ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์อาทิตย์ไร้ประมาณแม้แต่น้อย
ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ มีพรรคใหญ่พรรคหนึ่งชื่อพรรคแม่น้ำสวรรค์ ลูกศิษย์ในพรรคขึ้นชื่อในเรื่องความยิ่งใหญ่หนักแน่นของญาณจริงแท้
ในตอนนี้บนแม่น้ำยืนไว้ด้วยบุรุษสวมอารภรณ์สีเขียวผู้หนึ่ง พอเห็นเผยหัวก็กล่าวอย่างร้อนรนว่า “ท่านอยู่ที่นี่ก็ประเสริฐ รีบมาช่วยเหลือ…”
เสียงยังไม่ทันขาด ทิศทางที่แม่น้ำสวรรค์เกิดขึ้นซึ่งอยู่ไกลออกไปก็พลันปรากฏเงาคนสายหนึ่ง
“สองคนแล้วเป็นไร”
หลังจากเสียงอันเฉยชาดังขึ้น ปราณกระบี่สีขาวสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังบุรุษสวมอารณ์เขียวอย่างไม่ต้องพยายามแม้แต่น้อย
บุรุษสวมอาภรณ์เขียวตื่นตระหนก ม้วนแม่น้ำสวรรค์ไร้ขอบเขตขึ้นมาปะทะกับปราณกระบี่สีขาว
ปราณกระบี่สีขาวเป็นเพียงแค่เส้นสายบางๆ ดูเหมือนกับควันเมฆ แทบจะตรวจจับไม่ได้
แต่ก็คล้ายกับอาวุธคมตัดผ้า ปราณกระบี่สีขาวเพียงตวัดเบาๆ แม่น้ำที่ยิ่งใหญ่นั้นพลันขาดครึ่ง!
ราวกับแม่น้ำที่พาดขวางมิติ ถูกปราณกระบี่สีขาวที่เหมือนกับควันบางสายหนึ่งฟันออกมา!
เผยหัว เยี่ยนจ้าวเกอ และฟู่ถิงพูดขึ้นพร้อมกัน “…กระบี่สังหารเซียน!”
หนึ่งกระบี่กระจายไปทั่วบริเวณ ไม่ปรากฏประกายวิญญาณ ไม่เห็นลวดลายมรรคา
มีเพียงการทำลาย ความอ้างว้าง การเข่นฆ่า คงอยู่ในตอนสิ้นสุด
อย่าว่าแต่บุรุษสวมอาภรณ์ผู้นั้น แม้จะเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ห่างออกไปเห็นปราณกระบี่สีขาวจางนั้นแล้ว เบื้องหน้าก็เกิดภาพลวงตาขึ้น
มนุษย์ในฟ้าดิน สรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่าง ล้วนเหมือนกับต้องใส่เครื่องหมายจบประโยค ตายไปเพราะกระบี่เดียวนี้
เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนกระบี่สังหารเซียน ยามนี้พอเห็นกระบี่นี้ก็แน่ใจในทันที ว่านี่เป็นกระบี่สังหารเซียน หนึ่งในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน วิชาสายเหนือพิสุทธิ์ที่จริงแท้ไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ตรงปลายแม่น้ำสวรรค์ที่อยู่ห่างออกไป เงาคนสายนั้นคล้ายกับขยับยังไม่ขยับ แต่กลับบรรลุถึงที่ใกล้แล้ว
เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ห่างจากบุรุษสวมอาภรณ์เขียวเพียงไม่กี่ก้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี