ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 941

หากไม่ใช่การสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์หรือสายเหนือพิสุทธิ์ เช่นนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็มีแค่สองตัวเลือก

ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการใหม่ทั้งหมด ละทิ้งการฝึกฝนก่อนหน้าของตัวเอง เดินบนเส้นทางใหม่ ก็ต้องติดอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายเช่นนี้ แต่นั่นก็หมายความว่าพลังฝึกปรือของเขาจะหยุดลง ไม่อาจรุดหน้าได้อีก

สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง สร้างพลังอันแข็งแกร่งที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในระดับเดียวกันของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่หากต้องการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็มีความยากสูงกว่าวิธีอื่นเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บแส้ปัด จากนั้นก็ผุดกายขึ้น ออกจากที่พักของตัวเอง

เยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดา ยังคงเข้าฌานไม่ออกมา จนถึงวันนี้เป็นเวลาสองปีแล้ว

ตั้งแต่เยี่ยนตี๋กลับสำนัก เขาก็เริ่มเข้าฌานทันที และตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้ออกไปไหน

เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงบนยอดเขานภากาศ บอกลาพวกหยวนเจิ้งเฟิงและฟางจุ่นซึ่งในตอนนี้ควบคุมสถานการณ์ในสำนัก

จากนั้นเขาก็พาอาหู่ขี่พ่านพ่านออกจากสำนักไป

ตอนนี้เสี่ยวอ้ายก็กำลังเข้าฌานอยู่เช่นกัน

แม้ว่าจะชอบเหม่อลอย ไม่มีสมาธิเพียงพอ เอาแต่คิดถึงแต่เรื่องที่ไร้สาระสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ ทว่าในด้านคิดค้นวรยุทธ์และมรรคาค่ายกล นางไม่เคยเกียจคร้าน

เสี่ยวอ้ายมีพรสวรรค์สูงถึงขีดสุด อีกทั้งยังมีทรัพยากรวรยุทธ์ รวมถึงทรัพยากรสิ่งของอันเปี่ยมล้นของเขากว่างเฉิงและเยี่ยนจ้าวเกอคอยช่วยเหลือ ความเร็วในการพัฒนาพลังฝึกปรือไม่เพียงแต่ไม่เชื่องช้า กลับสร้างความอับอายให้แก่ผู้สืบทอดของพรรคใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงมากมายได้

ในด้านมรรคาค่ายกล นางยิ่งอยู่เหนือคนส่วนใหญ่ ปัจจุบันเป็นคนที่มีระดับค่ายกลสูงที่สูดในกลุ่มคนที่มีระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของเขากว่างเฉิง

หากดูจากระดับพลังฝึกปรือทั่วทั้งเขากว่างเฉิงแล้ว นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ไม่มีใครเทียบนางได้อีก

โชคดีที่หลังจากเสี่ยวอ้ายเข้าเขากว่างเฉิง นางก็ไม่ได้ออกเดินทางอยู่ด้านนอกบ่อยนัก ทุกคนต่างไม่ทราบ ไม่อย่างนั้นคงจะตกใจจนแทบตาหลุดเหมือนกับกรณีของอาหู่

เนื่องจากสตรีนางนี้ยอมเป็นบ่าวรับใช้เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูก

ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋จะปฏิบัติกับนางในฐานะลูกศิษย์ในนามของเสวี่ยชูฉิงก็ตาม แต่จนใจที่เสี่ยวอ้ายไม่ได้คิดเช่นนั้น

ดังนั้นภายในของเขากว่างเฉิงจึงได้แต่มองปรมาจารย์ค่ายกลที่อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นเก้า ขั้นรูปญาณระยะท้ายนางนี้ ติดตามอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ คอยเรียกเขาว่า ‘คุณชาย’ ไม่ขาดปาก อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเอาแต่มองบุรุษรูปงามในสำนักพร้อมกับน้ำลายไหลอย่างจนปัญญา

ที่ครั้งนี้เสี่ยวอ้ายเข้าฌาน ก็เพราะต้องการทำลายคอขวด เพื่อเลื่อนระดับ

ถ้าหากสำเร็จ เขากว่างเฉิงจะมีมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมเพิ่มมาอีกคน

นอกจากนี้ยังเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม ที่หากยึดตามอายุแล้ว ยังสาวจนทำให้ทุกคนรู้สึกคับข้องใจอีกด้วย

ลูกศิษย์เขากว่างเฉิงที่ขึ้นมาจากโลกแปดพิภพ ซึ่งเดิมทีกราบเข้าเขากว่างเฉิง ได้เห็นและได้ยินเส้นทางการเติบโตของเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองคนอยู่ตลอดยังพอว่า

มีคนในโลกซ้อนโลกไม่กี่คนที่หลายปีมานี้กราบเข้าเขากว่างเฉิง ได้รับการกระทบกระเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า

หากเป็นหนึ่งคนสองคนยังพอว่า ไฉนเขากว่างเฉิงแห่งนี้จึงมีแต่บุคคลระดับปีศาจเต็มไปหมด

นี่เป็นสำนักที่ผงาดขึ้นมาจากโลกเบื้องล่างจริงๆ หรือ

ถึงแม้จะกราบเข้าสำนักเพราะอิจฉาในชื่อเสียง แต่ทุกคนก็ต้องสับสนงงงวย

หลังจากความตกตะลึงในตอนแรก สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือความนับถือและความรู้สึกโชคดี

สามารถกราบเข้าสำนักเช่นนี้ได้ อนาคตของตนจะต้องสว่างไสวแน่นอน

พวกเยี่ยนจ้าวเกอและหยวนเจิ้งเฟิงต่างรู้สึกยินดีต่อเรื่องนี้

ตอนนี้เขากว่างเฉิงยังไม่ได้เปิดสำนักรับลูกศิษย์อย่างเป็นทางการ เพราะยังคงอยู่ในช่วงตระเตรียมสั่งสม รอถึงวันที่เปิดสำนักอย่างเป็นทางการ คาดว่าคงจะเกิดปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่แน่นอน

‘รอหลังจากท่านพ่อหรือไม่ก็เรา มีใครสักคนก้าวสู่ขั้นสะพานเซียน เวลาก็สมควรใกล้จะสุกงอมแล้ว’

เยี่ยนจ้าวเกอนั่งอยู่บนหลังพ่านพ่าน ทางหนึ่งเดินทาง ทางหนึ่งใคร่ครวญ

ก่อนหน้านี้เขาถามสือจวินแล้วว่าไปได้แส้ปัดหักครึ่งนั้นมาจากที่ไหน ตอนนี้ตนจึงมีแผนการ รุดไปยังทิศตะวันออก

พ่านพ่านยามนี้มีพลังไม่ธรรมดา พลังเท้าแข็งแกร่ง กอปรด้วยความเร็ว แม้ระยะทางจะยาวไกลถึงหมื่นลี้ แต่ใช้เวลาแค่พริบตาเดียวก็ไปถึงแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี