ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 944

อีกาทองสามขา หรืออีกาทองอาทิตย์ ว่ากันว่าเป็นโอรสของเทพเฮ่าเทียน เป็นปีศาจที่อยู่ในทิศเพลิงหลี

มันเป็นตัวตนที่อยู่ในระดับเดียวกับหงส์เพลิง มังกรแท้ กิเลน และคุนเผิง

บนโลกลอยน้ำมีอีกาอัคคี เป็นญาติของอีกาทอง แต่ก็ยังไม่ใช่ทายาทของอีกาทองอย่างแท้จริง เพียงแต่เป็นเลือดผสมในเลือดผสม กระนั้นก็มีความสามารถในการเผาฟ้าต้มทะเลเหมือนกัน

ทว่าเมื่อเทียบกับอีกาทองสามขาที่แท้จริงแล้ว กลับด้อยกว่ามาก

เมื่อเติบโตจนตัวเต็มวัย อีกาทองสามขาที่มีเลือดบริสุทธิ์และฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุด จะกลายร่างเป็นดวงอาทิตย์ที่เทียบได้กับดวงอาทิตย์ของจริง ไม่ใช่ตัวตนในโลกมนุษย์อีก

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจอีกาทองสามขายิ่ง เนื่องจากอสูรเทพชนิดนี้คล้ายกับสูญพันธุ์ไปหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่แล้ว

เผ่ามังกรแม้จะเหลือน้อยนิด แต่หลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็ยังคงมีอยู่ แต่อีกาทองกลับมีข่าวแพร่หลายอยู่น้อยยิ่ง

กระนั้นเงาแสงอีกาทองในตอนนี้ กลับไม่ใช่อีกาทองของจริง

เขาสามขา ที่ราบสูงยอดขจี เขตตะวันอาคเนย์

ความลี้ลับของคัมภีร์อีกาทองผลาญโลก วิชาวรยุทธ์ของพวกเขา มีจิตจริงแท้ของพลังแห่งอีกาทองอาทิตย์

วรยุทธ์ชนิดนี้เป็นสิ่งที่ขุมกำลังซึ่งมีชื่อว่าหุบเขาอีกาทองครอบครองไว้ ตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่แล้ว

หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ บูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักของเขาสามขาได้รับคัมภีร์อีกาทองผลาญโลกฉบับชำรุดมาโดยวาสนา และใช้มันสร้างรากฐานของเขาสามขาในตอนแรกสุด

ต่อมาคัมภีร์ชำรุดได้รับการเสริมปรับ เขาสามขาจึงกลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดบนที่ราบสูงยอดขจี สร้างชื่อขึ้นมาในเขตตะวันอาคเนย์

เงาแสงอีกาทองสามขาที่อยู่ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ อยู่ใต้การห้อมล้อมของแสงสีขาว เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างปราณมารทมิฬที่หนาแน่น หลบหลีกหมอกสีดำที่เหมือนกับน้ำหมึกหลายสายอย่างต่อเนื่อง

‘อืม คล้ายกับไม้ตายก้นกุฎิอยู่บ้าง’ เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพเบื้องหน้าพร้อมกับเลิกคิ้วเล็กน้อย

ภายใต้การห้อมล้อมของปราณมารทมิฬ ราวกับยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ารุมโจมตี

แม้ว่าจะไม่รวดเร็วปราดเปรียวมากพอ แต่พลังทำลายล้างของหมอกสีดำก็น่าทึ่งอย่างแท้จริง

ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนส่วนใหญ่ แค่แตะถูกก็ได้รับบาดเจ็บ หากโดนใส่เต็มๆ ก็จะเสียชีวิต

ปราณมารปีศาจหนาแน่นเกินไป คิดจะเคลื่อนไหวอยู่ในนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

ว่ากันว่าเจ้าสำนักเขาสามขาเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง

แม้ว่าคัมภีร์อีกาผลาญโลกจะน่าอัศจรรย์ล้ำเลิศ และมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยคุ้มครองสำนัก แต่คิดจะผ่านปราณมารทมิฬ มีสิทธิ์รอดหนึ่งส่วน ตายเก้าส่วน

กระนั้นพอเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจอีกาทองตัวนั้น แม้มันจะเคลื่อนไหวอย่างเนิบนาบเชื่องช้า แต่ก็รุดหน้าไปอย่างต่อเนื่อง

มีแรงกดดัน แต่ก็รับมือได้อย่างอิสระ

นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกออดเกิดความสนใจไม่ได้

เขาเร็วยิ่งกว่าคนของเขาสามขา เริ่มจะไล่ตามทันแล้ว

นอกจากนี้เขาก็สัมผัสได้จากการนำทางของแส้ปัดนั้นเช่นกัน ว่าในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็บรรลุถึงจุดหมายแล้ว!

หลังจากเงาแสงอีกาทองสัมผัสได้ว่ามีคนไล่ตามหลัง มันก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว เพียงพุ่งลงไปด้านล่าง

มันแหวกเปิดปราณมารทมิฬมากมาย ร่อนไปถึงด้านบนผิวทะเลเบื้องล่าง

น้ำทะเลสีขาวหิมะของทะเลรกร้าง เดิมทีก็เป็นสิ่งที่อันตรายถึงขีดสุดอยู่แล้ว

คนที่มีพลังฝึกปรือต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุข หากหาญก้าวเข้าไปด้านใน กระดูกและเนื้อจะมลายกลายเป็นเลือดในเวลาไม่นาน

ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาในทะเลรกร้างจึงยินดีเผชิญกับปราณมารทมิฬ และเพลิงทมิฬฟ้ารกร้างมากกว่าการลงไปบนผิวทะเล

ทว่าในตอนนี้ บนผิวของทะเลรกร้างปรากฏวังวนขนาดยักษ์กลุ่มหนึ่ง ใจกลางวังวนเชื่อมลงไปถึงก้นทะเล

ณ ที่แห่งนั้นเป็นความมืดลึกล้ำแถบหนึ่ง พร่าเลือนไม่ชัดเจน ทำให้คนยากจะตรวจสอบสถานการณ์ด้านใน

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เส้นสีขาวที่ยืดออกมาจากแส้ปัดหักครึ่งในมือ กำลังชี้ไปที่ความมืดซึ่งคล้ายกับลึกจนไม่เห็นบ่อตรงใจกลางวังวน

และในเงาแสอีกาทองนั้น ก็มีเส้นสีขาวเส้นหนึ่ง ชี้ไปที่ก้นวังวนเช่นกัน

เขาส่ายหน้า ในดวงตาสองข้างปรากฏประกายกระบี่สีแดงกะพริบขึ้น

ภายใต้ความคมกล้าของกระบี่ลวงเซียนซึ่งทำลายมิติ หมอกขาวตรงหน้าพลันเริ่มสลาย

พอออกเดินอีกครั้ง หนทางข้างหน้าก็เริ่มสะดวกขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอเดินขึ้นเขาไป เพียงครู่เดียวก็บรรลุถึงเบื้องหน้าอารามแห่งนั้น

เยี่ยนจ้าวเกอหยุดเคลื่อนไหว ก่อนจะเห็นป้ายเกรอะฝุ่นตกอยู่ด้านนอกประตูใหญ่ของอาราม

ชายหนุ่มเป่าลมให้ฝุ่นกระจายออก เผยผิวป้ายที่เต็มไปด้วยด่างดวง ด้านบนมีตัวหนังสือเขียนว่า “อารามเอกนิกาย”

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน…” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ

เป็นคนสร้างขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หรือซ่อนเร้นไว้ตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่

ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ขุมกำลังใหญ่ๆ ในจักรวาลได้รับการเก็บบันทึกไว้ในหอหนังสือวังเทพแทบจะหมดสิ้น

มีเพียงแต่การสืบทอดสายสามพิสุทธิ์เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น แม้ว่าการสืบทอดส่วนใหญ่ในนี้ หอเทพล้วนรู้จัก แต่ว่าในกาลเวลาอันยาวนานก็มีการแตกกิ่งก้านสาขา มักมีตัวตนที่ซ่อนตัว ไม่มีใครรู้อยู่ด้วย

เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว เขาเดินไปทางซ้ายของประตูอาราม หลังจากวนอ้อมได้สักระยะหนึ่ง ชายหนุ่มก็ยืนอยู่บนเขาแล้วก้มมองลงไป

เขาเห็นกลางเขาตรงทิศทางนี้มีแสงสีทองกะพริบอยู่ในหมอกสีขาว คล้ายกับดวงอาทิตย์กำลังขึ้น

เป็นคนจากเขาสามขา

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายเทียบไม่ได้กับเยี่ยนจ้าวเกอที่ครองกระบี่ลวงเซียน จึงถูกเขาแซงหน้ามาได้เช่นนี้

คนของเขาสามขาเงยหน้ามองอาราม เห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ยืนอยู่ด้านข้างอาราม

พวกเขาสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน

น่าเสียดายนัก ถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาดูเหมือนจะไม่ไกล แต่เพราะผลของหมอกขาว กลับห่างกันราวฟ้ากับเหว

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี