อีกาทองสามขาปรากฏกาย แสงอาทิตย์ส่องระยิบระยับ
สายตาของมันอดตกลงบนตราประทับตะวันที่อยู่เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้
ใต้หล้ายิ่งใหญ่ มีคนร้ายกาจมากมาย หลักการวรยุทธ์ที่คล้ายกันหรือเหมือนกัน มักจจะมีการสืบทอดไม่ต่ำกว่าหนึ่ง
ในสถานการณ์เช่นนี้ มักจะไม่เกิดความรู้สึกว่าใกล้ชิดกัน
ในทางตรงกันข้าม ขุมกำลังแต่ละขุมกำลังจะแบ่งความแข็งแกร่งอ่อนแออย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นโดยมากแล้วจะไม่มีใครยอมใคร คิดว่าตัวเองต่างหากถึงเป็นสำนักหลัก ส่วนที่เหลือเป็นพรรคนอกรีต ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงไม่ปรองดองกัน
พระอาทิตย์ ในฐานะหนึ่งในเก้านพเคราะห์ และเป็นดวงอาทิตย์บนฟากฟ้าที่เห็นได้บ่อยที่สุด ละลานตาที่สุด ย่อมมีคนไม่น้อยที่ศึกษา
ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณ หุบเขาอีกาทองหรือแม้แต่สำนักประกายกาฬ ก็มีการศึกษามันเช่นกัน
เมื่อเทียบกัน ขณะที่สำนักประกายกาฬศึกษาความลี้ลับของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ หลักๆ แล้วได้แก่นแท้แสงสว่างของพวกมันไปมากกว่า
หากบอกว่าเป็นการวิเคราะห์ดวงอาทิตย์ มิสู้บอกว่าเป็นการวิเคราะห์ความหมายแท้จริงของแสงสว่างจะดีกว่า
คัมภีร์อีกาทองผลาญโลกของหุบเขาอีกาทอง เอนเอียงไปทางความน่ากลัวของการลุกไหม้ตลอดกาลของดวงอาทิตย์ ที่เมื่อถึงขีดสุดแล้วจะสามารถเผาฟ้าเผาดินได้
การสืบทอดวรยุทธ์ของพวกเขา นอกจากการวิเคราะห์ปราณหยางของดวงอาทิตย์แล้ว ยังมีลมปราณธาตุไฟด้วย
เทียบกันแล้ว ตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณจะอยู่ตรงกลาง วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์
ต่อมาคัมภีร์เทพพระอาทิตย์ที่ใช้คัมภีร์อาทิตย์ไร้ประมาณเป็นรากฐาน และเกิดตามมาทีหลัง ก็มีความล้ำลึกและมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า
ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หุบเขาอีกาทองกับตำหนักอาทิตย์ไร้ประมาณไม่ลงรอยกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
ส่วนเขาสามขาในปัจจุบันที่แม้จะได้รับการสืบทอดจากหุบเขาอีกาทอง แต่ก็เอนเอียงไปทางคัมภีร์เทพพระอาทิตย์มากกว่า
เพียงเพราะบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยพวกเขาเสริมคัมภีร์อีกาทองผลาญโลก กล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจหนึ่งประโยคว่า
‘คัมภีร์อาทิตย์ไร้ประมาณยังพอว่า คัมภีร์เทพพระอาทิตย์กับคัมภีร์หยางสุดขีดสร้างโลก ไม่ใช่สมบัติที่มีค่าสำหรับพวกท่านเท่าไร’
ตอนนี้พอเห็นตราประทับตะวันบนศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ สายตาของคนจากเขาสามขาก็สั่นไหวทันที
‘ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ตามคำชี้แนะของคุณชาย ผนึกป้องกันของที่แห่งนี้มีสามภัยพิบัติ ตอนนี้บัวอัคคีสีทองเหล่านั้นเป็นภัยพิบัติที่สามแล้ว’ มีคนส่งกระแสเสียง กล่าวกับชายชราที่นำหน้าว่า ‘ด้านหลังไม่มีภัยพิบัติใดอีกแล้ว หลังจากเข้าไป จะเป็นใจกลางของอารามอย่างแท้จริง’
ชายชราที่นำหน้าเป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขาสามขา ไว้เคราแพ้ ใบหน้าเป็นสีทองจางๆ
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ไกลออกไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่ได้กล่าววาจา
คนด้านข้างกล่าวต่อว่า “คนผู้นี้8nvเยี่ยนจ้าวเกอจากเขากว่างเฉิง ว่ากันว่าเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน มีพลังแข็งแกร่งถึงขีดสุด ตอนนี้พอดูแล้ว เป็นเช่นนั้นจริงๆ”
“สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เขายังมีตราประทับตะวันอยู่กับตัว ตอนข้าเห็นกระบี่ในมือเขา แม้จะสู้ตราประทับตะวันไม่ได้ แต่ก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่แข็งแกร่งถึงขีดสุด…”
เขาพูดถึงตรงนี้ ชายชราผู้นั้นก็เอ่ยอย่างราบเรียบว่า “กระบี่เล่มนั้น เมื่อเทียบกับดาบอีกาทองผลาญฟ้าของพรรคเราแล้ว เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่า”
จอมยุทธ์เขาสามขาที่อยู่รอบๆ ขมวดคิ้ว
คนที่พูดก่อนหน้าผู้นั้นผงกศีรษะ กล่าวต่อ “ครั้งนี้แม้เราจะนำธงวิญญาณมาด้วย แต่ก่อนหน้านี้เสียพลังในทะเลรกร้างไปเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าข้าต้องการลดทอนความฮึกเหิม ทำลายความน่าเกรงขามของฝ่ายตัวเอง แต่พวกเราใช่ว่าจะแย่งชิงจากเยี่ยนจ้าวเกอนั่นได้”
วาจาพอเอ่ยออกมา ในใจคนจากเขาสามขาก็เกิดความอึดอัด
แต่พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอทำลายผนึกป้องกันของที่แห่งนี้ได้อย่างปลอดโปร่งไร้อุปสรรค ทั้งยังมีของวิเศษอยู่ในมือ ไร้ข้อกริ่งเกรงใด สติของพวกเขาก็บอกกับตัวเองว่า คนหนุ่มตรงหน้านี้สามารถอธิบายได้ด้วยคำคำเดียว
น่ากลัว!
“เช่นนั้นเจ้าว่าควรทำอย่างไร หรือพวกเราจะหันกลับไปเช่นนี้” มีคนพูดอย่างไม่พอใจ
กระนั้น ไม่ทันไรสีหน้าของคนผู้นี้ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “รอเดี๋ยว หรือเจ้าคิดจะ…”
จอมยุทธ์เขาสามขาที่เอ่ยวาจาเป็นคนแรกสุดลดเสียง “ว่ากันว่าเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้กับฟู่ถิงแห่งยอดเขาอัศจรรย์สนิทสนมกัน คุณชายรองไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี