เยี่ยนจ้าวเกอมีวิธีมากมายในการรับมือพลังที่รักษาไว้ได้ไม่นาน และปล่อยออกมาได้แค่ชั่วคราวของเศษวิญญาณอีกาทอง
อย่างเช่น เขาสามารถใช้กระบวนท่าถ่วงเวลาเคี่ยวกรำคนจากเขาสามขาอย่างช้าๆ ได้
เวลาเยี่ยนจ้าวเกอลงมือกับคน เขามักรุนแรงดุจสายฟ้า ตัดสินผลแพ้ชนะในเวลาสั้นๆ ไม่ใช่ศัตรูม้วยก็ข้าสิ้น
หากชนะก็เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นการบดขยี้
ถ้าหากแพ้ ก็จะสูญเสียโอกาสพลิกกระดาน
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาสู้แบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เป็น
แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นเทวะสำแดง แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่ฝึกฝนวรยุทธ์มากมายเช่นคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต คัมภีร์พลิกฟ้า คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด เมื่อพูดถึงความเปี่ยมล้นของญาณจริงแท้ และความเร็วในการฟื้นฟูลมปราณแล้ว ในหมู่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ต่ำกว่าระดับประมุข มีน้อยคนนักที่จะสู้ได้เขาได้
เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้มีนิสัยชอบวิธีการต่อสู้ที่ป้องกันถึงเพียงนั้น แต่ถ้าหากจำเป็นจริงๆ เขาก็ยินดีใช้
ในการเผชิญกับจอมยุทธ์เขาสามขาตรงหน้า การใช้ ‘เคล็ดวิชา’ ถ่วงเวลา ค่อยๆ เคี่ยวกรำพลังของอีกฝ่ายย่อมมีประสิทธิภาพสูงสุด
คัมภีร์อีกาทองผลาญโลกซึ่งเป็นการสืบทอดของเขาสามขาโดดเด่นยิ่ง เจ้าสำนักเขาสามขาเองก็มีพลังไม่ธรรมดา มาตรแม้ว่าจะสู้หลงฮั่นหัวและเฉิงโม่ไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงกับผู้วิเศษเซิงในตอนนั้น
แต่ถ้าหากไม่มีเศษวิญญาณอีกาทอง พลังของเขาจะลดฮวบลง
แสดงให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เศษวิญญาณอีกาทองก็จะสลายไป
ก่อนหน้านี้แค่ปกป้องคนจากเขาสามขาให้เข้ามาในทะเลรกร้าง ก็สูญเสียพลังไปมากแล้ว
กระนั้น เยี่ยนจ้าวเกอกลับมีความคิดอื่น
เขารู้สึกสนใจเศษวิญญาณอีกาทองตัวนี้ยิ่ง
กระบี่ปีศาจเทาเที่ยวาดวงกลางอากาศ แต่เป้าหมายกลับไม่ใช่อีกาทองอาทิตย์ที่พุ่งเข้ามาอย่างหักโหม
วงแสงสีดำที่เปล่งประกายสีขาว ขยายออกไปรอบๆ โดยมีเยี่ยนจ้าวเกอเป็นศูนย์กลาง
บัวอัคคีสีทองที่กระจายไปทั่วพื้นที่นั้น เดิมทีมีแค่บัวทองซึ่งอยู่ใกล้เยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้นที่ระเบิดกลายเป็นทะเลเพลิง ส่วนบัวทองที่อยู่ห่างออกไปยังคงสงบนิ่ง
แต่ว่าพอตอนนี้ถูกประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอกวาดใส่ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกล บัวทองอัคคีก็ระเบิดอย่างพร้อมเพรียง!
เปลวเพลิงสีทองที่บ้าคลั่งกลายเป็นโลกเปลวเพลิงไร้ขอบเขต ห้อมล้อมเยี่ยนจ้าวเกอและอีกาทองอาทิตย์ไว้ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอที่มีตราประทับตะวัน หรือว่าอีกาทองสามขาที่เหมือนกับกลายร่างเป็นดวงอาทิตย์ตัวนั้น ในตอนนี้ต่างรู้สึกได้ถึงความร้อนที่สุดจะทานทน
“เขาบ้าไปแล้วหรือ?!” คนจากเขาสามขาอ้าปากตาค้าง “คิดจะตายไปด้วยกันหรือไร”
แม้หากบอกว่าคนที่เผชิญความสิ้นหวัง มักจะมีตัวเลือกเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีโอกาสรอดชีวิตแม้เพียงเสี้ยวเดียว ไหนเลยจะเลือกการกระทำที่คลุ้มคลั่งเช่นนี้!
นี่เพิ่งจะประมือกันเท่านั้น ไฉนคนหนุ่มตรงหน้าถึงเลือกวิธีการตกตายร่วมกันเป็นกระบวนท่าแรก
อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ยังเยาว์อย่างเขา ควรจะมั่นใจในพลังฝึกปรือของตัวเอง ลองรับมือกับศัตรูดูก่อน แต่หากอับจนหนทางค่อยลองวิธีนี้ดูหรอกหรือ
ทว่าดูจาภสภาพการณ์ในตอนนี้ เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอรอพวกเขาเข้ามาหา จากนั้นก็จะฉุดลากพวกเขาให้ตกตายร่วมกันอย่างไรอย่างนั้น
“คิดจะสร้างสถานการณ์ข่มขู่หรือ” เจ้าสำนักเขาสามขาแค่นเสียง “ท่านไร้เดียงสาเกินไป!”
เขาไม่สนใจความประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และความน่ากลัวของทะเลเพลิงสีทองตรงหน้า
เขาเพิ่มแรงบนสองมือที่สะบัดดาบด้ามยาวมากขึ้น โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างรวดเร็วและดุดันกว่าเดิม!
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็หัวเราะเหอะๆ
เขาเก็บกระบี่ปีศาจเทาเที่ยไว้ในหีบกระบี่ แล้วมอบตราประทับตะวันให้อาหู่ที่อยู่ด้านข้าง
ชายหนุ่มกางสองมือออกทั้งซ้ายแลขวา แต่ละข้างมีของชิ้นหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
ด้านหนึ่งเป็นตราโบราณโลหะ รูปทรงเรียวยาว เป็นสี่เหลี่ยมจุตรัส เหมือนกับกระบี่สั้นที่ไร้คม ด้านบนทู่แบน สลักรอยตรา
อีกด้านหนึ่งเป็นกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าท่อนหนึ่ง ยาวเจ็ดฉื่อ แบ่งเป็นเจ็ดปล้อง แม้ภายนอกจะมีแสงสีม่วงจางวนเวียน แต่ก็ดูปกติไม่มีสิ่งใดผิดแผก
เยี่ยนจ้าวเกอทิ่มตราโบราณที่เหมือนกับกระบี่สั้นในมือซ้ายใส่อากาศเบาๆ
พอถูกตราประทับนั้นประทับใส่ อีกาทองสามขาตรงหน้าก็ร้องเสียงต่ำ หุบปีกลงเหมือนกับเหนื่อยล้า แสงสว่างริบหรี่ ถึงกับกลับเข้าไปในธงวิญญาณนั้นอีกครั้ง
คนจากเขาสามขาล้วนงงงัน
เมื่อสูญเสียการหนุนเสริมจากเศษวิญญาณอีกาทอง การโจมตีของเจ้าสำนักเขาสามขาผู้นั้นแม้จะยังคงดุดันล้ำเลิศ แต่ก็ไม่ได้ทรงอานุภาพเท่าก่อนหน้าอีกแล้ว
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็ยกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือขึ้น ควงเป็นวงแล้วฟาดใส่ดาบอีกาทองผลาญฟ้า ซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของอีกฝ่าย
เขาหัวเราะเล็กน้อย พร้อมกับเก็บตรากระบี่กาลเวลา ในมือมีของสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
เป็นขนสีดำสนิทที่เปล่งแสงสีทองเส้นหนึ่ง
พอเห็นของสิ่งนั้น ใบหน้าของคนจากเขาสามขาก็บิดเบี้ยวทันที!
ของสิ่งนี้ พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ขนทองของเทพอีกา!
ขนของอีกาทองสามขา อีกทั้งยังไม่ใช่ขนของอีกาทองทั่วไป แต่เป็นหนึ่งในขนสามเส้นตรงศีรษะของอีกาทอง ลี้ลับและล้ำค่าที่สุด
นี่คือสินสงครามที่เยี่ยนจ้าวเกอได้มาจากการทำลายสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เมื่อครั้งยังอยู่ในโลกแปดพิภพ มาจากสำนักแสงสว่าง
หลายปีมานี้ เขากำลังหาวิธีใช้อย่างเหมาะสมมาโดยตลอด จึงเก็บเอาไว้
ตอนแรกคิดจะใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อหลอมกับของล้ำค่าอย่างอื่นในตอนที่สร้างของวิเศษบางชิ้น
แต่ว่าวันนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับเจอโอกาสเหมาะแล้ว!
เขางอนิ้วดีดออก ขนทองของเทพอีกาในมือกลายเป็นแสงสว่างสีดำผสมทอง พุ่งใส่คนจากเขาสามขา
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็สูดหายใจลึก ทิ่มดัชนีหยินหยางออกเฉียงๆ
เนิบนาบอย่างไม่เคยมีมาก่อน ผนึกแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เป็นดัชนีหยินหยางที่แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนคัมภีร์นภาหยินหยางมา!
ภายใต้หนึ่งดัชหนี หยินหยางไหลเวียนกลับด้าน
พอถูกขนทองของเทพอีกาและพลังดัชนีของเยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้น เศษวิญญาณอีกาทองที่เมื่อครู่ถูกตราประทับกาลเวลาประทับใส่จนตกอยู่ในการหลับไหล ก็เริ่มเคลื่อนไหวในธงวิญญาณ ทำให้มันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
หนึ่งมาหนึ่งไป เปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด
คนจากเขาสามขายังไม่ทันยินดี ก็เห็นในทะเลเพลิงสีทองมีลูกไฟหลายสายพุ่งขึ้น กลายเป็นพิรุณเพลิงครอบฟ้าครอบดิน
หลังจากถูกดัชนีหยินหยางและขนทองของเทพอีกาของเยี่ยนจ้าวเกอเหนี่ยวนำ เปลวเพลิงสีทองก็เหมือนกับมีเป้าหมาย ตกลงใส่คนจากเขาสามขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี