ถ้าหากผู้ที่อารามเอกนิกายบูชาที่ตำหนักหลังคือเทวรูปของเทวกษัตริย์เต๋า เช่นนั้นหากจะวิเคราะห์ว่าที่นี่เป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์หรือไม่ ก็ต้องดูของเซ่นไว้บนโต๊ะบูชา
เพราะว่านอกจากการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์แล้ว โดยทั่วไป การสืบทอดของสำนักเต๋ามีสักเก้าส่วนที่บูชาเทวกษัตริย์เต๋า
แต่ว่าผู้ที่ตำหนักหลังบูชาเป็นเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ จึงไม่ต้องสงสัยว่าอารามเอกนิกายแห่งนี้จะต้องเป็นสำนักผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์อย่างแน่นอน
เยี่ยนจ้าวเกอออกจากตำหนักหลัง เดินอยู่ในอาราม
ที่นี่ล่มสลายลงแล้วจริงๆ ทุกที่มีแต่กลิ่นอายเก่าแก่ทรุดโทรม
ชายหนุ่มเดินวนรอบๆ เห็นโครงกระดูกของคนรุ่นก่อนไม่ต่ำกว่าหนึ่งโครง
เขาถอนใจเสียงหนึ่ง ก่อนเงยหน้ากวาดสายตามองรอบๆ ‘เป็นสำนักที่อยู่มาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่จริงๆ’
ลูกศิษย์อารามเอกนิกายที่เสียชีวิตลงที่นี่ ไม่ใช่เพราะถูกคนบุกมาเข่นฆ่า
วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในอดีต ทำให้จักรวาลถูกทำลาย
คลื่นคลั่งที่น่ากลัวส่งผลกระทบต่อมิติต่างแดนและโลกที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย
แม้ว่าอารามเอกนิกายจะไม่ได้ล่มสลายลงโดยสิ้นเชิง แต่ว่าคนที่อยู่ในนี้กลับถูกบดขยี้จนตาย
ยอดฝีมือระดับสุดยอดของที่นี่ ดูเหมือนในตอนนั้นจะไม่ได้อยู่ด้วย เหลือแต่คนที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ ที่นี่เลยกลายเป็นที่ฝังกระดูกของพวกเขา
กาลเวลาอันยาวนานไหลเวียน ผนึกป้องกันของที่แห่งนี้เริ่มทำงานอีกครั้ง แต่คนตายกลับไม่อาจฟื้นมาได้
สถานการณ์ที่คล้ายกันมีให้เห็นไม่น้อย
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ผู้คนเจริญเติบโตและฟื้นฟูกลับมาดังเดิม ต่างพากันขุดค้นโบราณสถานของคนรุ่นก่อน จากนั้นก็เริ่มการพัฒนา
ในการขุดค้น ก็สามารถเห็นซากอัฐิของคนรุ่นก่อนได้บ่อยๆ
ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอยังเป็นคนรุ่นหลังอยู่ในโลกแปดพิภพ เขาเคยเข้าไปในโบราณสถานแห่งหนึ่ง โดยการนำของผู้อาวุโสในสำนัก และเห็นฉากเช่นนี้ด้วย
‘ผู้ที่จากไปได้พักอย่างสงบแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอขณะเดินอยู่ ด้านหน้าก็ปรากฏศาลบรรพบุรุษขนาดใหญ่โต
ครั้นเขาเข้าไปด้านในนั้น ก็เห็นมีการบูชาป้ายวิญญาณมากมาย คาดว่าน่าจะเป็นบรรพบุรุษในแต่ละรุ่นของอารามเอกนิกาย
ด้านบนสุดมีป้ายวิญญาณที่ถูกบูชาไว้ลำพัง สลักชื่อว่า ‘บูรพาจารย์นักพรตเต๋า หยวนคัง ผู้สืบทอดที่แท้จริงแห่งเชิงเสวียนสายเหนือพิสุทธิ์’
พอเห็นป้ายวิญญาณนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ‘ผู้สืบทอดที่แท้จริงแห่งเซิงเสวียนสายเหนือพิสุทธิ์…เช่นนั้นก็หมายความว่า เป็นลูกศิษย์รุ่นที่สามซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายตรงแห่งเหนือพิสุทธิ์ เป็นลูกหลานที่แท้จริงของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษหรือ’
‘แต่ไม่เคยได้ยินว่าในหมู่ลูกศิษย์รุ่นที่สามสายเหนือพิสุทธิ์ มีผู้ที่ชื่อว่านักพรตหยวนคังหรือนักพรตเต๋าหยวนคัง ทว่าเทวกษัตริย์รัตนวิเศษเปิดประตูกว้างขวาง สั่งสอนทุกสรรพสัตว์ หมื่นเซียนมาคารวะ ในสำนักจะมีนักพรตหยวนคังหรือไม่ กลับยังบอกไม่ได้’
เรื่องเล่าที่แพร่หลายที่สุดในสามพิสุทธิ์เกิดขึ้นมานาน จนแทบกลายเป็นเทพปกรณัมไปแล้ว
หลายสิ่งหลายอย่างล้วนถูกคนรุ่นหลังเสริมเติมแต่ง
แม้จะเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้จัก แต่จนถึงปัจจุบันก็ยากจะแยกแยะจริงปลอมแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอเดิมทีไม่ได้สนใจมากนัก ทว่าในตอนที่เขาสำรวจเอกสารบันทึกส่วนหนึ่งด้านในศาลเจ้าของอารามเอกนิกายแล้ว สีหน้าก็แปลกพิกลกว่าเดิมอย่างควบคุมไม่ได้
เพราะตามบันทึก นักพรตหยวนคัง บูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งอารามเอกนิกาย คือลูกศิษย์ที่เทวกษัตริย์วิเศษคณานับถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเอง
เทวกษัตริย์วิเศษคณานับ มีชื่อว่านักพรตตัวเป่า
ศิษย์ใหญ่ลัทธิเจี๋ยเจี้ยวในตำนานสถาปนาเทพ ผู้เป็นเอกในบรรดาศิษย์ของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ บรมครูสายเหนือพิสุทธิ์
ในประวัติศาสตร์สำนักเต๋า เทวกษัตริย์วิเศษคณานับเป็นคนที่บรรลุค่ายกลลงทัณฑ์เซียนนอกจากเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ และได้วางค่ายกลแทนผู้เป็นอาจารย์ ต้านทานเหล่าเซียนจากสำนักหยกพิสุทธิ์
ปัจจุบันต่างสรรเสริญกันว่า ในบรรดาผู้ฝึกกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามของประวัตศาสตร์สำนักเต๋า นักพรตตัวเป่าเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งยังเหนือกว่าหยกโปหยินและจักรพรรดิจื่อเวย
เพียงแต่ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ข่าวคราวของผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของสำนักเต๋าผู้นี้ค่อยๆ หายไปแล้ว
ตำนานที่เกี่ยวกับเขามีอยู่ไม่น้อย
จากความทรงจำก่อนหน้านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาเคยเห็นนักเขียนนิยายเขียนเกี่ยวกับตอนที่เทวกษัตริย์กว่างเฉิง ศิษย์เอกของสายหยกพิสุทธิ์สู้กับเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ โดยบรรยายไว้ว่า ‘องค์หนึ่งคือกว่างเฉิงผู้มีร่างเทพเซียนไม่แก่ชรา อีกองค์คือตัวเป่าแห่งประจิมผู้กลายเป็นพระยูไล’
ต่อมาแม้นจะไม่ได้มีการกล่าวอย่างแน่ชัด แต่ดูเหมือนมีการบอกเป็นนัยๆ ว่า นักพรตตัวเป่าคือองค์ยูไลแห่งเขาหลิงซาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี