ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 957

เยี่ยนจ้าวเกอนั่งอยู่บนหลังพ่านพ่าน ออกมาจากทางเชื่อมเขตแดน พอเห็นสภาพแวดล้อมด้านนอกชัดเจน เขาก็อดรู้สึกยินดีไม่ได้

เพราะตอนนี้จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิหลายคน กำลังกลุ้มรุมผู้อาวุโสเขาสามขาสองคน

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิหลายคนแม้นว่าจะอยู่ในขั้นเทวะสำแดง แต่ว่าข้อแรกเป็นเพราะพวกเขาร่ำเรียนวรยุทธ์มาอย่างล้ำลึก ข้อสองเพราะผู้อาวุโสจากเขาสามขาสองคนถูกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานจนได้รับบาเจ็บสาหัสก่อนหน้านี้

ดังนั้นคนจากเนินต้นจักรพรรดิจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบ

กระนั้นหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองฝ่ายก็หยุดมือ

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิที่เฝ้าอยู่ที่นี่มองมาทางเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าพวกเขาจะหยิ่งทะนง ในสายตามีแค่ยอดเขาอัศจรรย์และเขาโถงทอง ไม่ให้ความสำคัญกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงเหมือนกับจวงเจาฮุยที่ตายไปแล้ว

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอสังหารสหายในสำนักของพวกเขา จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิต่างจดจำรูปร่างหน้าตาของเขาไว้ขึ้นใจ ไม่มีทางจำผิด

พวกจวงเจาฮุยเข้าไปในที่อยู่ของอารามเอกนิกายแต่ไม่ออกมา กลับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอโผล่มาแทน นี่ทำให้จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิแตกตื่นสงสัย

หลังจากงงงันอยู่ชั่วขณะสั้นๆ หลายคนก็โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน!

ประมุขทักษิณจวงเซินมีคำสั่งมาตั้งแต่แรก ว่าหากเยี่ยนจ้าวเกอกล้าเหยียบย่างเข้ามาในเขตเพลิงทักษิณ ให้สังหารทิ้งโดยไม่ปราณี และจอมยุทธ์ในเขตเพลิงทักษิณสามารถลงมือได้ทั้งสิ้น

มิพักเอ่ยถึงยอดฝีมือคนอื่นๆ ในเขตเพลิงทักษิณ เนินต้นจักรรรพดิแห่งเขาลีลาหงส์เป็นสำนักของประมุขทักษิณจวงเซิน ย่อมทำตามคำสั่งของเจ้าสำนักอย่างเคร่งครัด ลงมืออย่างไม่เกรงใจ

เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิบนหลังพ่านพ่าน ร่างกายเดิมทีไม่เคลื่อนไหว เพียงยื่นมือขวาออกมา

เขาเพียงพลิกฝ่ามือเท่านั้น แต่ในสายตาของจอมยุทธ์จากเนินต้นจักรพรรดิเหล่านั้น ฟ้าดินกลับพลันพลิกเปลี่ยน!

พลังฝ่ามือจากรอยตราพลิกนภาที่มีพลังยิ่งใหญ่กระจายไปทั่ว กวาดล้างไปทั้งสี่ทิศ

‘เทือกเขายืดยาวไม่ขาดสาย ทั้งยังมีต้นแสงวิญญาณขึ้นอยู่ทั่ว ปกคลุมเต็มสันเขา ที่นี่เหมือนกับเทือกเขายาวเหยียดที่อยู่ทางใต้ของเขตเพลิงทักษิณ…’ เยี่ยนจ้าวเกอลงมือไปพลาง สำรวจรอบๆ ไปพลาง

ที่แล้วมาเขาให้ความสำคัญกับข้อมูลและข่าวสาร เมื่อเพาะความแค้นกับสายสืบทอดของประมุขทักษิณ เขาย่อมต้องมีการเตรียมตัวไว้

ข้อมูลข่าวสารแต่ละชนิดหากรวบรวมได้ ก็ต้องรวบรวมให้หมด ใครจะรู้ได้ว่าจะได้ใช้ประโยชน์วันไหน

แม้นว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะมาที่เขตเพลิงทักษิณเป็นครั้งแรก แต่ก็ได้ฟังและได้ศึกษาเกี่ยวกับจุดสังเกตที่ค่อนข้างสำคัญของที่นี่ผ่านหลายๆ ช่องทางมาตั้งแต่แรกแล้ว

ยามนี้เมื่อสำรวจลักษณะเด่นทางภูมิศาสตร์ของสภาพแวดล้อมรอบๆ แม้เขาจะไม่กล้ายืนยัน แต่ก็คาดเดาว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางใต้ของเขตเพลิงทักษิณ

ต่อให้จะอยู่ในเขตเพลิงทักษิณ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่แตกตื่นลนลาน

เขายกมือขึ้นจัดการลูกศิษย์เนินต้นจักรพรรดิตรงหน้า

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้กระหายเลือด แต่ว่าการลงมือฆ่าคนไม่ใช่เรื่องใหญ่มาแต่แรกแล้ว

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิเหล่านี้แม้ว่าจะรู้สึกกริ่งเกรงเยี่ยนจ้าวเกออยู่บ้าง แต่ก็ยังโถมเข้ามาโดยสัญชาตญาณ

พอพวกเขาพบว่าเรื่องราวไม่ได้รวบรัดเหมือนอย่างที่ตนจินตนาการไว้ จะเสียใจยามนี้ก็สายไปเสียแล้ว

กลับเป็นผู้อาวุโสเขาสามขาสองคนนั้นที่ตั้งใจหนีเพียงอย่างเดียว ฉวยโอกาสตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอจัดการจอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิเหล่านั้น บ่ายหน้าหนีไปยังที่ไกลออกไปโดยไม่หันหลังกลับมา

คนทั้งสองว่องไนกว แยกกันหนีสองทาง หวังว่าจะสามารถหนีภัยพิบัตินี้ไปได้

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพร้อมกับตบศีรษะของพ่านพ่านเบาๆ จากนั้นตนก็ปราดขึ้นฟ้า ไล่ตามผู้อาวุโสเขาสามขาที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้นั้นไป

พ่านพ่านแบกอาหู่ ไล่ตามคู่ต่อสู้ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงอีกคน

อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าจะสู้หรือจะหนี ล้วนเอาชนะพ่านพ่านไม่ได้

ครั้นผู้อาวุโสเขาสามขาที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายอันน่ากลัวเข้ามาใกล้เบื้องหลัง ทันทีที่หันกลับไปมอง เขาก็พลันตื่นตระหนก

“เยี่ยนจ้าวเกอ ท่านสร้างปัญหาให้เขาสามขาของข้า พึงทราบว่า…”

พูดยังไม่ทันจบคำ เขาก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอตัดบท “ข้ารู้ว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังท่านเป็นผู้ใด แต่นั่นไม่ส่งผลต่อการลงมือของข้าอยู่ดี”

ผู้อาวุโสเขาสามขาผู้นั้นเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ทลายนภาเห็นเทวะสำแดง จนปัญญาที่ก่อนหน้าถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จึงแสดงความสามารถของตัวเองออกมาไม่ได้

เขายังกลัวว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไล่ตามมา ดังนั้นจึงคิดหนีให้เร็วที่สุด

แต่ว่ายิ่งกลัวเท่าไร เขาก็ยิ่งเสียเปรียบเท่านั้น จึงถูกคู่ต่อสู้ที่มีะระดับพลังฝึกปรือต่ำกว่าตัวเองมากพัวพันไว้

กระนั้น หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอมองดูอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกสนใจอย่างอดไม่อยู่ “อืม มีความสามารถอยู่บ้าง”

แม้จะเป็นเพราะสาเหตุต่างๆ มากมาย จึงยากจะแสดงพลังของตัวเองออกมาได้ ทว่าพลังของบุรุษหนุ่มอาภรณ์สีแดงผู้นั้น ก็สุดที่จอมยุทธ์ในระดับเดียวกันจะเทียบเคียงได้

อย่าว่าแต่คู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง แม้จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองส่วนใหญ่ ก็เกรงว่าจะสู้บุรุษอาภรณ์แดงผู้นี้ไม่ได้

เขาถึงแม้จะมีแค่หมัดเปล่ามือเปลือย หากแต่เมื่อตั้งฝ่ามือประดุจดาบแล้ว ทุกดาบที่ฟันออกล้วนก่อเกิดแสงสายฟ้าเทียมนภา

แสงสายฟ้านั้นแดงฉานดุจเลือด ดุดันน่ากลัวยิ่ง

สายฟ้าฟาดติดต่อกัน ทำให้จอมยุทธ์เขาสามขาที่ปล่อยแสงอาทิตย์ออกมาตรงหน้า เหมือนกับถูกสีโลหิตครอบไว้ชั้นหนึ่ง

สายฟ้ากับประกายดาบรวมกันเป็นหนึ่ง กวนคนพายุรอบด้าน ด้วยสภาวะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ระเบิดประกายสีทองของดวงอาทิตย์ที่มีมากมายทิ้งไป

บุรุษอาภรณ์สีแดงมีสีหน้าเหี้ยมเกรียม ส่งเสียงตะโกนก้องดุจฟ้าผ่า ไม่สนใจเป็นตาย ใช้ชีวิตแลกชีวิต โจมตีใส่คู่ต่อสู้ของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

‘จะว่าไปเมื่อครู่ก็เหมือนมีความรู้สึกบางอย่าง ว่าในถุงย่อส่วนที่อยู่บนตัวของคนจากเขาสามขาผู้นั้น ยังมีคนเป็นๆ อยู่ด้วย’ เยี่ยนจ้าวเกอลูบคาง “ตอนนั้นนึกว่าเป็นสหายในสำนักของเขาที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำเสียอีก”

“ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเชลยแล้วสินะ”

อาหู่พยักหน้า “มิผิด ข้ากับพ่านพ่านไล่ตามมาได้ไม่นาน ที่แขนเสื้อของคนผู้นั้นก็พลันฉีกขาด แสงสายฟ้าสีแดงฉานสายหนึ่งพุ่งออกมาโจมตีใส่ตัวเขา”

“คงเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป จึงไม่อาจผนึกเชลยที่อยู่ในถุงย่อส่วนได้อีกต่อไป”

เขาเกาศีรษะ “สุดท้ายพวกเรายังไม่ทันได้ลงมือ พวกเขาสองคนก็สู้กันเองแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี