ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 958

อาหู่มองคนหนุ่มในอาภรณ์สีแดงที่เหมือนกับมารคลั่งผู้นั้น แยกเขี้ยวยิงฟัน “คุณชาย ท่านดูวิชาดาบที่เขาใช้สิขอรับ มันเหมือนกับ…”

“เหมือนกับวรยุทธ์ของตระกูลเซี่ย ที่โดนทำลายบนเทือกเขาเสียงระรัวในเขตหยางเทียนตะวันออกหรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวต่อ

อาหู่พยักหน้า

ตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี พวกเขาไม่เคยสัมผัสอีกฝ่ายด้วยตนเองมาก่อน

แต่ว่าจอมยุทธ์เทือกเขาเสียงระรัวซึ่งพูดถึงเรื่องคดีล้างตระกูลเซี่ยในตอนนั้น จะมากจะน้อยก็มอบความเป็นมากับข้อมูลของตระกูลเซี่ยให้บางส่วน

เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่พอเห็นคนหนุ่มอาภรณ์แดงลงมือ ก็เหมือนกับดาบอัสนีทะลัก อันเป็นการสืบทอดของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี

เพียงแต่ดาบอัสนีทะลักในเรื่องเล่า ไม่ได้มีอานุภาพแข็งแกร่งขนาดนี้

ตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีมาจากโลกเบื้องล่างใบหนึ่ง แม้นว่าจะยืนหยัดบนโลกซ้อนโลกได้สำเร็จ ทว่าก็ยังเทียบกับการสืบทอดระดับสุดยอดส่วนใหญ่ไม่ได้ แม้แต่ในเทือกเขาเสียงระรัวก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก

ดังนั้นอาหู่จึงไม่กล้ายืนยัน ได้แต่มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างลังเล

“ความสามารถที่ใช้ตั้งตัวของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี นอกจากวรยุทธ์ที่สืบทอดกันมาในตระกูลแล้ว ยังมีสายฟ้าธาตุทอง ที่เป็นหนึ่งในสายฟ้าห้าธาตุด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ใช้สายฟ้าหลอมปอด หายใจเหมือนอัสนี คมกล้าดุจทอง หลอมเข้าใปในวิชาดาบ ทำให้อานุภาพเพิ่มขึ้น”

“สมควรบอกว่า แม้แต่อาวุธก็ยังได้ประโยชน์ไปด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอครอบครองสายฟ้าเปลวเพลิงเผาไหม้ ซึ่งเป็นธาตุไฟในสายฟ้าห้าธาตุเช่นกัน ทั้งสองเกี่ยวพันกันอย่างแน่นแฟ้น จึงสามารถรับรู้ถึงจุดที่ไม่เหมือนกับระหว่างคนหนุ่มในอาภรณ์สีแดงผู้นั้นกับคนอื่นได้อย่างง่ายดาย

กระนั้นนี่ก็ยังไม่ใช่สาเหตุหลักที่อีกฝ่ายมีพลังโดดเด่น

“เจ้าดูบนตัวเขาดีๆ” เยี่ยนจ้าวเกอไขความลี้ลับได้ในประโยคเดียว

พลังฝึกปรือของอาหู่ต่ำกว่าสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ยามมองรายละเอียดการประมือกันของคนทั้งสอง จึงรู้สึกเปลืองแรงทีเดียว

แต่ว่าเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอทักขึ้นมา อาหู่ก็เพ่งสายตามองดูอย่างละเอียด เห็นผิวตรงส่วนคอและส่วนมือที่ไม่มีอาภรณ์ปกคลุมของคนหนุ่มผู้นั้น ถึงกับมีลวดลายจำนวนหนึ่งปรากฏอยู่

ลวดลายหลายสายนั้นเหมือนกับสายฟ้า ทว่าแดงฉานดุจเลือด โดดเด่นน่าทึ่งยิ่ง!

เพราะว่าอาภรณ์ที่สวมอยู่ จึงเห็นลักษณะของลวดลายได้แค่ไม่กี่ส่วนเท่านั้น

แต่ว่าหลังจากสองฝ่ายสู้กันจนถึงจุดดุเดือด คนหนุ่มผู้นั้นก็รีดเค้นพลังแฝงเร้นของตัวเองออกมาไม่หยุดยั้ง ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลวดลายลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ลวดลายที่เหมือนกับสายฟ้าสีโลหิตก็ปกคลุมสองมือและส่วนคอของเขา ทั้งยังแผ่ลามไปบนใบหน้าเขา

มองไปแล้วเหมือนกับผิวของเขาปริออก คล้ายกับเป็นบาดแผลที่น่ากลัวหลายสายตัดกันไปมา

คลุ้มคลั่ง ไม่เหมือนผู้ใด เกรี้ยวกราด และน่าประหวั่นพรั่นพรึง

หลังจากการขยายของลวดลายสายฟ้าสีโลหิต คนหนุ่มผู้นั้นก็ยิ่งสู้ก็ยิ่งอำมหิตและคลุ้มคลั่ง เอาแต่โจมตี ไม่สนใจการป้องกัน ไม่สนใจตัวเองโดยสิ้นเชิง

พลังของเขาถึงกับยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง!

ในนี้ยังมีความบ้าคลั่งและความสิ้นหวังที่ราวกับไร้สิ้นหนทาง เผาผลาญชีวิต

ทำให้ผู้คนคิดว่าเขาเหมือนกับหมดพลัง กำลังใช้แรงเฮือกสุดท้าย

คล้ายกับถ้าหากเวลาผ่านไปอีกสักนิด ไม่ต้องให้คนอื่นลงมือ ตัวเขาก็จะกลายเป็นตะเกียงสิ้นน้ำมัน มอดดับไปเอง

แต่ว่าพลังของเขากลับเพิ่มขึ้นทีละขั้น เหมือนกับไม่มีจุดสิ้นสุด

ผู้อาวุโสเขาสามขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสผู้นั้น เนื่องจากรีบร้อน ถึงกับถูกคนหนุ่มอาภรณ์แดงผู้นั้นใช้สภาวะตกตายร่วมกัน กดดันจนเสียเปรียบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี