เยี่ยนจ้าวเกอเหน็บแนมตัวเองว่าในภูเขาไร้พยัคฆ์ วานรเป็นใหญ่
แต่ในความจริงแล้ว บนเขตเพลิงทักษิณในตอนนี้บางทีอาจไร้พยัคฆ์จริงๆ แต่ว่ายังคงมีสัตว์ร้ายกระจายอยู่ทั่ว ไม่ได้มีแค่วานรที่ขึ้นเป็นใหญ่ได้
ถ้าหากบอกว่ามีวานรอาละวาดในนี้จริงๆ เช่นนั้นก็เป็นราชาวานรที่น่ากลัวสุดเปรียบปานตัวหนึ่ง
ดังนั้นจอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณในเทือกเขายาวเหยียดจึงพบเจอโศกนาฏกรรมแล้ว
เมื่อทางเนินต้นจักรพรรดิบนเขาลีลาหงส์ได้รับข่าว เยี่ยนจ้าวเกอก็เข่นฆ่าออกจากเขายาวเหยียดไปแล้ว
เพลิงโหมเผาฟ้า หงส์เพลิงขนาดยักษ์ตัวหนึ่งกระพือปีกบินสูง บินผ่านพื้นที่ของเขตเพลิงทักษิณอย่างรวดเร็ว
ใต้การปกคลุมของเปลวเพลิง เป็นเรือเทพที่ลอยบนฟ้า แล่นบนวายุ แหวกทะเลเมฆหมื่นลี้ลำใหญ่ลำหนึ่ง
ยามนี้บนเรือนภาร่อนวายุของประมุขทักษิณลำนี้ มีบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งเป็นผู้นำ จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิบนเขาลีลาหงส์กลุ่มหนึ่งต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม
คนในท้องที่ของเขายาวเหยียดส่วนใหญ่ไม่ทราบ แต่ว่าคนของเนินต้นจักรพรรดิกลับรู้เรื่องหนึ่งอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้สำนักตนได้รับเบาะแส ออกเสาะหานิวาสสถานอันลี้ลับแห่งหนึ่ง ทิศทางที่เบาะแสชี้ไปในตอนสุดท้ายอยู่ที่เทือกเขายาวเหยียด
ด้านในนั้นยังมีจวงเจาฮุย คนหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดของเขตเพลิงทักษิณ บุตรของประมุขอาคเนย์จวงเซิง
ตอนแรกไปถึงหน้าประตู กลับขาดของวิเศษสำหรับเข้าไป ดังนั้นพวกจวงเจาฮุยจึงได้แต่รู้สึกเสียดาย
มิคาดกลับได้กุญแจมา พวกจวงเจาฮุยต่างยินดีปรีดา ตอนที่เข้าไปในอารามเอกนิกาย ก็ได้ทิ้งคนไว้เฝ้าปากทาง นอกจากนี้ยังส่งคนกลับไปรายงานสำนัก
ผู้ใดหาทราบไม่ว่าจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีก
เมื่อเชื่อมโยงถึงการปรากฏตัวอย่างกระทันหันในบริเวณเขายาวเหยียดของเยี่ยนจ้าวเกอ คนของเนินต้นจักรพรรดิก็เกิดลางสังหรณ์อัปมงคลขึ้นทันที
บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่ง ไม่กล่าววาจาแม้แต่น้อย
คนผู้นี้แซ่เผิง นามเฮ่อ เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย
ผู้คนเรียกเขาว่า ‘ราชาอัคคี’ เป็นลูกศิษย์ในสำนักของประมุขทักษิณจวงเซิน ผู้สืบทอดเนินต้นจักรพรรดิ เป็นมือดีที่ยอดเยี่ยมที่สุดรองจากจวงเซิน
สายสืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิ นอกจากจวงเซินผู้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขที่มีร่างของเซียนมนุษย์แล้ว ยอดฝีมือคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ขาดแคลน เผิงเฮ่อเป็นคนที่โดดเด่นในนั้น
บนเขตเพลิงทักษิณ ต่อให้ไม่นับเบื้องหลังที่มาจากเนินต้นจักรพรรดิ เผิงเฮ่ออาศัยแค่พลังของตัวเอง ก็เป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดนอกจากผู้เป็นประมุขแล้ว
อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงอยู่บนบนโลกซ้อนโลกมาหลายปี
สิ่งที่ควรค่าแก่แการเอ่ยถึงก็คือ บุตรีของเผิงเฮ่อแต่งให้แก่จวงเจาฮุย
จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังเขาลดเสียงเอ่ยว่า “ท่านอาจารย์ ที่ประตูทางเข้านิวาสสถานแห่งนั้นพบศพของสหายในสำนักจำนวนมาก แต่ว่าในนี้ไม่มีศิษย์พี่จวงและอาจารย์อาหวัง”
“ประตูทางเข้านิวาสสถานแห่งนั้น พวกเรายากจะเข้าไปค้นหา ไม่อาจยืนยันตำแหน่งของศิษย์พี่จวงและอาจารย์อาหวังได้”
เผิงเฮ่อได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้มีความเห็นใด
ยังไม่เห็นศพ บางทีนี่อาจหมายถึงจวงเจาฮุยไม่ได้ประสบภัยพิบัติ ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิต
แต่ว่าในใจของเผิงเฮ่อกลับเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นแล้ว
เมื่อมาถึงระดับในปัจจุบันของเขา ลางสังหรณ์ชนิดนี้ไม่ใช่ไม่มีที่มา
“หากเจอเยี่ยนจ้าวเกอนั่นให้จับเป็น ห้ามให้เขาหนีกลับเขตตะวันอาคเนย์ได้เด็ดขาด” เผิงเฮ่อเอ่ยอย่างแช่มช้า
พอคิดถึงชื่อของเยี่ยนจ้าวเกอ เผิงเฮ่อก็รู้สึกว่าขมับสองข้างของตนเต้นตุบๆ
คนหนุ่มที่ผงาดขึ้นมาได้ไม่ถึงสิบปีผู้นี้ ทำให้ทั่วทั้งเขตเพลิงทักษิณต่างเจ็บปวดเหลือแสน
มีพรสวรรค์โดดเด่น กอปรด้วยพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างไรระดับพลังฝึกปรือก็ยังต่ำอยู่ ตัวเขาแท้ที่จริงไม่น่ากลัว แต่มีวาสนาเปี่ยมล้น ครอบครองของวิเศษที่ร้ายกาจมากมาย
นี่เป็นความคิดส่วนใหญ่ที่จอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณมีต่อเยี่ยนจ้าวเกอ
อีกฝ่ายเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “อย่างน้อยตอนนี้ในเขายาวเหยียดก็มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้นสองคนที่ตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอนั่น”
“สองคนนั้นพวกเราล้วนรู้จัก แม้ว่าจะเทียบกับผู้สืบทอดของพรรคเราไม่ได้ แต่กลับไม่ใช่คนที่ไม่โดดเด่น”
“แต่ว่าดูจาภสภาพแวดล้อมในตอนนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายสู้กันไม่ทันไรก็ปรากฏผลแพ้ชนะ จึงไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้ว!”
คนที่คัดค้านก่อนหน้านี้ครั้งนี้ไม่กล่าววาจาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ผลการต่อสู้ที่แท้จริงล้วนทำให้คนเชื่อถือ
พอเชื่อมโยงถึงพวกจวงเจาฮุยที่ข่าวสารหายไป จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิทุกคนสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ร่องรอยแต่ละชนิดแสดงให้เห็นว่า เป้าหมายที่เขากำลังไล่ตามในตอนนี้ ไม่อาจนำจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงทั่วไปมาเปรียบด้วยได้
แม้แต่พลังในตอนที่ยังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงของคนอย่างจวงเจาฮุย หลงฮั่นหัว เฉิงโม่ ไปจนถึงฟู่ถิง ยังไม่อาจบรรยายความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ผู้นี้ได้
ไม่อาจใช้ความคิดเก่าดูแคลนเยี่ยนจ้าวเกอได้อีกต่อไป
ไม่อย่างนั้นผู้ที่จะต้องถูกเล่นงานเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นตน!
เผิงเฮ่อไม่ได้กล่าววาจา เพียงแต่จ้องเบื้องหน้า กระตุ้นเรือนภาร่อนวายุ ไล่ตามไปทางทิศเหนือภายใต้การม้วนคลุมของหงส์เพลิงอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้สีหน้าเขาพลันสั่นไหว สั่งให้เรือนภาร่อนวายุหยุดลง
ไกลออกไปมีเงาร่างของบุรุษผู้หนึ่งโผล่ขึ้น สวมเสื้อนักพรตสีเหลืองอ่อน ร่างเล็กผอม
“นักพรตเชียนหลาน” เผิงเฮ่อจำอีกฝ่ายได้
ลูกศิษย์ของจักรพรรดิเอกภพกำเนิด หนึ่งในห้าจักรพรรดิ!
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี