เขตมหานภากลาง เขาคุนหลุน ยอดเขาอัศจรรย์
ด้านในนิวาสถานแห่งหนึ่งบนผาบัวแดงเปล่งแสงสีทองระยิบระยับ
รูปยันต์แปดทิศขนาดยักษ์รูปหนึ่งที่อยู่บนพื้นกำลังหมุนวนไม่หยุด กลางยันต์แปดทิศเป็นรูปไท่จี๋รูปหนึ่ง
สตรีผู้หนึ่งขัดสมาธิอยู่บนรูปไท่จี๋ นางสวมอาภรณ์สีแดง กระโปรงสีขาว คลุมหนังจิ้งจอกเงินชิ้นหนึ่งไว้บนไหล่ งดงามจนสั่นสะท้านขวัญวิญญาณ ช่วงชิงสายตาผู้คน
เป็นฟู่ถิง บุตรีของจักรพรรดิแพรงามอวิ๋นฉือ ถูกเรียกว่า ‘บัวแดงสูงส่ง’
นางนั่งอยู่ในรูปไท่จี๋และค่ายกลยันต์แปดทิศอย่างสงบนิ่ง ด้านนอกค่ายกลยันต์แปดทิศมีบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนอยู่
“จางอวิ๋นอิงแห่งเขาโถงทองบอกเล่าด้วยตัวเอง สมควรไม่ผิดพลาด” บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นส่ายหน้า เหมือนรู้สึกยากจะเชื่อ และเหมือนกำลังถอนใจชมเชย “นิสัยของจางอวิ๋นอิงไม่มีทางคุยโวแทนผู้อื่น”
จางอวิ๋นอิง เป็นชื่อจริงของแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์
ในเขตตะวันอาคเนย์มีไม่กี่คนที่ทราบ เพราะส่วนใหญ่ล้วนเรียกนางว่าแม่เฒ่ากระบี่
ฟู่ถิงได้ยินก็ยิ้มขึ้น “ถ้าเป็นคุณชายเยี่ยนจ้าวเกอ ข้าเชื่อว่าเขามีความสามารถเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้าบอกกับพวกอาจารย์อาแล้ว ว่าคุณชายเยี่ยนมีพลังพรสวรรค์เหนือกว่าข้า ไม่ใช่ข้าถ่อมตัว”
บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นถอนใจกล่าวต่อ “กล่าวเช่นนี้ก็ไม่ผิด กระนั้นแม้แต่ชิงซู่จื่อยังตายด้วยมือเขา ช่างเหนือความคาดหมายของผู้คนจริงๆ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายเยี่ยนกับผู้อาวุโสจางบอกเล่า พวกเราคงไม่ทราบว่ ชิงซู่จื่อยังไม่ได้สำเร็จเป็นประมุข ก็ฝึกฝนเอกภพในแขนเสื้อเป็นผลสำเร็จแล้ว” ฟู่ถิงว่า “ผู้คนต่างกล่าวกันว่าชิงซู่จื่ออาจจะเป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า นั่นไม่ใช่วาจาแปลกปลอมจริงๆ”
บุรุษวัยกลางคนส่ายหน้า “ไม่แน่นัก จักรพรรดิเอกภพเป็นคนที่ซุกซ่อนประกายไม่เปิดเผย”
“ทุกคนต่างทราบดีว่าหลังจากที่เขาสำเร็จเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขแล้ว จึงค่อยฝึกฝนเอกภพในแขนเสื้อเป็นผลสำเร็จ แต่ความจริงเป็นอย่างไร เกรงว่ามีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้”
“สมควรบอกว่าสิ่งที่พวกเราและคนอื่นๆ ได้เห็น คือเขาได้แสดงเอกภพในแขนเสื้อในตอนที่เขาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขออกมาแล้ว ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเขาฝึกฝนสำเร็จตั้งแต่เมื่อไร”
ฟู่ถิงได้ยินก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยอยู่ลึกๆ “อาจารย์อากล่าวไม่ผิด เหมือนกับชิงซู่จื่อในครั้งนี้ ถ้าหากไม่ถูกคุณชายเยี่ยนไล่ต้อนถึงห้วงคับขัน คงไม่มีใครทราบว่าเขาถึงกับฝึกฝนเอกภพในแขนเสื้อเป็นผลสำเร็จ”
จักรพรรดิเอกภพกำเนิดที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนแล้ว ไม่ว่าจะประเมินสูงอย่างไรก็ไม่มีทางเกินเลย
จักรพรรดิเซียนจริงแท้แข็งแกร่งถึงเพียงใด ฟู่ถิงในฐานะบุตรีของจักรพรรดิแพรเข้าใจดี
“คิดถึงตอนนั้น ในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้มีคนเรียกคุณชายเยี่ยนเป็นเจ้าชายพระอาทิตย์ ยังมีหลายคนไม่ยอมรับ” บุรุษวัยกลางคนจุ๊ปากชมเชย “ตอนนี้ฉายาเซียนผู้ถูกเนรเทศกลับมีไม่กี่คนที่กล้าตั้งข้อสงสัย”
ก่อนหน้านี้ถึงแม้ชื่อเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอจะแพร่หลายไปทั่ว แต่ว่านอกจากเขตตะวันอาคเนย์แล้ว คนที่อยู่ในสถานที่อื่นๆ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ให้ความสำคัญจริงๆ
ในตอนนั้นชื่อที่ผู้คนมอบให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอยังเป็น ‘เจ้าชายพระอาทิตย์’
หากดูจากความหมาย ฉายานี้อย่างน้อยได้รับบารมีส่วนหนึ่งมาจากตราประทับตะวัน และราชันพระอาทิตย์ในตำนาน
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ผู้คนยังมีท่าทีพิจารณาและคอยสังเกต
พร้อมกับที่ระดับพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งมายิ่งสูง ประสบการณ์ยิ่งมายิ่งลึกล้ำ รอจนเขาปีนขึ้นสะพานเซียน เช่นนั้นต่อให้เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดของราชันพระอาทิตย์จริงๆ ฉายา ‘เจ้าชายพระอาทิตย์’ ของเขาจะเริ่มกลายเป็นจริงอยู่ดี
กระนั้นนับตั้งแต่เยี่ยนจ้าวเกอสยบเขตเพลิงทักษิณ เล่นงานคนหมู่มากจนยอมศิโรราบ เข้าร่วมการต่อสู้สะท้านใต้หล้าสองครั้งบนเขามหาวิญญาณและเขารอบวง คนที่เรียกเขาว่าเจ้าชายพระอาทิตย์กลับมีน้อยลงแล้ว
ฉายาที่ผู้คนสรรเสริญเริ่มเหลือเพียงหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอ เซียนผู้ถูกเนรเทศ
“จะว่าไป…” ฟู่ถิงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้ม “ตัวคุณชายเยี่ยนคล้ายไม่เคยยอมรับชื่อเจ้าชายพระอาทิตย์ในที่สาธารณะ”
“ในทางตรงกันข้าม เขากลับยอมรับว่าตราประทับตะวันที่ได้มาเป็นเพราะวาสนาความบังเอิญไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง”
บุรุษวัยกลางคนได้ยินดังนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คนหนุ่มที่โอหังนัก แต่ก็มีคุณสมบัติให้โอหัง”
ฟู่ถิงยิ้มไปยิ้มมา แต่จู่ๆ ก็ยิ้มไม่ออก
นางก้มหน้ามองรูปไท่จี๋บนค่ายกลยันต์แปดทิศที่ตนอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี