หิมะที่ตกหนักในยามราตรีเช่นนี้ ทำให้ถนนลื่นมากนัก ด้วยทางเดินของรถม้าที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำเอาหัวของฉินเหยี่ยนเย่ว์กระแทกไปมา ทำให้นางหาได้นอนหลับอย่างมีความสุขไม่
ตงฟางหลีมีท่าทีลังเลอยู่นาน ก่อนจะดึงตัวฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้ามานอนบนตักของเขา
พร้อมทั้งถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ของตนเองออกมาคลุมบนตัวนาง
“ข้าคิดว่า ท่านจักทำตัวอ่อนโยนเพียงแค่ซูเตี่ยนฉิงเสียอีก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยพึมพำออกมา น้ำเสียงของนางดูมึนงงเล็กน้อย คล้ายกับเป็นการพูดลอย ๆ ออกมา
เมื่อตงฟางหลีได้ยินชื่อของซูเตี่ยนฉิงนั้น เขาชะงักไปในทันที
ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน ชื่อที่เคยสักลึกในใจของเขานั้น กลับแปรเปลี่ยนไปคล้ายกับเป็นชื่อของคนที่ตนไม่รู้จัก
ตงฟางหลีพลันวางนิ้วลงบนหน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์ พลางเอ่ยพึมพำกับตนเองว่า “หนี้ที่ติดนางเอาไว้ ข้าล้วนแต่ชำระไปหมดแล้ว”
“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้าจำได้หรือไม่ว่า ยามที่ฤดูเหมันต์มาถึงเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เจ้าอยู่ที่ใด? กำลังทำอันใดอยู่?”
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ทว่า หาได้มีคำตอบตอบกลับมาไม่
ทั่วทั้งรถม้าจึงตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
เสียงล้อดังเอี๊ยดอ๊าดที่กลิ้งผ่านพื้นหิมะ บดบังเสียงลมหายใจของพวกเขา
ตงฟางหลีฉวยโอกาสจากแสงไฟสลัว ๆ เพื่อมองใบหน้าของคนที่กำลังหลับอยู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา “ข้ากำลังทำอันใดอยู่กันแน่?”
ใต้หล้า จักมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?
นางคนนั้นจักเป็นนางคนนี้ไปได้อย่างไร?
หิมะหนาทึบที่สะสมกันเป็นชั้น ๆ นั้น ทำเอารถม้าเคลื่อนตัวได้ช้ามาก
เมื่อมาถึงจวนของท่านอ๋องเจ็ดก็เป็นยามฉื่อพอดี
เมื่อตู้เหิงเห็นรถม้ากลับมาถึงจวนแล้วนั้น เขาจึงรีบร้อนพุ่งตัวเข้ามา พร้อมทั้งเปิดม่านออกมา “ท่านอ๋อง ท่านกลับมาแล้ว”
“มีเรื่องหรือ?”
“หลังจากที่ลู่ซิ่วกลับมาจากจวนตระกูลลู่นั้น ยามที่เขารู้ว่าพระชายาติดตามท่านอ๋องออกไป เขาดูมีท่าทีกังวลเล็กน้อย”
“เหตุใดเขาจักต้องกังวลด้วย?” ตงฟางหลีนึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก
เขาอุ้มฉินเหยี่ยนเย่ว์ออกมาจากรถม้าด้วยมือเดียว
ยามที่ตู้เหิงกำลังจะจากไปนั้น เขากลับได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเองเสียก่อน จึงได้รีบร้อนกลับมา
ตงฟางหลีจ้องมองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์อยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ว่า “เจ้าไปตรวจสอบอะไรบางอย่างแทนข้าที เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างลับ ๆ ”
“ท่านอ๋องโปรดสั่งการมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ตงฟางหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวไปมา “ช่างเสีย ข้าจัดการเองจักดีกว่า เจ้าไปเรียกตัวลู่ซิ่วมา”
ตู้เหิงที่มิเข้าใจเรื่องราว ทั้งยังไม่กล้าเอ่ยถามคำถามมากมาย จึงได้แต่ออกไปเรียกตัวลู่ซิ่วมาแทน
หลังจากที่ลู่ซิ่วจับชีพจรของฉินเหยี่ยนเย่ว์แล้วนั้น สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียกยิ่งนัก
“ที่แท้” ลู่ซิ่วถอนหายใจออกมา “ยามที่พระชายากล่าวว่าจักไปขอโทษท่านนั้น กระหม่อมสมควรที่จะขัดขวางพระนางเอาไว้”
ในยามนั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังเป็นไข้อยู่ เดิมทีไข้หาได้สูงมากไม่ อย่างมากมีเพียงแค่ปวดหัวและเวียนหัวเท่านั้น
เขาเองก็ยังคิดว่าหาได้มีอันใดร้ายแรงไม่
มิคาดคิดเลยว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์จักใช้ยาหลายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ภายนอกดูสบายดีมิเป็นอันใด หากแต่แท้จริงแล้วนางกำลังทรมานร่างกายของตนเอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน