“มันสวย แต่เอาไว้ให้ข้าจะสิ้นเปลืองเกินไป” เย่ว์ลู่ยังคงผลักปิ่นระย้าไปให้นาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจ “เมื่อกดกลไก ปิ่นระย้าจะปรากฏหมอกจาง ๆ การออกแบบนี้ฉลาดมากและ มีกลไกก็หมายความว่าข้างในมันกลวง”
นางหยิบเข็มพิษที่ได้รับการปรับแต่งแล้วออกมาสองสามอัน วางไว้ในที่ช่องว่าง แล้วปิดมัน “ในนี้ซ่อนเข็มพิษไว้ให้ท่านใช้ป้องกันตัว ข้ารู้ว่าท่านมีวรยุทธ์ แต่พกของไว้ป้องกันตัวก็ไม่มีอะไรผิด รับไปเถอะ”
เย่ว์ลู่เปิดปาก แต่กลับไม่ปฏิเสธอีกต่อไป
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่าสายแล้ว จึงยืนขึ้นกล่าวขอตัว
ตู้เหิงยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูจวนอ๋องหลูหยาง เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ออกมา เขาก็กวาดสายตามองไปรอบนาง เมื่อเห็นว่านางไม่เสียหายใด ๆ จึงโค้งคำนับขอบคุณฟ้า พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เจ้าเป็นอะไรถึงได้กังวล?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไร้ซึ่งคำจะพูด
“ข้าน้อยไม่วางใจน่ะสิพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าว “เย่ว์ลู่ฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่เด็ก นิสัยก็ไม่ได้ดีเท่าไร ข้าน้อยกลัวว่าท่านจะขัดแย้งกับนาง”
“สภาพจิตใจของเย่ว์ลู่ย่ำแย่มาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือลงไม้กัน การสื่อสารกับผู้อื่นยังล้วนยากลำบากทีเดียว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ประสานมือตน แล้วมองดูดวงอาทิตย์แดงฉานในระยะไกล
ในฤดูเหมันต์ พระอาทิตย์ไม่ส่องแสงเข้าตาเลยสักน้อย ก็เหมือนกับจานสีแดงที่ห้อยอยู่บนท้องฟ้า แล้วค่อย ๆ หายลับไป
“ฟ้าใกล้จะมืด เราไปกันเถอะ”
“พระชายาอ๋องเจ็ด เชิญขึ้นรถม้า” เหอเซียงเรียกรถม้าเข้ามา แล้วเปิดม่าน
“ขอบคุณ” ตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหยียบเก้าอี้และเข้าไปในรถม้า ก็มีเสียงกีบม้าดังมาจากไกลมาใกล้
นางเงยหน้าไปมอง
รถม้าจากจวนอ๋องเจ็ดกำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
รถม้าคันนั้นหยุดอยู่ตรงหน้านาง และม่านก็ถูกคนเปิดออก
“ขึ้นรถ” เป็นน้ำเสียงที่ไม่อดทนของตงฟางหลี
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะลึงงัน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน