เมื่อสองนายบ่าวกลับไปถึงเรือนโยวหลานด้วยย่างก้าวหนึ่งลึกหนึ่งตื้น ก็ใกล้ต้นยามซื่อแล้ว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหนื่อยมากจนแม้แต่จะอาบน้ำก็ยังขี้เกียจอาบ เมื่อกลับถึงห้องก็บิดขี้เกียจแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง
ในห้องจุดกำยานหอมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไว้
ภายใต้ฤทธิ์ของกำยานที่ทำให้หลับสบาย นางยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ และขี้เกียจเกินกว่าจะขยับนิ้ว
ภายในห้อง ถ่านไฟเผาไหม้จนส่งเสียงเปรี๊ยะ ๆ
ภายนอกห้อง สายลมหนาวยังคงส่งเสียงหวีดหวิว
ไป๋โค้วยังเก็บข้าวของในลาน ขณะที่เก็บกวาดก็สบถสาบานว่าจะแก้แค้นให้จงได้ หม้อจานชามกะละมังกระทบกันจนส่งเสียงดังก๊องแก๊ง
เสียงเหล่านี้แรกเริ่มมันดังก้องข้างหู ต่อมาก็ค่อย ๆ ไกลออกไป ทำให้ได้ยินไม่ชัดเจน
จิตสำนึกของฉินเหยี่ยนเย่ว์เริ่มพร่ามัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
แสงเทียนวูบไหวประเดี๋ยวสว่างประเดี๋ยวมืด แสงสีส้มที่วงแหวนปล่อยออกมาก็ส่องแสงและสว่างวาบในดวงตาของนาง
รูม่านตาทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีส้ม
ในแสงนั้น นางเห็นโรงพยาบาลที่คุ้นเคย
และนางในตอนนี้ก็อยู่ในอาคารนั้น
“นี่...คือโรงพยาบาลนั่นหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกตื่นตะลึง และนางลองก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว
ยิ่งเดินไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
อาคารหลังนี้เหมือนกับโรงพยาบาลที่เคยอยู่กับปู่ตอนที่ยังมีชีวิตทุกประการ
ห้องเจาะเลือด ห้องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ห้องความดันโลหิต ห้องตรวจความหนาแน่นของกระดูก ห้องอัลตราซาวด์…
นางลองผลักเปิดบานประตู ทว่าจบลงด้วยความล้มเหลว
ผลักประตูอยู่อีกหลายบาน กลับเปิดไม่ออกเลยสักบาน
นางเดินไปข้างหน้าต่อไป และท้ายที่สุด ก็คือห้องจ่ายยาที่นางเคยเห็นอยู่สองสามครั้งก่อนหน้านี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน