เคธี่ลุกขึ้นยืน “ไปเถอะ กลับไปที่ห้องโถงหน้าบ้านกันได้แล้ว เราไม่ควรปล่อยให้คุณลีย์รอนานเกินไป เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ ที่ทำให้เธอหลงหัวปลักหัวปำขนาดนี้”
เมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงประชดประชันของเคธี่แล้ว เนลล์ก็สามารถบอกได้เลย ว่าแม่ของเธอยังคงติดใจกับเรื่องของกิดเดียนอยู่
แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป ตามคำกล่าวที่ว่า เวลาจะบอกความจริงทุกอย่างให้เห็นเอง
เป็นเรื่องปกติ ที่แม่ของเธอจะรู้สึกแบบนั้นกับกิดเดียน เพราะพวกเขายังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
เธอจะค่อย ๆ เริ่มเข้าใจมันสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน
เมื่อเธอคิดได้แบบนี้เธอจึงลุกขึ้น และพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอ
ทั้งสองเดินไปที่ห้องโถงหน้าบ้านด้วยกัน
ในห้องโถง กิดเดียนกำลังเล่นเกมกับลิซซี่และวิมอนด์น้อยอยู่
เป็นความจริงที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีพวกเด็ก ๆ อยู่รอบ ๆ ตัวมันจะไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่ออีกเลย
เนลล์เดินเข้าไปด้วยท่าทางเงอะงะ กิดเดียนดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาเหลือบมองเธอพลางเอ่ยถามว่า “คุนกันเสร็จแล้วเหรอ?”
เนลล์พยักหน้าตอบ
เคธี่ยิ้มออกมา “พวกเธอหิวกันรึยัง? ถ้าหิวแล้ว ฉันจะให้เชฟไปทำอาหารมาให้ แล้วเราจะได้ทานอาหารเย็นกันเร็ว ๆ หน่อย เราไม่จำเป็นต้องรอให้ฌอนกลับมาก่อนก็ได้”
เนลล์ส่ายหน้าปฏิเสธ ขณะที่กิดเดียนพูดเสริมขึ้นมาว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ไม่ต้องรีบ อีกอย่าง มันก็ไม่ได้ดึกจนเกินไปถ้าเราจะรอให้คุณมิลเลอร์กลับมาทานมื้อค่ำด้วยกัน ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากจะขอไปเที่ยวชมรอบ ๆ คฤหาสน์เพื่อดูวิวทิวทัศน์สักหน่อย แล้วผมจะขอพาเนลลีไปด้วยจะได้ไหมครับ? ”
เคธี่พยักหน้า
"ได้สิ! ให้ฉันเป็นคนพาไปไหม?”
"ไม่รบกวนดีกว่าครับ เราจะเดินไปกันเอง แต่ว่ามันจะมากเกินไปไหม ถ้าจะขอให้คุณช่วยดูแลเด็ก ๆ สักพักหนึ่ง”
เคธี่เหลือบมองเด็ก ๆ ทั้งสองคน
แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่ชอบกับความจริงที่ว่า ลิซซี่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเนลล์ แต่เธอก็ได้ตัดสินใจที่จะทิ้งมันไปแล้ว นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรกระทำ มันควรจะต้องเป็นแบบนั้น
เธอไม่ได้รู้สึกแย่กับเด็ก เพราะถึงยังไงซะเธอก็ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเนลล์เช่นกัน แต่ว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขาเข็มข้นกว่าสายเลือดมากนัก
เธอแค่กังวลว่าเนลล์จะเดินตามรอยเท้าของเธอ เพราะเธอไม่อยากให้เนลล์ถูกหลอก เหมือนกับที่ ฌอร์น เจนนิงส์เคยโกหกเธอ
ขณะที่เธอกำลังนึกถึงความสัมพันธ์ที่เธอมีร่วมกับเนลล์ เคธี่ก็เริ่มชอบลิซซี่ขึ้นมาบ้างแล้ว
เธอจึงเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา "ได้สิ ไม่มีปัญหา"
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินเข้าไปหาเด็ก ๆ ทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม พลางพูดว่า “ฉันได้ยินว่าเธอมีสนามเด็กเล่นที่บ้านด้วยใช่ไหม ที่นี่ก็มีนะ! ให้ยายพาไปดูไหม?”
ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม เด็กก็คือเด็กอยู่วันยันค่ำ
เมื่อเด็ก ๆ ได้ยินว่าจะได้ไปที่สนามเด็กเล่น พวกเขาก็ปรบมือเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
"เย้! พวกเราจะได้ไปที่สนามเด็กเล่นกัน!”
จากนั้นเคธี่ก็พาพวกเขาไปที่สนามเด็กเล่นด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นว่าพวกเขาออกไปแล้ว กิดเดียนและเนลล์ก็เดินออกจากประตูหลักมา
คฤหาสน์หลังนี้มีขนาดใหญ่กว่าที่เกรกอรีเป็นเจ้าของในเมืองหลินเสียอีก
มันยังถูกรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามมากอีกด้วย
เนลล์ที่เคยรู้สึกกังวลว่าแม่ของเธอจะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ อย่างสุขสบายตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาหรือเปล่า ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าแม่ของเธอ ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และมันสวยงามมากเพียงใด ความกังวลทั้งหมดของเธอจึงเริ่มจางหายไป
เธอคิดกับตัวเองว่า ฌอน มิลเลอร์ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเพียงใด ทุกคนที่เคยร่วมทางกับเคธี่เคยทำให้เธอต้องผิดหวัง แต่ไม่ใช่กับฌอน เขาให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเธอเท่าที่เธอต้องการ
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพวกเขามาเจอกันได้อย่างไร แต่มันก็สามารถเห็นความรักของฌอนที่มีต่อเคธี่ได้ไม่ยากเลย
สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมเคธี่ถึงไว้ใจฌอนมากที่สุด เพราะเธอไม่เคยไว้ใจคนรอบข้างเลย แต่เธอกลับไว้ใจฌอนแค่เพียงคนเดียว?
ทั้งคู่เดินไปตามทางเท้า ที่ถูกแกะสลักไว้ด้วยหินอ่อนอย่างผ่อนคลาย พวกเขาไม่รู้สึกร้อนเลยเนื่องจากที่คฤหาสน์ มีเครื่องปรับอากาศคอยอำนวยความสดวกอย่างครบครัน
ที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่แผ่กิ่งก้านออกไปอย่างไร้จุดหมาย ในขณะที่ใบไม้ห้อยลงมาจากกิ่งก้าน ทำให้รู้สึกสดชื่นจนน่าพอใจ
พวกเขาเดินต่อไปอีกสักพัก ก่อนที่เนลล์จะทำลายความเงียบลง “แม่ก็แค่กังวลนะคะ เธอเลยพูดแบบนั้นออกมา อย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลยนะคะ เธอไม่รู้ว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง”
กิดเดียนหันกลับมามองเธอด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก