เนลล์และกิดเดียนใช้เวลาสองชั่วโมงเต็ม เพื่อเดินดูคฤหาสน์
ขณะที่พวกเขากำลังเดินดูตรงนู้นตรงนี้อย่างเรื่อยเปื่อย พวกเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนรับใช้จำนวนมากทำงานอยู่ที่นี่
พวกเขาทุกคนพูดภาษาท้องถิ่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เนลล์พยายามจะพูด แต่พวกเขาก็ใจดี และเป็นมิตรกับเธอ
คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มาก จนทำให้ทั้งคู่หลงทาง แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าตัวเองได้กลับมาที่ห้องโถงด้านหน้าของคฤหาสน์แล้ว
กว่าพวกเขาจะมาถึง เวลาก็ได้ล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็นแล้ว
ฌอนกลับมาจากห้องแล็บแล้ว เมื่อเห็นพวกเขา เขาก็บอกให้คนใช้รีบไปแจ้งเคธี่และเด็ก ๆ ให้มาทานอาหารเย็น
เนลล์ถามฌอนเกี่ยวกับวันของเขาด้วยรอยยิ้ม ไม่น่าแปลกใจเลยที่วิธีที่เขาใช้พูดกับพวกเขาในตอนนี้ดูอ่อนโยนกว่าเมื่อก่อนมาก
อาหารเย็นประกอบไปด้วยอาหารท้องถิ่นเป็นหลัก
ลิซซี่และวีมอนด์น้อย อยู่เล่นกับเคธี่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เธอจึงเริ่มสนิทกับพวกเขา
ระหว่างทานอาหารเย็น ฌอนได้สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเคธี่ดูสดใสขึ้นมาก เมื่อลูก ๆ ทั้งสองคนของเนลล์ เรียกเคธี่ว่าคุณยาย
เมื่อเห็นว่าเธอร่าเริงขึ้น มันก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขไปด้วย
แม้แต่วิธีที่เธอมองดูพวกเขา ก็ยังราวกับว่าพวกเขาเป็นเหมือนดังสมบัติที่ล้ำค่า
เธอมอบของขวัญหลายชิ้นให้กับพวกเขา และทันทีที่เธอพบว่าลิซซี่มีแนวโน้มที่จะไม่สบาย เธอก็รีบหายามาให้หลานสาวของเธอทันที เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่ายามีรสขม เคธี่จึงพยายามเพิ่มสารให้ความหวานตามธรรมชาติเข้าไปด้วย
ลิซซี่รู้สึกว่าพวกเขาเป็นห่วงเธอมากจนเกินไป แต่เธอก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้ข้างในใจ
เมื่อพวกเขาทานอาหารเย็นเสร็จ จู่ ๆ ฌอนก็นึกถึงต้นลูกปัดสีทองที่วิกกี้เคยมอบให้กับเขาขึ้นนมาได้ มันอยู่ในสวนหลังบ้านของเขา เขาเลยชวนพวกเขาไปดูด้วย
เมื่อพวกเขามาถึง ก็เห็นว่าต้นไม้ต้นนั้นถูกปลูกให้เติบโตในห้องเย็นข้าง ๆ สวนหลังบ้าน มันถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงน้ำแข็ง และหลังคาเป็นกระจกใส ซึ่งดูเหมือนกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้เป็นฉนวนป้องกันความร้อน
ด้วยวิธีนี้ ดวงอาทิตย์จะสามารถให้ความอบอุ่นแก่ต้นไม้ได้ โดยไม่ทำลายต้นไม้นั้นด้วยความร้อนจัดจนเกินไป
ฌอนอาจจะปรับปรุงห้องกระจก หลังจากที่เขาได้เรียนรู้จาก เจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ว่าต้นลูกปัดสีทองนั้น เหมาะสำหรับสถานที่ชื้นและเย็น แต่ทว่าการปลูกพืชด้วยวิธีนี้ดูทั้งไร้สาระและชาญฉลาดในเวลาเดียวกัน
เนลล์และกิดเดียน ต่างก็รู้สึกประทับใจที่เห็นว่าฌอนดูใส่ใจกับการปลูกต้นไม้นั้น
ต้นไม้ถูกเก็บไว้ในกระถางที่ทำขึ้นมาจากหยก เห็นได้ชัดว่ามันมาจากเกรกอรี
ในกระถางมีน้ำอยู่บางส่วน และมีเสาหยกตั้งอยู่ตรงกลาง ขณะที่ลำต้นของลูกปัดสีทองได้เลื้อยพันไปรอบ ๆ มัน
ฌอนกล่าวว่า “ฉันทำได้เพียงแค่อนุรักษ์ต้นไม้ต้นนี้เอาไว้เท่านั้นแหละ ส่วนมันจะโตขึ้นมาไหมคงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
เนลล์พยักหน้า
“คุณมั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถอนุรักษ์ต้นไม้ต้นนี้เอาไว้ได้ คุณลุงมิลเลอร์”
ฌอนมองมาที่เธอ พลางขมวดคิ้วเป็นรอยย่นเล็กน้อย “บอกตามตรงว่าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่”
เนลลฺตกใจที่ได้ยินแบบนี้
ฌอนลดเสียงลง ก่อนจะพูดต่อว่า “ฉันได้ยินมาว่าต้นไม้ต้นนี้มันบอบบางมาก และฉันเองก็ไม่ใช่นักพฤกษศาสตร์ แต่ฉันก็จะพยายามดูแลมันให้ดีที่สุด โดยทำตามคำแนะนำที่พวกคุณเคยบอกไว้ เพราะคุณยังต้องหาหยกอาถรรพ์ให้กับเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ เป็นจึงเรื่องปกติที่เขาจะไม่บอกคุณทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีการปลูกต้นไม้นี้”
“แต่คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ฉันมีเพื่อนที่เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่ และฉันก็ได้โทรไปหาเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว เขาสัญญาว่าจะมาที่นี่ถ้าเขาว่าง แล้วเราจะได้ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น บางทีเขาอาจจะมีวิธีที่จะทำให้งานนี้สำเร็จก็เป็นได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เนลล์ก็รู้สึกโล่งใจ
หลังจากที่ได้สังเกตการเจริญเติบโตของต้นลูฏปัดสีทองแล้ว ฌอนก็ได้พาพวกเขาไปที่สวนสมุนไพรของเขา
เนลล์เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา ในฐานะของหมอเทวดามาก่อน แต่เธอก็ไม่เคยพูดคุยถึงอาชีพของเขาเลย
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่แค่หมอที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางตะวันตกเท่านั้น แต่เขายังฝึกแพทย์แผนจีนอีกด้วย
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เนลล์จึงรอให้เขาพาชมสวนจนเสร็จ และเมื่อเธอกลับเข้ามานั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอก็อดที่จะถามเขาไม่ได้ว่า “ลุงฌอนคะ ดูเหมือนว่าคุณจะค่อนข้างเชี่ยวชาญในการแพทย์แผนจีน คุณเป็นคนจีนหรือเปล่าคะ?”
ฌอนไม่ได้ปิดบังความจริงแต่อย่างใด เขาพยักหน้ารับ "ใช่แล้ว ผมเป็นคนจีน"
“แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ? คุณกำลังซ่อนตัวอยู่เหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก