“แม่นึกออกแล้ว ห่างจากเมืองเคออกไปประมาน 600 ไมล์ ข้ามทะเลทรายไปทางตะวันออกมีอ่าวอยู่ที่นั่น เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดคือเมืองเค และเมืองนั้นอยู่ติดทะเล
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เนลล์จึงรู้สึกตกใจมาก
ทว่าเธอรู้ตัวว่ามีกล้องวงจรปิดเฝ้าดูพวกเธออยู่ หญิงสาวจึงไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาเลย
เธอทำได้เพียงลดเสียงลงถาม “คุณแม่มั่นใจนะคะ?”
เคธี่พยักหน้ารับแล้วพูดขึ้น “แม่มั่นใจ ที่นี่ไม่มีสนามบิน ต้องขับรถไปเท่านั้นถึงจะเดินทางไปได้ แต่ระยะทางห่างกันแค่ 600 ไมล์ ถ้ารู้ทางก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง”
เนลล์เงียบไปครู่หนึ่ง
ถ้าเธอเดาไม่ผิด สถานที่ที่พวกเธออยู่ตอนนี้น่าจะเป็นสถานที่ที่เคธี่พูดถึง
ถึงอย่างไรก็ อาศัยความสามารถของกิดเดียนและฌอนในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น หากพวกเขาทราบว่าพวกเธอหายไป สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำคือสกัดกั้นทางออกทุกทางของสนามบินเพื่อพยายามคัดกรองคนในสนามบิน
ที่สนามบินตั้งด่านกักตัวคนได้ง่ายกว่า แต่เพราะเมืองนี้ห้อมล้อมไปด้วยทะเลทราย ซึ่งเท่ากับเป็นเมืองที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวในทะเลทราย ไม่ว่าที่ไหนก็ใช้เป็นทางออกได้ พวกเขาคงไม่มีเวลาพอจะสกัดพวกมันไว้ได้
ด้วยเหตุนี้เจฟฟ์จึงมีเวลาและฉวยโอกาสหนีออกมาจากช่องทางเหล่านี้เป็นแน่
หลังจากที่เขาออกไป เขาไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ ดังนั้นเพื่อหาจุดหมายปลายทางสำหรับใช้พักชั่วคราว เขาจะต้องเลือกเมืองที่เคธี่พูดถึงแน่นอน
เมื่อหญิงสาวคิดถึงเรื่องนี้ ก็เริ่มจะมีความหวังเลือนรางผุดขึ้นในหัวใจของเธอขึ้นมาบ้าง
เธอรู้ดีว่าถ้าเธอสืบจนรู้ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน กิดเดียนกับฌอนคงจะสามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้เช่นกัน
ทว่าความจริงแล้ว ในตอนนี้กิดเดียนกับฌอนได้ออกตระเวนหาทั่วเมือง แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเนลล์และเคธี่
ด้วยเหตุนี้พวกเขาทั้งคู่จึงมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าเนลล์กับเคธี่ไม่ได้อยู่ในเมืองเคอีกต่อไป
แต่ทว่าเพราะพวกเขาปิดกั้นทางออกของสนามบินไว้ได้ทันเวลา จึงไม่มีทางที่เจฟฟ์จะหลบหนีไปทางเครื่องบิน เขาไปได้แค่ทางบกเท่านั้น
บนแผนที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึงเร็วที่สุดด้วยการเดินทางทางบกคือเมืองเอช ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเคออกไป 600 ไมล์
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ได้ กิดเดียนจึงออกคำสั่งให้คนของเขาบางส่วนออกตระเวนค้นหาให้ทั่วเมืองเค ส่วนคนที่เหลือตามเขาไปยังเมืองเอช
ในตอนนั้นเอง เกรกอรี่และวิกกี้ก็รีบมาเช่นกัน
เมื่อเขาฟังการวิเคราะห์ของกิดเดียนจบแล้ว เกรกอรี่เองก็คิดว่าเจฟฟ์คงจะกบดานอยู่ที่นั่นเหมือนกัน
เพราะเหตุนี้ทุกคนจึงรีบไปยังเมืองเอชพร้อมกัน
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ณ บ้านพักตากอากาศสุดหรูในเมืองเอช เจฟฟ์ได้รับรายงานข่าวแล้วว่าพวกเขากำลังมา
คนของเขายืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเขา คอยรายงานความเคลื่อนไหวกับเขาด้วยความเคารพ
เมื่อรายงานเสร็จสิ้นแล้ว คนของเขาจึงพูดขึ้นด้วยความกังวล “เจ้านายครับ ถ้าพวกเขากำลังมาที่นี่แล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่พวกเขาจะหาที่นี่เจอ เราควรทำอย่างไรดีครับ?”
เจฟฟ์พูดขึ้นอย่างใจเย็น “แกกังวลเรื่องอะไร? พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงสี่ชั่วโมงเพื่อจะมาที่นี่ ทำไมแกไม่ไปเก็บข้าวของแล้วไปพาคนมา เราต้องรีบไปขึ้นเรือ”
คนของเขาจึงหันหลังแล้วออกไปหลังจากที่รับคำด้วยคำว่า ‘ครับ’ ด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม
ไม่นานนัก เนลล์ก็ได้รับแจ้งว่าพวกเธอต้องไปจากที่นี่
ผู้ชายสองคนเข้ามาจับเธอมัดมือไว้อีกครั้ง แต่เพื่อให้เธอเดินเหินได้สะดวก คราวนี้พวกเขาไม่ได้มัดขาเธอไว้เช่นคราวที่แล้ว
ส่วนเคธี่ยืนตื่นกลัวอยู่ข้าง ๆ เนลล์ เธอแผดเสียงขณะที่พยายามห้ามพวกเขา “พวกแกทำอะไร? แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าแกเชิญเนลล์มาในฐานะแขกเท่านั้น นี่เป็นวิธีการต้อนรับแขกของพวกแกอย่างนั้นเหรอ?”
เนลล์พูดขึ้นด้วยความใจเย็น “พูดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะคุณแม่”
เธอครุ่นคิด ‘เมื่อวานเจฟฟ์ก็ยังดี ๆ อยู่เลย ตอนนี้จู่ ๆ พวกเขาก็มาย้ายพวกเธอไปที่อื่น หมายความว่าอย่างไร’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก