แน่นอนว่าคนบนเตียงยังคงเงียบ
เธอรออยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่ากิดเดียนไม่ตอบสนอง เธอจึงเอื้อมมือออกไปจะแตะหน้าผากด้วยความสงสัย
ถึงอย่างนั้น มือของเธอยังคงค้างอยู่ในอากาศ ชายคนนั้นที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง จู่ ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมาแล้วคว้าข้อมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว สีหน้าที่เขาแสดงออกมาทำให้เนลล์คิดว่าเขาไม่คุ้นตาซะจริง
เหมือนการมองคนที่คุณไม่เคยรู้จัก หรืออาจจะเป็นศัตรูด้วยซ้ำ
เนลล์ยิ้มอย่างขมขื่นใจ ความจริงแล้ว เธอเป็นศัตรูกับกิดเดียนเหรอ?
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น แต่เธอสามารถบอกได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่า กิดเดียนกำลังตามไล่ล่าเจฟฟ์ แต่เธอบังเอิญไปช่วยเจฟฟ์เอาไว้
ดังนั้นเธอจึงไม่มีอะไรข้องใจ
เนลล์เม้มริมฝีปากเข้าหากัน ข่มความรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด เมื่อต้องสบตากับเขา แล้วเอ่ยถามขึ้น “คุณฟื้นแล้วเหรอ? เป็นอย่างไรบ้าง? คุณรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
กิดเดียนจับมือเธอออกอย่างเย็นชาแล้วลุกขึ้นนั่ง
“ที่นี่ที่ไหน?” เขามองไปรอบ ๆ แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบห้าว อาจเป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บ น้ำเสียงของเขาจึงแหบผิดปกติ
เนลล์รู้สึกสับสนขึ้นมานิดหน่อย “คุณก็ไม่รู้เหมือนกันเหรอคะ? ฉันคิดว่าเป็นคนของคุณที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้เสียอีก คุณน่าจะรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน”
“คนของฉันเหรอ?” กิดเดียนมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ “ใครคือคนของฉัน?”
เนลล์อึ้งไป ตอนนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้น “คนของฉันตายบนเรือไปนานแล้ว”
เนลล์ตกใจสุดขีด!
“ถ้าอย่างนั้น พวกเขาไม่...”
เมื่อนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงรีบปิดปากทันที
กิดเดียนไม่ได้พูดอะไร เขามองดูเครื่องมือตรวจวัดที่ติดอยู่บนร่างกาย แล้วเอื้อมมือไปดึงสายยางพวกนั้นออก จากนั้นจึงสวมเสื้อโค้ทแล้วเดินออกไป
เนลล์รีบตามเขาไป
ยังคงไม่มีใครอยู่ข้างนอก แต่คราวนี้อาจเป็นเพราะเธออยู่กับกิดเดียน เธอสังเกตเห็นบางอย่างที่ดูแปลกไป ยกตัวอย่างเช่น ดูเหมือนมีเส้นสีแดงจาง ๆ ส่องผ่านอากาศ และเธอก็รู้ว่านั่นคือรังสีอินฟราเร็ด
กิดเดียนพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ตามฉันมาใกล้ ๆ แล้วทำทุกอย่างตามฉัน”
“อืม” เนลล์ตอบออกไปอย่างว่าง่าย ขณะที่เธอตามหลังเขาอยู่และค่อย ๆ ก้าวเดิน
ประมาณห้านาที ทั้งคู่ก็ออกมาถึงข้างนอก
กิดเดียนหยิบเครื่องแบบของภารโรงออกมาแล้วโยนให้เธอ แล้วบอกให้เธอเปลี่ยนชุด จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมือนกันอีกชุดหนึ่ง เขาดึงถังขยะออกมาจากทางเดินสองใบ แล้วพวกเขาก็เดินออกไปด้วยกันพร้อมกับก้มหน้าลง
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาทางออก
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงทางออก กิดเดียนปรายตามองเธอ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เธอจะไปกับฉันไหม หรือจะกลับเอง?”
เนลล์รู้ว่าตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันจะกลับเองค่ะ”
แม้ว่าความจริงแล้ว เธอคิดจะตามกิดเดียนไป มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เธอจะได้รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
ถึงอย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่การตัดสินใจของเธอ
ถึงตอนนี้เนลล์เข้าใจได้ว่า แม้ตอนนี้เธอจะย้อนเวลากลับมาแล้ว โดยความเป็นจริงแล้วเธอเป็นเพียงผู้เห็นเหตุการณ์ ที่ทำได้เพียงเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้นโดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้
กิดเดียนพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร แล้วหันกลับไปขึ้นรถ
เนลล์เรียกแท็กซี่จากข้างถนน แล้วขึ้นแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัย
เมื่อเธอมาถึงที่มหาวิทยาลัย สิ่งแวดล้อมโดยรอบยังคงเป็นเหมือนเดิมแบบที่เธอคุ้นเคย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก