ในช่วงเย็น หลังจากที่กลับถึงบ้าน หลังจากที่ไปทำธุระข้างนอกมา กิดเดียนก็เล่นเกมกับลิซซี่และวีมอนด์น้อยอยู่เป็นชั่วโมง จากนั้นเขาจึงง้อพวกเด็ก ๆ ให้หายไม่พอใจได้สำเร็จ
เพราะเนลล์กับกิดเดียนไม่อยู่เป็นเวลานาน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะงานยุ่งเมื่อพวกเขากลับมา
พวกเขาทั้งคู่ทำงานเป็นเวลานาน และพักผ่อนได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น
เจเน็ตเองก็รู้ว่าพวกเขากลับมาแล้วเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงพาลูกของเธอมาเยี่ยมพวกเขา
ลูกชายของเธอชื่อเลนนี่ อายุได้ห้าขวบครึ่งแล้ว นอกจากนั้นเธอยังเข้ากันได้ดีกับเกรกอรี่มากด้วย
ถึงแม้พวกเขาทั้งคู่จะมีเรื่องเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นมากมายในอดีต แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็สนิทกันดีเหมือนเป็นกาวใจ
ในตอนแรก คุณพ่อแฮนค็อกไม่เห็นด้วยที่เจเน็ตอยู่กับเลียม เพราะเขารู้ว่าเรื่องของเลียมกับพวกตระกูลกริฟฟินนั้นยากที่จะแก้ไข ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้ลูกสาวต้องเจ็บช้ำน้ำใจและเสียใจ
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว คุณพ่อแฮนค็อกได้เห็นแล้วว่าเลียมไม่ได้ทำให้เจเนตลำบาก
ในตอนแรกคุณพ่อแฮนค็อกไม่เต็มใจยอมให้ลูกสาวไป แต่ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกของพวกเขาก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
นอกจากนี้ เพราะมีเลนนี่อยู่ตรงกลางระหว่างความขัดแย้ง คุณพ่อแฮนค็อกมักจะคะยั้นคะยอให้พวกเขากลับบ้าน เพื่อฉลองวันขึ้นปีใหม่ทุกปี เพื่อที่เขาจะได้เห็นหน้าลูก
ส่วนลูกคนไหนที่คุณพ่อแฮนค็อกรอคอยที่จะได้เจอนั้น ก็มีเพียงเขาที่รู้อยู่แก่ใจ
มีข่าวลือออกมาว่าเจเน็ตตั้งครรภ์อีกครั้ง และหลังจากที่เข้าตรวจร่างกาย พวกเขาก็ได้รู้ว่าเด็กทารกเป็นผู้หญิง
เธอกับเลียมอยากได้ลูกสาวมาตลอด พวกเขามักจะมีความสุขอยู่เสมอเมื่อมาหาลิซซี่ และพวกเขาก็รักเธอมาก
และตอนนี้เลียมกับเจเน็ตก็สมหวังกับสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว
เนลล์กับเจเน็ตพูดคุยกันอยู่สักพักก่อนพวกเธอจะตัดสินใจไปช้อปปิ้งด้วยกัน
พวกเธอสองคนไปห้างสรรพสินค้าที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและหรูหราที่สุดในเมืองหลวง
มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทันทีที่ลงจากรถ พวกเธอไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปในห้างสรรพสินค้าด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเธอเห็นคือฝูงชนจำนวนมากอยู่ต่อหน้าพวกเธอ ซึ่งดูเหมือนพวกเขากำลังพูดคุยอะไรกันอยู่
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเธอจึงเดินไปข้างหน้า และแทรกตัวเบียดกับฝูงชนเข้าไป แล้วก็ได้เห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น
เธอใช้ผ้าคลุมขาเธอเอาไว้ เธอหยุดร้องไห้ไม่ได้ด้วยความเจ็บปวด มีเลือดไหลออกมาจากขาของเธอมากมาย
ผู้เห็นเหตุการณ์ที่มุงดูเธอ เพียงเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีใครยอมก้าวเข้าไปช่วยเลย
เนลล์อดไม่ได้ที่จะไม่พอใจ จึงพูดขึ้นเสียงแหลมขึ้นมา “คนพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมด? พวกเขาไม่รู้จักช่วยเหลือคนอื่นหรือไง?”
เธออยากจะก้าวเข้าไปช่วยหญิงชราคนนี้ระหว่างที่เธอพูดขึ้น
แต่จู่ ๆ เจเน็ตก็รั้งเธอเอาไว้
เนลล์มองเจเน็ตด้วยความงุนงง ขณะที่เจเน็ตบุ้ยปากไปทางที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อส่งสัญญาณให้เธอเห็น
เมื่อเนลล์หันไปมอง เธอก็เห็นชายร่างสูงใหญ่กำลังเดินมาทางหล่อน
ขณะที่ชายคนนั้นเดินมา ปากเขาก็ก่นด่า ดูเหมือนว่าเขากำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่
หญิงชรามองเขา แล้วร่างกายของเธอก็สั่นเทา
ชายคนนั้นเดินมาตรงหน้าหญิงชรา และด่าว่าด้วยความเกรี้ยวกราด “ทำไมแม่ถึงมาทำตัวน่าสมเพชอยู่ตรงนี้? แม่คิดว่าแม่ยังทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่พออีกเหรอ? แม่คิดว่าการมานั่งร้องห่มร้องไห้ ทำตัวน่าสมเพชอยู่ที่นี่จะมีคนมาช่วยแม่หรือไง?”
เมื่อเขาพูดจบ ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ยืนอยู่รอบ ๆ ก็ไม่อาจทนดูต่อไปได้
“นี่ แอนดรูว์ แพ็ก เกิดบ้าอะไรกับนาย? อย่างไรก็ตามเธอก็ยังเป็นแม่ของนายนะ นายทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง?”
“นั่นสิ เธอเลี้ยงดูนายมาด้วยความยากลำบากตั้งแต่ยังเด็กนะ ถึงเธอจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ก็เถอะ แต่ความกตัญญูรู้คุณคนที่เลี้ยงดูนายมายิ่งใหญ่เสียกว่าการให้กำเนิดนายอีกนะ นายไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยเหรอ?”
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่มุงดูโดยรอบ ซึ่งยังไม่กล้าเข้าไปช่วยหญิงชราคนนี้ ทันใดนั้นเองก็เริ่มร้องตะโกนขึ้นมา
ชายหนุ่มคนนี้เป็นที่รู้จักกันในนามแอนดรูว์ แพ็ก จ้องมองพวกเขาก่อนที่เขาจะตะคอกใส่ผู้ที่มุงดูอยู่อย่างรุนแรง “เรื่องของครอบครัวฉันมันเกี่ยวอะไรกับพวกแกทุกคน? เธอเป็นแม่ฉัน ไม่ใช่พวกแก ในเมื่อพวกแกเดือดร้อนมากนัก ทำไมไม่เชิญเธอกลับบ้าน แล้วดูแลเธอล่ะ?”
“เฮอะ! พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง?”
“เราทนยืนดูเรื่องแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ เพราะอย่างนี้เราถึงต้องพูดอะไรออกมาบ้าง ถ้านายอยากฟังก็ฟัง ถ้าไม่อยากฟังก็แค่ไม่ต้องสนใจ”
“นายมันใจร้าย ไม่เกรงกลัวบาปกรรม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก