กิดเดียนเองก็รู้ข่าวนี้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับความกลุ้มใจของเนลล์ เขากลับใจเย็น
“เกรแฮมคนเล็กมีความเชื่อมั่นในตัวเอง เขาจะไม่ยอมก้มหัวให้ครอบครัวของเขา ถ้าเขาทำ นั่นหมายความว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะเป็นอิสระและความมุ่งมั่นตั้งแต่ต้น อย่างไรเขาก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้แต่งงานกับเซลีนก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผลประโยชน์ร่วมกัน แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยจริง ๆ “
ทว่าเนลล์ก็ยังคงกังวล
“แต่เธอ...”
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเธอ กิดเดียนก็บีบฝ่ามือของเธอเบา ๆ
“ไม่ต้องกลัวนะ” เขากระซิบบอก “ทั้งเกรแฮมและลีย์เราอยู่คนละฝั่งกันแล้ว สำหรับผู้หญิงคนนั้นที่ทำแบบนั้นกับคุณ พวกคุณไม่สามารถหยุดต่อสู้และเป็นเพื่อนกันได้อีกไม่ว่าเธอจะแต่งงานกับเกรแฮมคนสุดท้องหรือไม่ก็ตาม เธอยังคงเป็นศัตรู มันไม่ส่งผลกระทบต่อคุณ ไม่ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันหรือไม่”
เนลล์เงยหน้าของเธอขึ้นและจ้องมองไปที่เขา สัญญาณของความทุกข์คลี่คลายลง จากการที่เธอคลายจากการขมวดคิ้ว
“มันจะไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหมคะ? คุณสามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียวใช่ไหม ถ้าการ์เร็ตต์และเกรแฮมรวมเข้าด้วยกัน?”
กิดเดียนยิ้ม
เขาเอื้อมมือออกไปและประคองใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง นิ้วเรียวของเขาลูบไล้ที่ใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้นอย่างแผ่วเบา “ผมทำได้ ถ้าคุณอยู่เคียงข้างผม”
หัวใจของเนลล์เต้นรัว
การจ้องมองของเขานั้นช่างอ่อนโยนทว่าแน่วแน่ มีพลังบางอย่างโดยไม่ต้องเอ่ยมันออกมาทำให้หัวใจของเธอสงบลง
เธอยื่นมือออกไปโอบรอบเอวของเขาและแนบใบหน้าลงบนแผ่นอกของเขา
“ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอค่ะ และเราจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
กิดเดียนยกริมฝีปากขึ้นยิ้มด้วยความยินดี
“ไม่ต้องกังวลนะ เกรแฮมจะไม่ใช้วิธีใด ๆ ในสองวันนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องรอให้ถึงช่วงหลังปีใหม่จึงจะเคลื่อนไหวได้ เราแค่ดื่มด่ำกับช่วงเวลาวันหยุดก่อนจะถึงตอนนั้น ตกลงไหม?”
เนลล์พยักหน้าและครางรับในลำคอเป็นเชิงรับทราบ
...
อีกด้านหนึ่ง ที่จินเฉิง
แน่นอนว่าตระกูลแฮนค็อกเองก็คึกคักในช่วงวันแรกของปีใหม่ทางจันทรคติ
ในฐานะหัวหน้าบริษัทชั้นนำในจินเฉิง อีธานต้อนรับผู้มาเยือนมากมายในวันนี้
อัลริกเป็นนายน้อยของตระกูลแฮนค็อก มีแนวโน้มที่จะเข้าสังคมเช่นกัน
สาวใช้ในบ้านยุ่งมาก ทำงานตั้งแต่หลังครัวไปจนถึงล็อบบี้ พวกเขาไม่ได้หยุดพักแม้แต่นาทีเดียว
ดังนั้น เจเน็ตที่ไม่มีอะไรทำ ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่มีเวลาว่าง
เธอไม่ใส่ใจที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกสังคมโง่ ๆ ดังนั้นเธอจึงอยู่แต่ข้างบนและแม้แต่อาหารเที่ยงเธอก็ทานบนห้องโดยสั่งให้ส่งขึ้นมาข้างบนห้อง
อีธานยุ่งอยู่กับการดูแลแขกจึงไม่ได้รบกวนเธอ ในทางตรงกันข้าม ระหว่างนั้นอัลริกก็ส่งแม่บ้านคนหนึ่งขึ้นมาหาเธอเพื่อสอบถามว่าเธอต้องการจะลงไปนั่งข้างล่างหรือไม่ มีผู้อาวุโสมากมายจากบริษัทอยู่ที่นี่ และเธอในฐานะเด็กควรจะไปทักทายเพราะเธอกลับมาที่จินเฉิง
อย่างไรก็ตามเจเน็ตก็ปฏิเสธเขา
เธอไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของบริษัท แค่มีพ่อของเธอและพี่ชายอยู่ในบริษัทก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้นแน่นอน เธอจะไม่เสียเวลาลงไปพบกับคนเหล่านี้
อัลริกรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ทว่าก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับนิสัยของน้องสาว เขาจึงพยายามชักชวนเธอ
เนื่องจากมีแขกมากเกินไปและเจเน็ตปฏิเสธที่จะออกมาช่วย ครอบครัวที่ปราศจากเจ้าบ้านที่เป็นผู้หญิงจึงเป็นบ้านที่วุ่นวายแม้ว่าจะมีแม่บ้านมากมายก็ตาม
ด้วยเหตุนี้อีธานจึงจองห้องส่วนตัวในโรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ใกล้ ๆ และเตรียมที่จะพาพวกเขาไปรับประทานอาหารที่นั่น
เพราะไม่อยากไปเจเน็ตจึงแอบอยู่ในห้องของเธอและดูละครโทรทัศน์
ในขณะที่พวกเขายังคงเงียบใส่กัน อีธานปล่อยเธอเอาไว้แบบนั้น อย่างไรก็ตามมีแม่บ้านอยู่ในบ้านและมีอาหารสำเร็จรูป เธอคงจะไม่หิว จากนั้นเขาจึงพาแขกออกไปเมื่อถึงเวลา
เมื่อได้ยินเสียงของความโกลาหลด้านนอกค่อย ๆ จางหายไป เจเน็ตปิดแท็ปเล็ตตรงหน้าของเธอพลางหลับตาของเธอลง เธอสวมรองเท้าแตะและออกจากห้อง
เธอออกจากห้องในที่สุด สาวใช้ก็ก้าวออกมาข้างหน้าในทันที
“คุณหนู คุณจะไปไหน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก