แต่โจเอลได้ยอมรับหรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้คือแฟนของเขา?
ข่าวที่ได้ยินมาก็เปรียบเหมือนกระสุนและกลุ่มผู้หญิงดังกล่าวพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
“คุณไปยืนทำไมตรงนั้น? คุณจะไล่ผู้หญิงพวกนี้ออกไปไหม?” โจเอลตะโกนใส่คุณบาร์เน็ตต์ที่กำลังเหงื่อไหล เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาจึงขึ้นเสียงใส่แชนนอนและกลุ่มของเธอ “ไม่ได้ยินเหรอ? สถานที่นี้ถูกซื้อโดยนายน้อยฟอสเตอร์แล้ว ออกไป!”
แชนนอนและญาติของเธอสบตากันก่อนที่จะเดินจากออกไป
จากนั้นคุณบาร์เน็ตต์ยิ้มด้วยความขอโทษ “นายน้อยรองฟอสเตอร์ครับ ช่วยดูเอกสารของพิพิธภัณฑ์…”
“จัดการตอนนี้เลย!”
“ครับ! ครับ! ผมจะให้คนมาจัดการให้ทันทีเลยครับ”
คุณบาร์เน็ตต์หยิบโทรศัพท์ของขึ้นมาโทรพร้อมกับปาดเหงื่อของเขาที่หน้าผาก ลูซี่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงจับไปที่แขนเสื้อของโจเอลและลดเสียงของเธอลง “อย่าซื้อที่นี่เลยนะ โจเอล”
โจเอลเหลือบมองไปที่เธอ และเม้มริมฝีปากของเขา
“โจเอล…” ลูซี่เรียกเขาอีกครั้ง
โจเอลเงียบ
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากจะใช้กลของเธอ เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “โจเอล…”
และใช่ ริมฝีปากของชายหนุ่มค่อย ๆ คลายลงและท่าทีของเขาดูอ่อนลง เขากระซิบ “ผมบอกแล้วว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม ผมจะปล่อยให้นังสารเลวพวกนั้นมารังแกคุณได้ยังไง? ผมต้องใช้พวกเขาเป็นตัวอย่าง เข้าใจไหม?”
ใช้พวกเขาเป็นตัวอย่าง?
ลูซี่ค้าง เขาพยายามจะสร้างชื่อเสียงให้กับเธอเหรอ?
เธอเป็นแฟนของโจเอล ถ้าพวกเขาอยู่ด้วยกัน เธอคงต้องตกอยู่ในวงเวียนของสังคมชั้นสูงแน่สักวันหนึ่ง เช่นการที่เขากังวลว่าเธอจะถูกรังแก เขาจึงสร้างตัวตนและชื่อเสียงให้กับเธอในตอนนี้
ลูซี่ก้มหัวของเธอลงและปิดปากเงียบ อารมณ์แห่งความแปรปรวนกำลังท่วมท้นในตัวเธอ
บางครั้ง…ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดชังขนาดนี้
เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ไดนำเอกสารมา และคุณบาร์เน็ตต์ได้ยื่นให้โจเอลเซ็น แต่หลังจากนั้นโจเอลกลับส่งต่อให้ลูซี่
“เซ็นสิ!”
ลูซี่เม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน จากนั้นเธอหยิบปากกาและเซ็นชื่อของเธอ
ตามมาด้วยการที่คุณบาร์เน็ตต์เซ็นชื่อของตัวเอง และปั้มตราประทับลงเอกสาร จากนั้นเขาจึงยื่นเอกสารข้อตกลงการโอนย้าย
“คุณแคทซ์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นของคุณแล้ว คุณต้องการจะทำอะไรต่อไปดีครับ?”
ลูซี่มองไปที่โจเอล
ใบหน้าของชายหนุ่มไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ราวกับเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ลูซี่ตัดการกับทุกอย่างเอง
เธอครุ่นคิดอยู่สักพักและพูด “คุณบาร์เน็ตต์ ฉันได้ยินมาว่าเหตุผลที่ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อปลูกฝังให้เด็ก ๆ สนใจเทคโนโลยีมากขึ้น และสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทั่วประเทศ ในกรณีนั้น งั้นใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้เต็มที และให้เป็นไปตามแบบเดิมที่มันเคยเป็นดีกว่าค่ะ”
“ฉันจะเก็บข้อตกลงการโอนหุ้นไว้ แต่ฉันหวังว่าคุณจะดูแลพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นะคะ คุณบาร์เน็ตต์ รายได้ทั้งหมดยังคงเป็นของกองทุนการวิจัยเทคโนโลยี ท้ายที่สุดแล้วขอให้คุณทำเหมือนเดิมที่คุณทำมาโดยตลอด”
เวย์นประหลาดใจเล็กน้อย เขาจ้องไปที่เธอด้วยสายตาสุดซึ้ง
“ครับ ขอบคุณนะครับ คุณแคทซ์”
ลูซี่ยิ้มและหันไปมองดูโจเอล “แบบนี้พอได้ไหม?”
โจเอลมองเธออย่างอ่อนโยนพร้อมลูบหัวของเธอ “ตราบใดที่เธอมีความสุข”
คุณบาร์เน็ตต์ส่งทั้งคู่กลับ
มันเป็นเวลาค่ำแล้ว เมื่อทั้งคู่ขึ้นรถ โทรศัพท์ของโจเอลก็ดังขึ้น
เขาเหลือบมองดู แต่ลูซี่ไม่สามารถมองเห็นว่าเป็นชื่อของใครที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
แต่เธอสังเกตเห็นว่าคิ้วของเขาขมวด และแสดงสีหน้าหงุดหงิดขนาดไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก